Facebook Thai: ดินแดนแห่งพันธสัญญาของมิจฉาชีพ (The Promised Land of Scammers)
สรุปบทความจาก
ความน่าจะเป็น (Probability): 51.02% หากคุณเป็นคนไทยที่ "พบเจอ" มิจฉาชีพ (Exposure) โดยเฉพาะบน Facebook ซึ่งเป็นช่องทางหลัก โอกาสที่คุณจะตกเป็นเหยื่อ (โอนเงิน/เสียทรัพย์) มีสูงถึง 51.02% หรือเทียบเท่ากับการโยนหัวก้อย (50:50) เจอ 2 คน จะมีคนพลาด 1 คน
ทุกคนก็คิดว่าไม่โดนหรอก แต่ ดร. คนดังก็ยังโดน มีไม่ใช่เรื่อง ที่ปล่อยผ่านได้
ที่มาของการคำนวณ (Calculation Breakdown)วิเคราะห์จากโมเดล "กรวยความเสี่ยง" (Risk Funnel) ของประชากรไทยปี 2566-2567:ประชากรไทยทั้งหมด: ~66,000,000 คน
คนที่เจอ 36,000,000 คน(คือจำนวนคนที่รายงานว่า "เคยถูกหลอกลวง/พบเจอ" มิจฉาชีพ)ผู้เสียหายจริง (Victims): 18,370,000 คน(คือคนที่เสียเงินจริงๆ จากกลุ่มที่เจอ)
เหยื่อ 66% โดนในเฟสบุ๊คไทย
สูตรคำนวณอัตราความสำเร็จของมิจฉาชีพ (Conversion Rate):
หมายเหตุ:คนที่เจอ ไม่ได้เจอแค่ครั้งเดียว อย่าผมวันหนึ่ง อาจจะเจอ โฆษณาหลอกลวงในเฟสบุ๊ก หลายโฆษณา และ สะสม หลายวัน
และ นี้คือตัวเลขทั่วประเทศ ถ้าเฟสบุ๊คไทย มีค่าเฉลี่ย เท่ากับการหลอกลวง กับที่อื่นๆ ก็จะเป็น 51% แต่ๆ มันไม่ใช่นะสิครับ คิดว่ามันเบา กว่างั้นหรือ?
ตัวอย่างในสหรัฐ "Facebook รวยหลายพันล้านจากมิจฉาชีพ" คลิป ช่องคุณ Ing
อันนี้ของสหรัฐ คิดว่าของเฟสไทย เราพอๆกว่าสหรัฐหรือไม่ หรือเมืองพุทธ จะรายได้จากมิจฉาชีพน้อยกว่าสหรัฐหรือไม่ ก็ไม่รู้สินะ เพราะเฟสบุ๊คไทย ไม่ได้เปิดตัวเลข ให้ดู
เมื่อสถิติบอกว่าคนไทยเจอสแกมบ่อยที่สุดในเอเชีย (89% เจอทุกเดือน) และตัวเลขความเสียหายพุ่งไปถึงแสนล้านบาท
Facebook Thai ไม่เคยเปิดเผยตัวเลขรายได้จากโฆษณาสีเทาเหล่านี้ แต่จากสภาพหน้าฟีดที่เราเห็นกันทุกวัน... โฆษณาหลอกลงทุน, หลอกขายของ, หลอกทำงานพิเศษ ที่ยิงแอดกันรัวๆ สะสมทุกวัน วันละหลายรอบ
คำว่า "เมืองพุทธ" ของไทย อาจจะเป็น บ่อปลาอ้วนๆหรือ "บ่อทองคำ" ที่ไม่มีการดูแลดีเท่าสหรัฐฯ ด้วยซ้ำ
จากตัวเลข ถ้า ไม่โดนหลอกในเฟสบุ๊ค มิจฉาชีพก็จะขาดเหยื่อไปได้ถึง 66% ว๊าว มาก
ใช้คำว่า คนเข้าเฟส แล้วไม่โดนหลอกนะ ไม่ใช่ถ้าไม่มีเฟส
