![]() |
| ภาพโดย gemini pro |
เอกสารฉบับเต็ม จะอ่านง่ายกว่า เว้นวรรคถูกต้อง
https://docs.google.com/document/d/1xJiXFrYUGKyRhNf1iqS_3NgIwtLLbnaMghrLppKnlWI/edit?usp=sharing
รายงานจัดทำโดย Gemini pro ผู้ใช้ที่กล่าวถึงคือผมเอง Poipoi
การวิเคราะห์ผลกระทบหลายมิติ (Multi-Dimensional Impact Analysis) เรื่องการยกเลิกประเพณีลอยกระทงในประเทศไทย:
บทสรุปผู้บริหาร (Executive Summary)
รายงานวิเคราะห์ฉบับนี้ทำการประเมินเชิงลึกต่อข้อเรียกร้องให้ยกเลิกประเพณีลอยกระทงในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นถกเถียงในหลายปีหลัง โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากกลุ่มที่มุ่งเน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 1 ผลการวิเคราะห์พบว่า แม้ข้อเรียกร้องดังกล่าวจะมีเจตจำนงที่ดีในการลดผลกระทบทางลบต่อระบบนิเวศทางน้ำ แต่การผลักดันนโยบาย "การยกเลิก" (Cancellation) อาจก่อให้เกิด "ผลกระทบที่ไม่ได้ตั้งใจ" (Unintended Consequences) ที่มีความรุนแรงและซับซ้อนในหลายมิติ
ในมิติด้านสิ่งแวดล้อม การวิเคราะห์ข้อมูลสถิติขยะกระทงล่าสุดจากกรุงเทพมหานครในปี 2568 3 ชี้ให้เห็นถึง "ความผิดปกติเชิงนโยบาย" (Policy Anomaly) กล่าวคือ แม้จำนวนกระทงโดยรวมจะลดลง 24% 4 แต่สัดส่วนกระทงโฟมกลับเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก 8,270 ใบในปี 2567 เป็น 28,298 ใบในปี 2568 3 สวนทางกับสัดส่วนกระทงวัสดุธรรมชาติที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ 5 ปรากฏการณ์นี้ชี้ว่า การรณรงค์เชิงลบที่มุ่งโจมตีทุกทางเลือก (รวมถึงกระทงขนมปังและกระทงธรรมชาติ) 2 อาจผลักดันให้ผู้บริโภคหวนกลับไปใช้วัสดุที่เลวร้ายที่สุดต่อสิ่งแวดล้อมคือโฟม
ในมิติเศรษฐกิจและสังคม การยกเลิกเทศกาลจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจฐานราก (Grassroots Economy) คิดเป็นมูลค่าเม็ดเงินสะพัดประมาณ 9.6 ถึง 10 พันล้านบาทต่อปี 8 โดยทำลายวงจรรายได้สำคัญของเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยตานี 10 ผู้ประกอบการงานฝีมือ 11 และร้านค้าชุมชนในงาน 12
ในมิติภูมิรัฐศาสตร์และ Soft Power ข้อเรียกร้องให้ยกเลิกเกิดขึ้นในจังหวะเวลาที่ "ละเอียดอ่อน" (Sensitive) อย่างยิ่ง เนื่องจากรัฐบาลไทยกำลังอยู่ในกระบวนการผลักดัน "ประเพณีลอยกระทงในประเทศไทย" (Loy Krathong tradition in Thailand) 13 เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (ICH) ของ UNESCO 13 การถกเถียงเชิงลบภายในประเทศจึงเป็นการบ่อนทำลายความชอบธรรม (Legitimacy) ของยุทธศาสตร์ Soft Power ระดับชาติ และอาจ "เข้าทาง" คู่แข่งทางวัฒนธรรมที่พยายามอ้างสิทธิ์ในเทศกาลนี้ 15
การวิเคราะห์กระทงทางเลือกพบว่า "ไม่มีทางเลือกใดที่สมบูรณ์แบบ" 2 กระทงน้ำแข็งช่วยแก้ปัญหาขยะปลายทาง แต่มีแนวโน้มสร้างคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในกระบวนการผลิต (Upstream Carbon) สูงกว่ากระทงใบตอง 16 ในขณะที่เทคโนโลยีอย่าง AI หรือเลเซอร์ 18 สามารถเป็น "ส่วนเสริม" (Addition) เพื่อทดแทนพลุ แต่ไม่สามารถ "ทดแทน" (Replacement) แก่นแท้ของพิธีกรรมส่วนบุคคลได้
ดังนั้น รายงานนี้จึงสรุปว่า ทางออกที่เหมาะสมที่สุดมิใช่ "การยกเลิก" แต่เป็น "การจัดการอย่างเข้มงวด" (Managed Mitigation) ผ่านการผสมผสานนโยบาย 3 ด้าน: 1) การควบคุมพื้นที่ (Zoning Policy) โดยจำกัดการลอยในพื้นที่ปิดที่กำหนด 7 2) การควบคุมวัสดุ (Material Policy) โดยการห้ามใช้โฟมและขนมปังในระบบปิดอย่างเด็ดขาด 7 และ 3) การสร้างคุณค่าใหม่ (Rebranding) โดยเชื่อมโยงประเพณีเข้ากับการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากและความยั่งยืน
บทนำ: การปะทะกันของกระบวนทัศน์ (A Clash of Paradigms)
ประเด็นการถกเถียงว่าด้วยการจัดงานประเพณีลอยกระทงที่วนกลับมาทุกปีในรอบ10ปีหลัง ในสังคมไทย (ตามข้อสังเกตของผู้ใช้) สะท้อนให้เห็นถึงการปะทะกันอย่างชัดเจนระหว่างสองกระบวนทัศน์หลักที่กำลังขับเคลื่อนสังคมร่วมสมัย ได้แก่ กระบวนทัศน์ "การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเชิงสัมบูรณ์" (Environmental Absolutism) และกระบวนทัศน์ "การอนุรักษ์วัฒนธรรมเชิงพลวัต" (Dynamic Cultural Preservation)
กระบวนทัศน์แรก ซึ่งมักถูกระบุว่าเป็นข้อเรียกร้องจาก "ฝ่ายซ้าย" หรือกลุ่มรณรงค์เพื่อความก้าวหน้า (Progressive movement) 20 มุ่งเน้นการประเมินผลกระทบเชิงลบด้านสิ่งแวดล้อมเป็นตัวตั้ง 1 โดยมีข้อโต้แย้งว่าประเพณีที่สวยงามในอดีตได้กลายมาเป็นภัยคุกคามต่อระบบนิเวศในปัจจุบัน 21 และสร้างภาระขยะจำนวนมหาศาล 7 ภายใต้กรอบคิดนี้ ประเพณีและวัฒนธรรมเป็นสิ่งที่ต้องปรับเปลี่ยน หรือแม้กระทั่ง "ยกเลิก" ได้ หากพิสูจน์ได้ว่าก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีต่อส่วนรวมในยุคปัจจุบัน 21 ในประเด็นนี้ ผู้ใช้ได้ตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า การมุ่งโจมตีประเพณีวัฒนธรรมไทยในลักษณะนี้ อาจสะท้อนถึง "อคติ" (Bias) ในขณะที่ปัญหาการก่อมลพิษที่หนักหน่วงกว่า กลับไม่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ในระดับเดียวกัน ซึ่งในความเป็นจริง กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ชี้ว่าหนึ่งในดัชนีหลักที่ทำให้คุณภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างเสื่อมโทรมมาก คือการปนเปื้อนของ "แบคทีเรียกลุ่มฟิคอลโคลิฟอร์ม" (Fecal Coliform Bacteria)
ในทางกลับกัน กระบวนทัศน์ที่สอง ซึ่งมักได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายอนุรักษ์วัฒนธรรมและหน่วยงานภาครัฐ 22 มุ่งเน้นการสืบสานคุณค่าดั้งเดิมของประเพณี ไม่ว่าจะเป็นการขอขมาพระแม่คงคา 24 การสร้างความสามัคคีในชุมชน 23 ตลอดจนการใช้ประโยชน์จากประเพณีในฐานะเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและยุทธศาสตร์ Soft Power 8 จุดยืนของภาครัฐในปัจจุบันมีความชัดเจน โดยนายกรัฐมนตรีได้ออกมายืนยันว่าจะไม่มีการยกเลิกการจัดงานประเพณีลอยกระทง 25
วัตถุประสงค์ของรายงานฉบับนี้ คือการวิเคราะห์ข้อโต้แย้งของทั้งสองฝ่ายอย่างเป็นกลางและรอบด้าน ผ่านกรอบการวิเคราะห์ 7 มิติที่ผู้ใช้กำหนด เพื่อประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากมีการยกเลิกประเพณี และเพื่อสังเคราะห์หาจุดสมดุลเชิงนโยบาย (Policy Equilibrium) ที่สามารถตอบสนองต่อความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาไว้ซึ่งคุณค่าทางวัฒนธรรมและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศ
ส่วนที่ 1: มิติด้านสิ่งแวดล้อม – การประเมินผลกระทบและทางเลือกในการจัดการ
ข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อมถือเป็นหัวใจหลักของข้อเรียกร้องให้ยกเลิกประเพณีลอยกระทง 1 อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเผยให้เห็นความซับซ้อนของปัญหาที่มากกว่าแค่ "ปริมาณขยะ"
1.1 การวิเคราะห์สเกลของปัญหา: ขยะกระทงเทียบกับขยะรายวัน
ข้อโต้แย้งสำคัญประการหนึ่งจากฝ่ายที่สนับสนุนการจัดงาน คือการเปรียบเทียบปริมาณขยะกระทงกับปริมาณขยะมหาศาลที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน (ตามประเด็นของผู้ใช้ 1.2) การวิเคราะห์ข้อมูลสนับสนุนข้อโต้แย้งนี้ในระดับหนึ่ง
ขยะรายวัน: ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในอดีต ระบุว่าคนไทยหนึ่งคนสร้างขยะโดยเฉลี่ย 1.14 กิโลกรัมต่อคนต่อวัน 27 ขณะที่ข้อมูลล่าสุดระบุว่าปริมาณขยะในกรุงเทพมหานครอยู่ที่ประมาณ 8,500 ถึง 9,000 ตันต่อวัน 28 แม้ข้อมูลบางแหล่งอาจระบุว่าคน กทม. สร้างขยะสูงถึง 2.2 กิโลกรัมต่อวัน 30 หรือประมาณ 1.0 กิโลกรัมต่อวัน 29
ขยะกระทง: ในเทศกาลลอยกระทงปี 2568 กรุงเทพมหานครสามารถจัดเก็บกระทงได้จำนวน 391,027 ใบ 3 หากประเมินน้ำหนักเฉลี่ยของกระทงที่ 0.5 กิโลกรัมต่อใบ (ซึ่งรวมกระทงขนมปังและกระทงใบตองขนาดใหญ่) ปริมาณขยะกระทงทั้งหมดใน กทม. จะอยู่ที่ประมาณ 195.5 ตัน
เมื่อเปรียบเทียบกัน ขยะกระทงประมาณ 195.5 ตัน คิดเป็นสัดส่วนเพียงประมาณ 2.17% ของปริมาณขยะที่ กทม. ผลิตขึ้นใน วันเดียว (ที่ฐานประมาณ 9,000 ตัน)
ประเด็นสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ "ปริมาณ" สุทธิ แต่อยู่ที่ "ความสามารถในการจัดการ" (Manageability) ขยะกระทงเป็นขยะที่เกิดขึ้นในวันเดียวและมีพื้นที่จำกัด (Event-based Waste) ทำให้ กทม. สามารถวางแผนปฏิบัติการจัดเก็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปี 2568 กทม. ระบุว่าสามารถจัดเก็บกระทงใน 110 แห่งทั่วกรุงเทพฯ 4 และปฏิบัติงานแล้วเสร็จภายในเวลา 05.00 น. ของวันรุ่งขึ้น 4 ซึ่งยืนยันข้อสังเกตของผู้ใช้ที่ว่า "การลอยกระทงที่มีวันแน่นอน ทำให้ทาง กทม. จัดเก็บได้ง่าย" ประเด็นนี้จึงนำไปสู่ข้อสรุปที่สำคัญ (ตามข้อสังเกตของผู้ใช้) ว่า หากมีการควบคุมให้ใช้วัสดุธรรมชาติ 100% (Natural Materials) 5 ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสูงของ กทม. (High-Efficiency Management) 31 ซึ่งสามารถจัดเก็บกระทงได้เกือบทั้งหมด (เช่น 99.5%) ผลกระทบสุทธิต่อแม่น้ำลำคลองก็จะอยู่ในระดับที่ "แทบไม่มีนัยสำคัญ" (Near-Zero Impact) 5 ปัญหาสิ่งแวดล้อมจึงไม่ได้อยู่ที่ "แก่น" ของประเพณี แต่อยู่ที่ "การจัดการ" และ "การเลือกใช้วัสดุ" ที่ผิดพลาด (เช่น โฟม หรือ ขนมปังในระบบปิด) 7
1.2 ความผิดปกติของสถิติปี 2568: ผลกระทบที่ไม่ได้ตั้งใจของการรณรงค์?
แม้ว่าภาพรวมขยะกระทงจะจัดการได้ แต่เมื่อวิเคราะห์แนวโน้มสถิติการจัดเก็บขยะกระทงใน กทม. กลับพบความผิดปกติที่น่ากังวลในปี 2568 ซึ่งอาจเป็นผลกระทบที่ไม่ได้ตั้งใจ (Unintended Consequence) ของการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ผ่านมา
แนวโน้มโดยรวมดูเป็นบวก: จำนวนกระทงรวมในปี 2568 (391,027 ใบ) ลดลงถึง 24% จากปี 2567 (514,590 ใบ) 4 และถือเป็นจำนวนที่ต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี 3 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการรณรงค์ "หนึ่งครอบครัว หนึ่งกระทง" 1 และการเปลี่ยนไปลอยกระทงออนไลน์ (ในปี 2568 มีจำนวน 23,347 ใบ) 4
อย่างไรก็ตาม เมื่อเจาะลึกไปที่ "ประเภท" ของวัสดุ กลับพบแนวโน้มที่น่ากังวลอย่างยิ่ง:
กระทงวัสดุธรรมชาติ (ใบตอง/กาบกล้วย): สัดส่วนลดลงอย่างมาก จากที่เคยสูงถึง 98.39% ในปี 2567 5 กลับลดลงเหลือเพียง 82.76% ในปี 2568 5
กระทงโฟม: เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จาก 8,270 ใบ ในปี 2567 พุ่งสูงขึ้นเป็น 28,298 ใบ ในปี 2568 (เพิ่มขึ้นกว่า 3.4 เท่า) 3
กระทงขนมปัง: ยังคงมีสัดส่วนที่สูงถึง 10.01% (จำนวน 39,103 ใบ) 3
ปรากฏการณ์นี้สามารถอธิบายได้ผ่าน "ห่วงโซ่เหตุผล" (Causal Chain) ดังนี้:
ขั้นที่ 1: ตลอดหลายปีที่ผ่านมา หน่วยงานรัฐ (คพ.) 7 และกลุ่มสิ่งแวดล้อม 34 ได้รณรงค์อย่างหนักว่า "กระทงขนมปัง" เป็นผู้ร้ายตัวจริง โดยเฉพาะในแหล่งน้ำปิด (เช่น สระในสวนสาธารณะ) เนื่องจากมีสารอินทรีย์สูง ทำให้ "น้ำเน่าเสียได้ง่าย" 1
ขั้นที่ 2: ในเวลาต่อมา การรณรงค์ได้ขยายผลไปสู่การตั้งคำถามว่า "กระทงรักษ์โลกอาจไม่มีจริง" 2 โดยชี้ว่าแม้แต่กระทงวัสดุธรรมชาติก็ยังคงเป็น "ขยะ" 6 และมีอันตรายแฝงเร้น เช่น "ตะปู" หรือ "ลวดเย็บ" ที่เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำ 2 และเจ้าหน้าที่จัดเก็บ 33
ขั้นที่ 3: ผู้บริโภคทั่วไปได้รับสาร (Message) ที่สับสนว่า "ขนมปัง = ไม่ดี (น้ำเน่า)" และ "ธรรมชาติ = ก็ยังไม่ดี (ขยะ/ตะปู)"
ขั้นที่ 4: เมื่อเผชิญกับแรงกดดันทางสังคมและความสับสนในการเลือกวัสดุ ประกอบกับปัจจัยด้านราคาและความสะดวก ผู้บริโภคบางส่วน (โดยเฉพาะกลุ่มที่อาจมีงบประมาณจำกัด) จึงเลือกย้อนกลับไปใช้วัสดุที่หาซื้อง่าย ราคาถูก และเคยชิน นั่นคือ "โฟม"
สถิติปี 2568 3 จึงเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ชิ้นสำคัญที่ชี้ว่า "การรณรงค์เชิงลบ" (Negative Campaign) ที่มุ่งโจมตีทุกทางเลือก อาจก่อให้เกิดผลกระทบที่เลวร้ายที่สุด (Worst-Case Scenario) คือการหวนคืนของโฟม ซึ่งเป็นวัสดุที่ย่อยสลายไม่ได้ 1 และมีคาร์บอนฟุตพริ้นท์สูงที่สุด 16
ตารางที่ 1: สถิติการจัดเก็บขยะกระทงในกรุงเทพมหานคร (พ.ศ. 2566 – 2568)
ปี
จำนวนกระทงรวม (ใบ)
% เปลี่ยนแปลง (YoY)