บทความนี้ ที่ยังขาด คือ อัตราความสำเร็จในเฟสบุ๊คไทย ผมมี อัตราของผม ย้อนหลัง 5 ปี คือ 0% คือ ณ.วันที่เขียนบทความ ผมยังรอดอยู่ แต่แม่ผม ลุงผม ไม่รอด เคสที่โดนแม่ผมคือหลอกขายของซะส่วนใหญ่ ส่วนลุงผมยิ่งหนัก หลายเคส หลายแบบ มีทั้งขำ และมีทั้งสงสาร
มาดูที่เฟส เราสามารถ คำนวนได้ ว่ามีไอดีคนไทยกี่คน อันนี้ต้องระวัง เพราะคนหนึ่ง มีหลายไอดี
อ้างอิงสถิติ Digital 2024: Thailand (We Are Social)
จำนวนผู้ใช้ Facebook ในไทย: ประมาณ 49,000,000 บัญชี
ผู้เสียหายหรือเหยื่อ ที่โดนหลอก จาก Facebook Thai
18,370,00 (เหยื่อทั้งหมด) x 66% = 12,124,200 คน
หาอัตราส่วน "คนเล่นเฟส vs คนโดนหลอก"เอายอดเหยื่อจากเฟส (12.12 ล้าน) หารด้วย จำนวนคนเล่นเฟสทั้งหมด (49 ล้าน)
12,124,200 / 49,000,000 = 24.7 %
นี้คือบทสรุป โดย Gemini Pro 3.0
บทวิเคราะห์ใหม่: ความจริงที่น่ากลัวกว่าเดิม
จากตัวเลข 24.7% หรือตีกลมๆ คือ 25% นี้หมายความว่า:
ทฤษฎี "1 ใน 4": ถ้าคุณเดินไปเจอคนไทยที่เล่น Facebook 4 คน จะมี 1 คนที่ "เสียเงิน" ให้มิจฉาชีพไปแล้ว (ไม่ใช่แค่ "เกือบโดน" แต่คือ "โดนไปแล้ว")
เพื่อนคุณ 4 คน ต้องมีคนนึงเจ็บหนัก
ความเสี่ยงแบบ "Russian Roulette" (รัสเซียนรูเล็ต):
สถิติเดิมของคุณ (51%) คือความน่าจะเป็นของคนที่ "รู้ตัวว่าเจอ/เข้าไปยุ่ง" แล้วจะโดน
แต่สถิติใหม่ (25%) คือความเสี่ยงของ "การมีบัญชี Facebook อยู่เฉยๆ"
การแค่มีแอป Facebook ติดเครื่อง เท่ากับคุณแบกความเสี่ยงที่จะเสียทรัพย์ไว้แล้ว 1 ใน 4 โดยไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะอัลกอริทึมจะยัดเยียดโฆษณาโจรมาให้คุณเอง
ปริมาณเหยื่อระดับ "ประเทศ":
ผู้เสียหายเฉพาะใน Facebook (12.1 ล้านคน) มีจำนวนมากกว่าประชากรของบางประเทศ (เช่น เบลเยียม, สวีเดน หรือ โปรตุเกส) เสียอีก
นี่ไม่ใช่แค่ "กลุ่มผู้เสียหาย" แต่คือ "ประชากรเกรด B" ที่ถูกระบบทอดทิ้งให้โดนล่า
สรุปเพื่อเติมในบทความ
หากจะขยี้ให้หนักขึ้น คุณสามารถใช้ชุดข้อมูลนี้เสริมเข้าไปได้ครับ:
"ในประเทศไทย การมีบัญชี Facebook ไม่ใช่แค่เรื่องของการเข้าสังคม แต่คือการยอมรับความเสี่ยงระดับ 25% ที่จะถูกปล้น หากคุณมีเพื่อนในเฟส 12 คน สถิติบอกว่ามีถึง 3 คนในนั้นที่เสียเงินให้โจรไปแล้ว... โดยที่ Facebook ฟันกำไรจากค่าโฆษณาของโจรที่ปล้นเพื่อนคุณนั่นแหละ"
มุมมองนี้ทำให้เห็นภาพว่า Facebook ไม่ใช่แค่ "ทุ่งสังหาร" แต่เป็น "ฟาร์มมนุษย์" (Human Farm) ที่เลี้ยงไว้ให้โจรมาเก็บเกี่ยวผลผลิตครับ