วัสดุธรรมชาติ (%)
โฟม (ใบ)
ขนมปัง (%)
2566
639,828
(อ้างอิง)
96.74%
20,877
(ไม่ระบุชัดเจน)
2567
514,590
-19.6%
98.39%
8,270
(ไม่ระบุชัดเจน)
2568
391,027
-24.0%
82.76%
28,298
10.01%
ที่มา: สังเคราะห์ข้อมูลจาก 3
1.3 การประเมินข้อเสนอเชิงนโยบาย: โมเดลการจัดการในพื้นที่ปิด (Designated Areas)
จากปัญหาดังกล่าว ผู้ใช้ได้เสนอแนวทางเชิงนโยบาย (User's Point 1.1) คือ "สนับสนุนกระทงใบตอง... และยอมเสียค่าลอยกระทงในพื้นที่ที่รัฐจัดให้... เช่น 100 บาท เอาไปเป็นค่าเก็บกระทง... และที่เหลือเอาไปบริจาคเพื่อสิ่งแวดล้อม"
การวิเคราะห์เชิงนโยบายพบว่าข้อเสนอนี้มีความเป็นไปได้สูงและสอดคล้องกับหลักการสากล:
หลักการผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย (Polluter Pays Principle): ข้อเสนอนี้คือการนำ "ต้นทุนภายนอก" (Externalities) ซึ่งคือค่าใช้จ่ายในการเก็บขยะและการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม กลับเข้ามาในราคาของกิจกรรม (Internalization) ผู้ที่ต้องการลอยกระทงจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดการผลกระทบที่ตนก่อขึ้น
สอดคล้องกับแนวทางของภาครัฐ: กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้รณรงค์ให้ประชาชน "ลอยกระทงในบริเวณที่หน่วยงานต่าง ๆ จัดเตรียมไว้ให้" เช่น สระน้ำในวัดหรือสวนสาธารณะ เพื่อให้ "ง่ายต่อการจัดเก็บและนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี" 1 กทม. เองก็มีแผนปฏิบัติงานชัดเจนใน 110 แห่งที่กำหนด 4 ข้อเสนอเรื่องการเก็บค่าธรรมเนียมจะเป็นเครื่องมือทางการคลัง (Fiscal Tool) ที่ช่วยสนับสนุนการปฏิบัติงานนี้
กรณีศึกษาเปรียบเทียบ (Market-Based Solution): แนวคิดนี้มีอยู่แล้วในภาคเอกชน ตัวอย่างคือ "กระทงรักษ์โลก WON PHEN" 36 ซึ่งเป็นกระทงที่ผลิตจากวัสดุขยะ Upcycled (เก็บจากคลองลาดพร้าว) 36 และออกแบบมาเพื่อ "ใช้ซ้ำ" (Reusable) โดยมีโมเดลการลอยใน "ระบบปิด" (Closed System) ที่ผู้จัดงานสามารถเก็บกระทงขึ้นมาใช้ซ้ำได้ทุกปี 36 ที่สำคัญคือ รายได้ส่วนหนึ่งจากกระทงนี้จะถูกส่งต่อให้ "มูลนิธิ TerraCycle Thai Foundation" 36
ข้อเสนอของผู้ใช้ 36 ซึ่งเป็น "มาตรการภาครัฐ" จึงมีเป้าหมายเดียวกับ "โมเดล WON PHEN" 36 ซึ่งเป็น "กลไกตลาด" กล่าวคือ ทั้งสองโมเดลพยายามสร้าง "ระบบปิด" (Closed-Loop) เพื่อควบคุมผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าสอดคล้องกับแนวทางการจัดการเทศกาลอย่างยั่งยืน 37
1.4 การวิเคราะห์วัฏจักรคาร์บอนของกระทงใบตอง (Carbon Cycle Analysis)
ผู้ใช้ได้ตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า "ต้นกล้วย ดูดซับคาร์บอนได้ การปลูก และเอามาทำกระทง และเมื่อลอยไปติดตาข่าย แล้ว นำมาฝังกลับเป็นปุ๋ย นี้ เป็นการลดคาร์บอนรูปแบบหนึ่งไหม"
การวิเคราะห์นี้ชี้ให้เห็นถึงแนวคิด "เศรษฐกิจหมุนเวียน" (Circular Economy) ในประเพณีดั้งเดิม:
การดูดซับคาร์บอน (Uptake): ในขั้นตอนการเติบโต ต้นกล้วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศ (เป็นข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์)
การแปรรูป (Processing): ดังที่ระบุใน ส่วนที่ 6.1 กระทงใบตองมีคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในกระบวนการผลิต (CF) ต่ำที่สุด 16
การจัดการปลายทาง (End-of-Life): ข้อมูลจาก กทม. ยืนยันว่ามีการนำกระทงวัสดุธรรมชาติไปจัดการต่ออย่างเป็นระบบ โดย "กระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติจะนำไปบดย่อยและส่งต่อยังโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์หนองแขม" 5
อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญอยู่ที่ "กระบวนการ" ย่อยสลาย หากการย่อยสลายนั้นเกิดขึ้นในสภาวะไร้ออกซิเจน (Anaerobic Digestion) (เช่น การจมอยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน หรือการฝังกลบที่ไม่ถูกต้อง) กากใยจากพืชตระกูลกล้วยมีศักยภาพในการปล่อยก๊าซมีเทน (CH4) ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่รุนแรง
ดังนั้น ข้อเสนอนี้จะเป็น "การลดคาร์บอน" (Carbon Reduction) ที่สมบูรณ์ ก็ต่อเมื่อ กทม. สามารถรวบรวมและนำไป "ผลิตปุ๋ยอินทรีย์" 5 (ซึ่งเป็นกระบวนการที่มีออกซิเจน) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 100% ซึ่งตอกย้ำความสำคัญของ "การจัดการในพื้นที่ปิด" (Managed Mitigation) ที่กล่าวไปในส่วนที่ 1.3
ส่วนที่ 2: มิติด้านวัฒนธรรมและภูมิปัญญา
การรณรงค์ที่มุ่งเน้นมิติด้านสิ่งแวดล้อมเพียงด้านเดียว มักจะละเลยหรือประเมินคุณค่าด้านวัฒนธรรมและภูมิปัญญาที่ฝังลึกอยู่ในประเพณีต่ำเกินไป
2.1 คุณค่าในฐานะมรดกที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Heritage)
แก่นแท้ดั้งเดิมของประเพณีลอยกระทง ไม่ใช่การทิ้งขยะ แต่เป็นการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ โดยมีคุณค่าแฝงในหลายมิติ:
มิติเชิงจิตวิญญาณ: คือการ "ขอขมาพระแม่คงคา" 24 ซึ่งเป็นการสร้างจิตสำนึกให้ตระหนักถึงคุณค่าของ "น้ำ" ที่หล่อเลี้ยงทุกชีวิต 24
มิติทางสังคม: ประเพณีเป็นเทศกาลแห่งความรื่นเริง 22 และเป็นกลไกในการ "สร้างความสมัครสมานสามัคคีในชุมชน" 23 ผ่านการทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น การร่วมกันคิดประดิษฐ์กระทง 23 หรือการพบปะสังสรรค์ในคืนวันเพ็ญ 39
มิติทางศาสนา: ในบางพื้นที่ เช่น ภาคเหนือ การลอยกระทงยังเชื่อมโยงกับการบูชารอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า และการทำบุญให้ทาน 23
2.2 คุณค่าในฐานะมรดกที่จับต้องได้ (Tangible Heritage): "งานฝีมือ"
นอกเหนือจากคุณค่าที่จับต้องไม่ได้ (Intangible) ประเพณีนี้ยังเป็นกลไกสำคัญในการสืบทอด "งานฝีมือ" (Tangible Heritage) (ตามประเด็นของผู้ใช้ 2)
กระบวนการทำ "กระทงใบตอง" ไม่ใช่เป็นเพียงการผลิตภาชนะ แต่เป็น "การส่งเสริมและสืบทอดศิลปกรรมด้านช่างฝีมือ" 23 ซึ่งต้องอาศัยภูมิปัญญาเฉพาะทาง ตั้งแต่การเลือกวัสดุ (เช่น การเลือกต้นกล้วยหรือใบตองตานี) 40 ไปจนถึงเทคนิคการพับกลีบ การจับจีบ และการประกอบร่าง 40
นอกจากนี้ ประเพณีลอยกระทงในประเทศไทยยังมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสูง ไม่ได้มีเพียงกระทงใบตองแบบภาคกลาง แต่ยังรวมถึงประเพณี "ยี่เป็ง" (การปล่อยโคมลอย) ในภาคเหนือ 39 และในอดีตยังมี "สะเปา" (Sapao) หรือเรือสำเภาขนาดเล็กของชาวล้านนา 41
การรณรงค์ให้ "ยกเลิก" หรือการผลักดันให้เปลี่ยนไปใช้ "กระทงออนไลน์" 1 เพียงอย่างเดียว จะเป็นการตัดวงจรการสืบทอด "งานฝีมือ" 40 นี้ออกจากรากฐานของประเพณี นโยบายที่ยั่งยืนจึงจำเป็นต้องหาทาง "แยกส่วน" (Decoupling) ระหว่าง "การอนุรักษ์งานฝีมือ" (ซึ่งควรส่งเสริม) ออกจาก "การก่อมลพิษ" (ซึ่งต้องจัดการ)
ส่วนที่ 3: มิติด้านการเมืองและความอ่อนไหวทางภูมิรัฐศาสตร์
ประเด็นการยกเลิกลอยกระทงไม่ได้จำกัดอยู่แค่การถกเถียงภายในประเทศ แต่ยังมีความเชื่อมโยงที่ละเอียดอ่อนกับมิติด้านการเมือง ภูมิรัฐศาสตร์ และการแข่งขันทางวัฒนธรรมในระดับภูมิภาค
3.1 ข้อกังวลเรื่องการแข่งขันทางวัฒนธรรมกับกัมพูชา
ผู้ใช้ได้ตั้งข้อสังเกต (User Point 3) ว่า "ถ้ายกเลิกไป จะเข้าทาง ประเทศกัมพูชา เพราะ นักท่องเที่ยว ต้องไปลอยที่กัมพูชาแทน" ข้อกังวลนี้ตั้งอยู่บนฐานของการแข่งขันทางวัฒนธรรม (Cultural Rivalry) เพื่อแย่งชิงการรับรู้และความสนใจจากนักท่องเที่ยว 42
ในการวิเคราะห์ข้อเท็จจริง พบว่าประเทศกัมพูชามีเทศกาล "Bon Om Touk" (เทศกาลน้ำ) 43 ซึ่งแหล่งข้อมูลสากล (Wikipedia) ระบุว่า "เกี่ยวข้อง" (Related to) กับประเพณีลอยกระทงของไทย 43 เช่นเดียวกับเทศกาลที่คล้ายคลึงกันในลาว (Boun That Luang) พม่า (Tazaungdaing) และศรีลังกา (Il Poya) 43 อย่างไรก็ตาม เทศกาลเหล่านี้ ไม่ใช่ เทศกาลเดียวกัน 43 และมีข้อมูลเชิงวิชาการที่โต้แย้งว่าประเพณีลอยกระทงในรูปแบบที่กัมพูชาอ้างสิทธิ์นั้น ไม่มีอยู่จริงในยุคโบราณ 15
3.2 การเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ Soft Power และ UNESCO
ความละเอียดอ่อนของประเด็นนี้ทวีคูณขึ้นเมื่อพิจารณาในบริบทของยุทธศาสตร์ชาติในปัจจุบัน การเชื่อมโยงระหว่างข้อกังวลของผู้ใช้ (Point 3) และประเด็น Soft Power (Point 6) เผยให้เห็นความทับซ้อนเชิงนโยบายที่สำคัญ:
ยุทธศาสตร์ชาติ: ในปัจจุบัน รัฐบาลไทยกำลังดำเนินนโยบาย Soft Power อย่างจริงจัง โดยมีเป้าหมายคือการสร้างอิทธิพลทางวัฒนธรรมและมูลค่าทางเศรษฐกิจ 14
การเสนอชื่อต่อ UNESCO: ส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์นี้ คือการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 13 ให้กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ "ประเพณีลอยกระทงในประเทศไทย" (Loy Krathong tradition in Thailand) 13 ขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Intangible Cultural Heritage - ICH) ต่อ UNESCO 13
ความขัดแย้งเชิงยุทธศาสตร์: การที่ "ภายในประเทศ" มีกลุ่มคนที่เรียกร้องให้ "ยกเลิก" ประเพณีนี้ 1 ในขณะที่ "ภาครัฐ" กำลังพยายามเสนอให้ UNESCO ประกาศยกย่องประเพณีนี้เป็น "มรดกโลก" 13 ได้สร้างสภาวะ "ความสับสนเชิงยุทธศาสตร์" (Strategic Dissonance)
ข้อเรียกร้องให้ยกเลิกประเพณีลอยกระทง (แม้ด้วยเจตนาดีต่อสิ่งแวดล้อม) จึงเกิดขึ้นในจังหวะเวลาที่ "ละเอียดอ่อน" (Sensitive) อย่างยิ่ง การที่คนไทยกลุ่มหนึ่งเรียกร้องให้ยกเลิกมรดกของตนเอง 1 ถือเป็นการบ่อนทำลายความชอบธรรม (Legitimacy) ของการเสนอชื่อต่อ UNESCO 13 และ "เข้าทาง" (ตามที่ผู้ใช้ระบุ) คู่แข่งทางวัฒนธรรม 15 ที่พยายามอ้างสิทธิ์ในเทศกาลนี้ การถกเถียงนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องสิ่งแวดล้อมภายใน แต่ได้กลายเป็นประเด็นความมั่นคงทางวัฒนธรรม (Cultural Security) ในเวทีระหว่างประเทศ
3.3 การวิเคราะห์สถานการณ์จำลอง: ผลกระทบทางการเมืองภายในหากมีการ "ยกเลิก"
ผู้ใช้ได้ตั้งประเด็นวิเคราะห์เพิ่มเติมว่า หากมีการ "ยกเลิกวันลอยกระทงสำเร็จ" ภาครัฐจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งสามารถวิเคราะห์เป็น 2 สถานการณ์จำลอง ดังนี้:
สถานการณ์จำลองที่ 1: ภาครัฐสั่งห้ามเด็ดขาด (Total Prohibition)
ในสถานการณ์นี้ ภาครัฐจะต้องออกกฎหมายให้ "การลอยกระทงถือว่าผิดกฎหมายอาญา" และห้ามจัดงานโดยเด็ดขาด การดำเนินการเช่นนี้มีความซับซ้อนทางกฎหมายสูง (ตามข้อสังเกตของผู้ใช้) เนื่องจากรัฐธรรมนูญไทยให้การรับรองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน และตระหนักว่า "ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรม" เป็นส่วนสำคัญในการยึดโยงสังคม การสั่งห้ามประเพณีที่มีรากฐานทางความเชื่อและศาสนา 23 อาจถูกตีความว่าเป็นการ "จำกัดเสรีภาพ" ของประชาชน
แนวทางของภาครัฐในปัจจุบันจึงมุ่งเน้นไปที่ "การกำกับดูแล" (Regulation) มากกว่า "การห้าม" (Prohibition) เช่น การห้ามจุดพลุ, การห้ามปล่อยโคมในเขตการบิน, และการห้ามจำหน่ายสุราในพื้นที่จัดงาน
สถานการณ์จำลองที่ 2: ภาครัฐไม่สนับสนุน แต่เอกชนยังคงจัด (Passive Ban & Privatization)
ในสถานการณ์นี้ ภาครัฐ "ไม่จัดไม่สนับสนุน" แต่ยังคงปล่อยให้ภาคเอกชนหรือชุมชนจัดกันเอง โดยอ้างอิง "เสรีภาพในการนับถือศาสนา และความเชื่อ" สถานการณ์นี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะนำไปสู่ "ความขัดแย้งทางสังคม" (Social Conflict)
ดังที่ผู้ใช้คาดการณ์ว่า "ก็จะมีฝ่ายซ้ายมารบกวน" หรือกลุ่ม NGO เข้ามาประท้วง ข้อมูลในปัจจุบันสนับสนุนว่ากลุ่มภาคประชาสังคม (NGOs) ในไทยมีความเคลื่อนไหวในประเด็นสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มแข็ง และมักใช้วิธีการประท้วงเชิงสัญลักษณ์หรือการเผชิญหน้าเพื่อคัดค้านโครงการที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (เช่น การคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน หรือเหมืองแร่)
การยกเลิกโดยภาครัฐจึงอาจไม่ได้ทำให้ประเพณีหายไป แต่จะเป็นการ "ผลักภาระการปะทะ" (Shifting the Conflict) จากรัฐ-ประชาชน ไปเป็น ประชาชน-ประชาชน หรือ NGO-ผู้จัดงานเอกชน ซึ่งอาจนำไปสู่ความวุ่นวายในพื้นที่จัดงาน
ส่วนที่ 4: มิติด้านเศรษฐกิจมหภาคและเศรษฐกิจฐานราก
การประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการยกเลิกเทศกาล ต้องพิจารณาทั้งในระดับมหภาค (เศรษฐกิจการท่องเที่ยว) และระดับจุลภาค (เศรษฐกิจฐานราก)
4.1 ผลกระทบระดับมหภาค (Macro-Economic Impact)
เทศกาลลอยกระทงเป็นหนึ่งในแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวและเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจช่วงปลายปีที่สำคัญ สร้างเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจระดับ "หมื่นล้านบาท" 8
ปี 2566: ข้อมูลจากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่าเทศกาลลอยกระทงสร้างเม็ดเงินสะพัด 10,000 ล้านบาท ขยายตัว 3.3% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ดีขึ้นในรอบ 8 ปี 8 สะท้อนถึงการฟื้นตัวอย่างชัดเจนหลังสถานการณ์โควิด-19 และการกลับมาของนักท่องเที่ยว 8
ปี 2568: อย่างไรก็ตาม มูลค่าเศรษฐกิจนี้มีความเปราะบางสูง โดยศูนย์พยากรณ์ฯ คาดการณ์ว่าในปี 2568 เม็ดเงินสะพัดจะลดลงเหลือ 9,677 ล้านบาท (หดตัว 6.5% จากปีก่อน) 9 ซึ่งถือเป็นมูลค่าที่ "ต่ำสุดในรอบ 10 ปี" 9
เป็นที่น่าสังเกตว่า ปัจจัยลบที่ทำให้เม็ดเงินหดตัวในปี 2568 นั้น ไม่ได้ เกิดจากการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม แต่เกิดจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมแวดล้อม ได้แก่: 1) การอยู่ในช่วงไว้อาลัยและโศกเศร้า (ซึ่งทำให้ผู้ตอบแบบสำรวจ 47.5% เลือกที่จะไม่ไปลอยกระทง) 9 2) ภาวะเศรษฐกิจไม่ดีและปัญหาหนี้ครัวเรือน (15.9% และ 12.9% ตามลำดับ) 9 และ 3) ราคาสินค้าแพง (เงินเฟ้อ) 9
ตารางที่ 2: การประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจมหภาคของเทศกาลลอยกระทง (พ.ศ. 2566-2568)
ปี
คาดการณ์เม็ดเงินสะพัด (พันล้านบาท)
อัตราการเติบโต (YoY)
ปัจจัยสนับสนุน / ปัจจัยลบ
2566
10.0
+3.3%
(สนับสนุน) ฟื้นตัวจากโควิด-19, นักท่องเที่ยวกลับมา 8
2568
9.677
-6.5%
(ลบ) ภาวะการไว้ทุกข์, เศรษฐกิจไม่ดี/หนี้สูง, ราคาสินค้าแพง 9
ที่มา: สังเคราะห์ข้อมูลจาก 8
4.2 ผลกระทบระดับจุลภาค (Micro-Economic Impact)
นอกเหนือจากตัวเลขมหภาค การยกเลิกเทศกาลจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อ "เศรษฐกิจฐานราก" (Grassroots Economy) และ "เศรษฐกิจนอกระบบ" (Informal Economy) ซึ่งเป็นกลุ่มคนสำคัญที่ผู้ใช้ได้ระบุไว้ (User Point 4 & 5)
เกษตรกร (User Point 4): ผู้ใช้ระบุถึง "รายได้ของเกษตรกร ผู้ปลูกกล้วย" ประเด็นนี้ได้รับการยืนยันจากกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งระบุว่า "ใบตองกล้วยตานี" เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญที่กรมฯ "ผลักดัน" เพื่อ "เพิ่มรายได้" ให้กับเกษตรกรในช่วงเทศกาลลอยกระทงโดยเฉพาะ 10 การยกเลิกเทศกาลหรือการเปลี่ยนไปใช้วัสดุอื่น (เช่น น้ำแข็ง หรือออนไลน์) จะทำลายห่วงโซ่อุปทานนี้โดยตรง
งานฝีมือ (User Point 4): การประดิษฐ์กระทงจำหน่าย (ราคาตั้งแต่ 30-100 บาท) 45 ถือเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้สำคัญในช่วงเทศกาล 11 โดยเฉพาะกระทงจากวัสดุธรรมชาติ
เศรษฐกิจในงาน (Event Economy) (User Point 5): เทศกาลกระตุ้นการใช้จ่ายในระดับชุมชน 9 ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่ค่ากระทง แต่รวมถึง "ร้านค้าอื่นๆ" (ตามที่ผู้ใช้ระบุ) ได้แก่ อาหารสตรีทฟู้ด (ลูกชิ้น, ของทอด) 12, เครื่องดื่ม 45, ของเล่นเด็ก (ลูกโป่ง, ตุ๊กตา) 12, และสินค้าเบ็ดเตล็ดอื่นๆ 46
การยกเลิกเทศกาลจึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการรายย่อยและเกษตรกร 10 ซึ่งขัดแย้งกับเป้าหมายการกระจายรายได้และการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก
ส่วนที่ 5: มิติเชิงยุทธศาสตร์ Soft Power
มิตินี้มีความทับซ้อนกับประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ในส่วนที่ 3 แต่จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างแบรนด์ประเทศและการรับรู้ในระดับสากล (User Point 6)
5.1 ลอยกระทงในฐานะยุทธศาสตร์ชาติ (National Strategy)
ข้อสังเกตของผู้ใช้ที่ว่า "คนทั้งโลกพูดถึงลอยกระทง ก็ต้องพูดถืงประเทศไทย" คือแก่นแท้ของนิยาม Soft Power ซึ่งในปัจจุบัน รัฐบาลไทยได้ยกระดับแนวคิดนี้ให้กลายเป็นยุทธศาสตร์ชาติอย่างเป็นทางการ
หลักฐานเชิงนโยบายที่ชัดเจนที่สุดคือการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้เสนอ "ประเพณีลอยกระทงในประเทศไทย" (Loy Krathong tradition in Thailand) 13 ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (ICH) ของ UNESCO 13
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมระบุอย่างชัดเจนว่า นี่คือ "ก้าวสำคัญในการส่งเสริม Soft Power ของไทย" (a crucial step in enhancing Thailand's soft power) 13 โดยมีเป้าหมายเพื่อ "ส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรม" (encourage cultural conservation), "สร้างความภาคภูมิใจในชาติ" (foster national pride) และ "สร้างภาพลักษณ์และอิทธิพลของไทยในระดับโลก" (enhance Thailand's global image and influence) 14 นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายเพื่อ "สร้างประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก" 13
5.2 การรับรู้ในระดับสากล (International Recognition)
ในเวทีโลก ประเพณีลอยกระทง (โดยเฉพาะภาพเทศกาลยี่เป็งที่เชียงใหม่ 47) ได้รับการยอมรับและถูกนำเสนอในสื่อต่างชาติว่าเป็นหนึ่งในเทศกาลที่ "มีเสน่ห์" (enchanting) 49 และ "โรแมนติกที่สุดในโลก" (one of the world's most romantic festivals) 48
ภาพลักษณ์ของเทศกาลนี้ถูกผลิตซ้ำผ่านผลงานศิลปะ ภาพวาด และภาพถ่ายโดยศิลปินต่างชาติจำนวนมาก 50 ซึ่งช่วยตอกย้ำการรับรู้ในระดับสากลว่า "ลอยกระทง = ประเทศไทย" 34
ดังที่กล่าวไปในส่วนที่ 3 การที่รัฐบาลกำลังทุ่มสรรพกำลังเพื่อผลักดันการขึ้นทะเบียน UNESCO 13 ในขณะที่กลุ่มคนในประเทศกลับเรียกร้องให้ยกเลิก 1 ได้สร้างสภาวะ "ความสับสนเชิงยุทธศาสตร์" (Strategic Dissonance) การดำเนินการนี้ไม่เพียงแต่ลดทอนพลังของ Soft Power ไทย แต่ยังสร้างความงุนงงให้กับนักท่องเที่ยว ชุมชนโลก และองค์กรระหว่างประเทศ 14 ว่าเหตุใดประเทศไทยจึงต้องการยกเลิกมรดกที่ตนกำลังเสนอให้โลกยกย่อง