*************
จากสรุป Gemini pro เรียกเป็น ฟาร์มมนุษย์ (Human Farm) ทำให้สิ่งที่ผมเรียกตอนแรก ดินแดนแห่งพันธสัญญาของมิจฉาชีพ (The Promised Land of Scammers) ดูเบาไปเลย
ผมเลยถามว่าทำไม ถึงมองเป็นฟาร์มมนุษย์ ได้คำตอบ ประมาณนี้
เพราะ Algorithm ของ Facebook เรียนรู้ว่าเราสนใจอะไร แล้ว แล้วป้อนสิ่งนั้นใส่ปากใส่สมองเรา
แต่ในอีกมุม คือการ ป้อนพวกเรา ใส่ปากมิจฉาชีพ ที่ยิง Ads ตรงกลุ่มเป้าหมาย
ส่วนขยายสำหรับบทความ โดย gemini pro 3.0
"อัลกอริทึม: พ่อค้าคนกลางค้าเนื้อมนุษย์"
เรามักเข้าใจผิดว่า Algorithm ทำงานเพื่อเสิร์ฟสิ่งที่เราชอบ... แต่นั่นเป็นแค่ครึ่งเดียวของความจริง หน้าที่ที่แท้จริงของมันคือการ "ขุนให้อ้วน แล้วส่งเข้าปากเสือ"
ระบบ AI ของ Facebook เรียนรู้พฤติกรรมเราอย่างละเอียด ไม่ใช่เพื่อความบันเทิงของเรา แต่เพื่อ "จัดหมวดหมู่เหยื่อ"
ใครชอบของถูก -> ส่งไปให้แก๊งกล่องสุ่มทิพย์เคี้ยวเล่น
ใครร้อนเงิน -> ส่งไปเข้าปากแก๊งเงินกู้ออนไลน์
ใครมีความรู้เรื่องหุ้น/Crypto (อย่างพวกเรา) -> คัดเกรดเป็น "เนื้อชั้นดี" แล้วป้อนใส่ปากแก๊ง Hybrid Scam ที่จ่ายค่าโฆษณาแพงที่สุด
"เราไม่ได้ถูกสุ่มเจอ แต่เราถูกระบบคัดสรรและจัดส่งแบบ Delivery ถึงที่" ในระบบนิเวศนี้ เราไม่ใช่ลูกค้า... แต่เราคือสินค้าในไลน์การผลิตที่รอวันถูกส่งมอบให้ผู้ที่จ่ายเงินสูงสุด (ซึ่งก็คือมิจฉาชีพ)
วิเคราะห์เพิ่มเติมในมุม Technical (ที่คุณถนัด)
ในมุมคนรู้เรื่อง Tech แบบคุณ poipoi น่าจะทราบดีว่าระบบ Facebook Ads Manager มันอนุญาตให้ยิงแอดแบบระบุ Interest ได้ละเอียดมาก
มิจฉาชีพแค่ติ๊กเลือก Interest: "Stock market", "Cryptocurrency", "Gold"
Algorithm ก็จะทำหน้าที่ "Matchmaker from Hell" (พ่อสื่อจากนรก) จับคู่เราไปให้ทันที
มุมมองนี้แหละครับที่ทำให้คำว่า "Facebook Thai the Promised Land of Scammers" มันจริงที่สุด เพราะระบบมัน อำนวยความสะดวกให้โจรหาเหยื่อได้ง่ายกว่าการเดินหาเองเป็นพันเท่า ครับ
******************************************************
* แล้วก็ ผมใช้คำว่า เฟสบุ๊คไทยเพื่อไม่ให้ เหมารวมหรือ ไปกระทบกับ Facebook Global หรือ เฟสบุ๊กกัมพูชา หรือ ประเทศอื่นๆ นะครับ *
******************************************************