ส่วนที่ 6: การวิเคราะห์ทางเลือกและการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน
ในการแสวงหาจุดสมดุลระหว่างประเพณีและสิ่งแวดล้อม ได้มีการเสนอ "กระทงทางเลือก" และ "เทคโนโลยีทดแทน" ขึ้นมา (User's Additional Point) ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการวิเคราะห์ผลกระทบอย่างรอบด้านเช่นกัน
6.1 การวิเคราะห์เปรียบเทียบ "กระทงทางเลือก" (กระทงน้ำแข็ง)
กระทงน้ำแข็ง 1 ถูกนำเสนอในฐานะทางเลือกที่ "รักษ์โลก" ที่สุด เพราะเมื่อละลายแล้วจะไม่ทิ้ง "ขยะ" หรือ "สารอินทรีย์" ไว้ในแหล่งน้ำ 1 ซึ่งช่วยแก้ปัญหาการเน่าเสียที่เกิดจากกระทงขนมปัง 7 ได้อย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์วัฏจักรชีวิต (Life Cycle Analysis) โดยเฉพาะ "คาร์บอนฟุตพริ้นท์" (Carbon Footprint - CF) ของการผลิต เผยให้เห็นต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมที่ซ่อนอยู่:
ข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (CF) (จาก TGO): องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) ได้ประเมินค่า CF (เฉพาะวัสดุ) พบว่า 16:
โฟม: $6,260 gCO_2e/kg$ (แย่ที่สุด)
ขนมปัง: $540 gCO_2e/kg$
กระทงใบตอง/ต้นกล้วย: $170 gCO_2e/kg$ (ดีที่สุด)
การวิเคราะห์กระทงน้ำแข็ง: แม้จะไม่มีข้อมูล CF ของ "น้ำแข็งก้อน" โดยตรง แต่สามารถใช้ข้อมูลตัวแทน (Proxy) จาก "การผลิตไอศกรีม" (Artisanal Ice Cream Production) 17 ซึ่งต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมากในกระบวนการแช่แข็ง (Pasteurization, Homogenization, Ripening) 17
ข้อมูล CF จาก Proxy: การผลิตไอศกรีมมีค่า CF อยู่ที่ประมาณ $234 - 385 gCO_2e/kg$ 17
การเปรียบเทียบนี้ชี้ให้เห็นว่า: กระทงน้ำแข็ง (ประมาณ 234+ $gCO_2e/kg$) มีแนวโน้มที่จะปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในกระบวนการผลิต (Upstream Carbon) สูงกว่า กระทงใบตอง (170 $gCO_2e/kg$) 16
ข้อสรุปเชิงนโยบายคือ "กระทงรักษ์โลก" 2 ไม่ได้มีคำตอบเดียว กระทงน้ำแข็งแก้ปัญหา "ขยะปลายทาง" (Post-use Waste) และมลพิษทางน้ำ แต่กลับสร้างปัญหา "คาร์บอนต้นทาง" (Upstream Carbon) จากการใช้พลังงานในการผลิต ในขณะที่กระทงใบตองมีคาร์บอนต้นทางต่ำ 16 แต่สร้างปัญหาขยะปลายทาง (หากไม่จัดเก็บ) และอาจมีอันตรายจากตะปู 2
ตารางที่ 3: การวิเคราะห์เปรียบเทียบผลกระทบเชิงสิ่งแวดล้อมของวัสดุกระทง
ประเภทวัสดุ
คาร์บอนฟุตพริ้นท์ (gCO2e/kg)
ผลกระทบต่อแหล่งน้ำ (ขยะ/มลพิษ)
ใบตอง/ต้นกล้วย
170 (ต่ำสุด) 16
ปานกลาง (เป็นขยะอินทรีย์, ปัญหาตะปู) 2
โฟม
6,260 (สูงสุด) 16
สูงมาก (ขยะไม่ย่อยสลาย, ไมโครพลาสติก) 1
ขนมปัง
540 16
สูง (สารอินทรีย์สูง, ทำให้น้ำเน่าเสียในระบบปิด) 7
น้ำแข็ง (Proxy)
234 - 385 17
ต่ำ (ไม่ก่อให้เกิดขยะหรือมลพิษ) 1
ที่มา: สังเคราะห์ข้อมูลจาก 1
6.2 การประเมินเทคโนโลยีทดแทน (AI / เลเซอร์)
ผู้ใช้ได้ตั้งคำถามถึงการใช้ AI หรือ เลเซอร์ เพื่อ "แทนเทียน" ซึ่งสะท้อนถึงการมองหาเทคโนโลยีมาทดแทนองค์ประกอบดั้งเดิมของประเพณี
AI (Artificial Intelligence): จากข้อมูลที่มี 18 AI ไม่ได้ถูกใช้เพื่อทดแทนเทียนในโลกจริง แต่ถูกใช้ในสองลักษณะ: 1) การ "ลอยกระทงออนไลน์" 4 ซึ่งเป็นการสร้าง "ประสบการณ์เสมือน" (Virtual Experience) และ 2) การใช้ AI "สร้างสรรค์ภาพ" 18 หรือผลงานศิลปะดิจิทัลเกี่ยวกับประเพณีลอยกระทง
Laser / Drone Shows: เทคโนโลยีเหล่านี้ 52 ไม่ได้ถูกใช้เพื่อทดแทน "เทียน" ในกระทงส่วนบุคคล แต่ถูกใช้เพื่อทดแทน "การเฉลิมฉลอง" (Celebration) ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะการทดแทน "พลุ" (Pyrotechnics) หรือการแสดงแสงสีเสียง 19
ในแง่ของผลกระทบสิ่งแวดล้อม การแสดงเลเซอร์ (Laser Shows) ได้รับการยอมรับว่าใช้พลังงาน "น้อยกว่า" แสงสว่างแบบดั้งเดิม 54 และที่สำคัญคือ "ไม่สร้างขยะ" หรือมลพิษทางเสียง/อากาศ เหมือนพลุ 19 ส่วนการแสดงโดรน (Drone Show) 52 แม้จะต้องใช้พลังงานในการชาร์จแบตเตอรี่จำนวนมาก 53 แต่ก็ยังถือว่าสะอาดกว่าการจุดพลุ
ข้อสรุปที่สำคัญคือ เทคโนโลยี (AI/Laser/Drone) 18 ไม่สามารถทดแทน "แก่น" ของประเพณี ซึ่งคือ "การลอย" (The Act of Floating) อันเป็นพิธีกรรมส่วนบุคคล (Personal Ritual) 24 ได้ เทคโนโลยีเหล่านี้จึงทำหน้าที่เป็น "ส่วนเสริม" (Addition) ที่ยอดเยี่ยม (เช่น งาน Vijit Chao Phraya 49) เพื่อเพิ่มความยิ่งใหญ่ของงานและลดมลพิษจากการเฉลิมฉลอง (พลุ) แต่ไม่ใช่ "สิ่งทดแทน" (Replacement) พิธีกรรมหลัก
ส่วนที่ 7: บทสังเคราะห์และข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
การวิเคราะห์ผลกระทบทั้ง 7 มิติ นำมาสู่บทสรุปว่า ข้อเรียกร้องให้ "ยกเลิก" ประเพณีลอยกระทง แม้จะตั้งอยู่บนเจตนาที่ดีด้านสิ่งแวดล้อม แต่เป็นแนวทางที่ขาดการประเมินผลกระทบเชิงลึก (Impact Assessment) และอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้ายกว่าเดิม
7.1 ข้อวิจารณ์ต่อการวิเคราะห์มิติเดียว (Critique of Single-Dimensional Analysis)
ตามข้อคิดเห็นเพิ่มเติมของผู้ใช้ การที่จะยกเลิกวันลอยกระทงโดยใช้แค่มิติสิ่งแวดล้อมเพียงด้านเดียวมุมเดียว จึงอาจเป็นความคิดที่ "ตื้นเขิน" และ "ไม่รอบด้าน" 2
ข้อสังเกตนี้ยังชี้ให้เห็นว่า การถกเถียงดังกล่าวอาจมีลักษณะเป็น "สงครามวัฒนธรรม" (Cultural War) การที่การรณรงค์มุ่งเน้นไปที่ประเพณีลอยกระทงอย่างเข้มข้น 2 ในขณะที่ปัญหามลพิษในภาพรวมที่สำคัญกว่า (Systemic Pollution) เช่น การปล่อยสิ่งปฏิกูล หรือขยะที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน กลับไม่ได้รับการผลักดันในระดับเดียวกัน สะท้อนว่าการต่อสู้ครั้งนี้อาจมีน้ำหนักไปในทางการต่อสู้ "เชิงสัญลักษณ์" (Symbolic) และ "อุดมการณ์" (Ideological) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อ "ล้างสิ่งเก่า" มากกว่าการมุ่งแก้ปัญหา "มลพิษในภาพรวม" อย่างแท้จริง
การวิเคราะห์ใน 6 มิติที่ผ่านมา (วัฒนธรรม ภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ Soft Power และสังคม) ยืนยันว่าการประเมินผลกระทบจำเป็นต้องมีความรอบด้าน เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่ไม่ได้ตั้งใจ (Unintended Consequences) ดังที่จะสรุปต่อไปนี้
7.2 สรุปการประเมิน
ข้อเรียกร้องให้ "ยกเลิก" 1 เป็นการแก้ปัญหา "ลำดับที่หนึ่ง" (First-Order Solution) ที่มุ่งแก้ปัญหาขยะ 2 แต่กลับล้มเหลวในการประเมิน "ผลกระทบต่อเนื่องลำดับที่สองและสาม" (Second and Third-Order Effects) ที่จะตามมา ได้แก่:
ผลกระทบเชิงนโยบายสิ่งแวดล้อม (Policy Backfire): สถิติปี 2568 3 เป็นสัญญาณเตือนว่า การรณรงค์เชิงลบที่ขาดทางเลือกที่ชัดเจน อาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของการใช้ "โฟม" ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุด
ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจฐานราก (Grassroots Economy): การยกเลิกจะทำลายรายได้มูลค่าหลายพันล้านบาท 9 และส่งผลกระทบโดยตรงต่อกลุ่มเปราะบางคือ "เกษตรกร" 10 และ "ผู้ค้ารายย่อย" 11
ผลกระทบเชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics): การยกเลิกหรือแม้แต่การถกเถียงเชิงลบอย่างรุนแรงภายในประเทศ จะเป็นการบ่อนทำลายยุทธศาสตร์ Soft Power และการเสนอชื่อต่อ UNESCO 13 ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ระดับชาติ 13
7.3 ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย: "การจัดการอย่างยั่งยืน" (Managed Mitigation) แทน "การยกเลิก"
ทางออกที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนที่สุด ไม่ใช่ "การยกเลิก" แต่คือ "การจัดการอย่างเข้มงวดและยั่งยืน" (Managed Mitigation) โดยอาศัยการผสมผสานนโยบาย 3 ด้าน ดังนี้:
1. นโยบาย "ควบคุมพื้นที่" (Zoning Policy)
(สอดคล้องกับข้อเสนอของผู้ใช้ 1.1)
ส่งเสริมการลอยกระทงเฉพาะใน "พื้นที่ปิดที่กำหนด" (Designated Closed Zones) 1 เช่น สระน้ำในสวนสาธารณะ หรือพื้นที่ริมน้ำที่กั้นทุ่นไว้ ซึ่งสามารถรับประกันการจัดเก็บได้ 100% (ตามแผนของ กทม.) 4 และพิจารณาใช้ "โมเดลค่าธรรมเนียม" (ตามข้อเสนอของผู้ใช้) หรือโมเดล "กระทงใช้ซ้ำ" (Reusable Krathong) 36 ในพื้นที่เหล่านี้ เพื่อนำรายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม
2. นโยบาย "ควบคุมวัสดุ" (Material Policy)
(อ้างอิงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์)
ห้ามใช้โฟม (Ban Foam): ต้องบังคับใช้กฎหมายห้ามใช้โฟมอย่างเด็ดขาด เนื่องจากมีคาร์บอนฟุตพริ้นท์สูงที่สุด 16 และไม่ย่อยสลาย 1
ห้ามใช้ขนมปัง (Ban Bread): ห้ามใช้กระทงขนมปัง เฉพาะในแหล่งน้ำปิด (สระน้ำ, บึง) อย่างจริงจัง เนื่องจากเป็นสาเหตุหลักของน้ำเน่าเสีย 7
ส่งเสริมวัสดุธรรมชาติที่ปลอดภัย (Promote Safe Natural Materials): สนับสนุนกระทงใบตอง/กาบกล้วย (ซึ่งมี CF ต่ำที่สุด 16 และสนับสนุนเกษตรกร 10) ควบคู่กับการรณรงค์ให้ใช้ "วัสดุที่ย่อยสลายได้" (เช่น ไม้กลัด, เชือกกล้วย) แทน "ตะปู" หรือ "ลวดเย็บ" 2 อย่างจริงจัง
3. นโยบาย "การสร้างคุณค่าใหม่" (Rebranding Policy)
เปลี่ยนแก่นของสาร (Narrative) ของประเพณีให้เข้ากับยุคสมัย จาก "การลอยเพื่อขอขมา" 24 ไปสู่ "การเฉลิมฉลองสายน้ำอย่างยั่งยืน" (Sustainable Water Celebration) ผนวกเทคโนโลยี (Laser/Drone) 19 เข้ากับการเฉลิมฉลองเพื่อลดมลพิษจากพลุ และเชื่อมโยงการจัดงานกับการสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยตานี 10 และช่างฝีมือ 40 เพื่อสร้างความชอบธรรมทางสังคมและเศรษฐกิจให้กับประเพณีในโลกสมัยใหม่
ผลงานที่อ้างอิง
เสนอ 3 แนวทาง ชวนคนไทย “ลอยกระทงรักษ์สิ่งแวดล้อม” เตือนงดกระทง ..., เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 http://theholidaymarketslc.com/JWw
กระทงแบบใดห์ ไม่ eco-friendly : สำรวจเทศกาลลอยกระทง เทศกาลขอขมาหรือลงโทษแม่น้ำ?, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://epigramnews.co/environment/kratong-is-not-eco-friendly/
เปิดสถิติ 9 ปี ขยะกระทง กทม. พุ่งกว่า 5 ล้านใบ แนวโน้มภาพรวมลดลง ปี 68 ..., เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.thairath.co.th/scoop/infographic/2893722
เปิดสถิติขยะกระทงปี 2568 กทม.ลดลง 24% วัสดุธรรมชาติ 82.76% ออนไลน์ 23,347 ใบ, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://spacebar.th/social/sustainability-bangkok-krathong-2025-eco-report
กทม.จัดเก็บกระทงปี 68 ยอด 391,027 ใบ ลดลงจากปีก่อน 24% | Thai PBS ..., เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.thaipbs.or.th/news/content/358272
อ.เจษฎ์ ยันกระทงขนมปัง-กระทงใบตองกาบกล้วย ล้วนทำลายสิ่งแวดล้อมได้ - ผู้จัดการออนไลน์, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://mgronline.com/onlinesection/detail/9660000106242
ชวนคนไทย "ลอยกระทงรักษ์สิ่งแวดล้อม" ช่วยลดปริมาณขยะในระบบนิเวศ ..., เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.infoquest.co.th/2025/542016
เงินสะพัด 10,000 ล้าน คนไทยไม่จนแห่เที่ยว "ลอยกระทง" ปี 66 คึกคัก ..., เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.thaipbs.or.th/news/content/334210
หอการค้า เผยลอยกระทงสะพัด 9.6 พันล. ต่ำสุดรอบ10 ปี -ชี้คนละครึ่งกร่อย จี้ ..., เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://today.line.me/th/v3/article/Yav1XvQ
กรมส่งเสริมการเกษตร ชู ใบตองกล้วยตานี เพิ่มรายได้ ... - NBT CONNEXT, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://thainews.prd.go.th/thainews/news/view/686215/?bid=2
วิธีหาเงินช่วงเทศกาลวันลอยกระทงแบบง่าย - Lemon8-app, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.lemon8-app.com/@maicharoenwech/7298940262473138690?region=th
แชร์ไอเดีย ขายอะไรดี สร้างรายได้เสริม วันลอยกระทง - ข่าวสด, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.khaosod.co.th/sentangsedtee/featured/article_196619
Unesco recognition sought for Loy Krathong - Bangkok Post, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.bangkokpost.com/thailand/general/2990337/unesco-recognition-sought-for-loy-krathong
Cabinet approves document for Loy Krathong's UNESCO listing, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.nationthailand.com/news/policy/40047946
Cambodian Loi Krathong: Scholars point out that it did not actually exist in ancient times, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.youtube.com/watch?v=Ul9oYgeCJJA
รู้ไว้ก่อนลอย "กระทง" แต่ละชนิด ปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาเท่าไร - ไทยรัฐ, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.thairath.co.th/futureperfect/articles/2743801
Carbon Footprint Analysis of Ice Cream Production - MDPI, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.mdpi.com/2071-1050/15/8/6887
เสกภาพลอยกระทงให้มีชีวิตด้วย AI - Lemon8-app, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.lemon8-app.com/@drgim.aimacademy/7437513099328045576?region=th
Laser show technology: Fascinating light art in a new light - Kilchenmann, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://en.kilchenmann.ch/online-magazine/laser-show-technology-fascinating-light-art-in-new-splendor
ยกระดับ “ลอยกระทงไทยวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” สู่ World Event - กรมประชาสัมพันธ์, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/39/iid/338908
เมื่อประเพณีที่มี ไม่ได้ดีต่อสิ่งแวดล้อม ถึงเวลาที่ต้องเลือกว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ - มูลนิธิสืบนาคะเสถียร, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.seub.or.th/bloging/news/tradition/
ประเพณีลอยกระทง 2568 คืออะไร วัตถุประสงค์ วันลอยกระทง เช็กเลย, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.thansettakij.com/business/tourism/643134
คุณค่าความสำคัญ, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://archive.clib.psu.ac.th/online-exhibition/loykrathong%202/page4.html
ลอยกระทงไม่หลงทาง มาทำเทศกาลนี้ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกันเถอะ - Spacebar.th, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://spacebar.th/lifestyle/loy-krathong-is-environmentally-friendly
นายกฯ ยัน ไม่มีการยกเลิกจัดงานประเพณีลอยกระทง - ไทยรัฐ, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.thairath.co.th/news/politic/2892066
นายกฯลั่นไม่มียกเลิกงานลอยกระทง! - ไทยโพสต์, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.thaipost.net/x-cite-news/886436/
กรุงเทพฯ ติด 1 ใน 5 จังหวัดผลิตขยะต่อวันมากที่สุด : PPTVHD36, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99/67408
รายละเอียดโครงการ/กิจกรรมฯ >> (แบบ สยป #1) - :: BMA MONITOR (@2568) - กรุงเทพมหานคร, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://dp.bangkok.go.th/monitor/frontend/web/index.php?r=site%2Fprojectview&ID=17664
Bangkok, Thailand - The Circulate Initiative, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.thecirculateinitiative.org/wp-content/uploads/City-Waste-Management-Profile-Bangkok-Thailand.pdf
ขยะของคน กทม. ที่ถูกนำไปทิ้งที่บ้านคนอื่น - Rocket Media Lab, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://rocketmedialab.co/bkk-waste/
สรุปยอดเก็บ "กระทง" ปี 2568 ทั่วกรุงเทพฯ ลดลง 24% ส่วนใหญ่ทำจากวัสดุธรรมชาติ - ไทยรัฐ, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/2893694
เปิดสถิติย้อนหลัง 12 ปี ขยะกระทง กทม. ปี 68 เก็บได้ 391,027 ใบ ลดลง 24% - Spring News, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.springnews.co.th/news/infographic/860597
กทม. เผย ลอยกระทงปี 68 ยอดลดลง 24% หันมาลอยกระทงออนไลน์มากขึ้น, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.ejan.co/news/36ykvmrzedvb
ประเพณีลอยกระทง มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า ที่ถูกเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก - Sansiri Blog, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://blog.sansiri.com/loy-kratong-2567/
คพ. ชวนคนไทย “ลอยกระทงรักษ์สิ่งแวดล้อม” - Chiang Mai News, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.chiangmainews.co.th/social/3811758/
เจาะลึกดีไซน์กระทงรักษ์โลก WON PHEN ใช้ซ้ำได้ทุกปีจาก QUALY, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.lemon8-app.com/@arm_sukborisuth/7567779874836988423?region=th
คู่มือการทิ้งขยะสำหรับงานเทศกาลหรือกิจกรรม - Greener Bangkok - กรุงเทพมหานคร, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://greener.bangkok.go.th/waste-recycle/event-waste-guide/
การจัดการขยะอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้แคมเปญ “มันส์ ไม่ ทิ้ง”, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.innomatter.com/sustainability/big-mountain-music-festival-recycle/
วันลอยกระทง ประเพณีและวัฒนธรรมที่คุณควรรู้ เรามารู้จักเลย, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.trip.co.th/guide/info/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%87.html
ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านหัตถกรรม - ( การทําบายศรี กระทง ), เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.tadkloi.go.th/contents/post/000000029-baf7dac61742d13a3395aa2a4e70a5ec.pdf
About Yi Peng Sky Lantern Festival, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://yipenglanternfestival.in.th/about-yi-peng-sky-lantern-festival/
สรวงศ์ เปิดผลกระทบไทย-กัมพูชา สูญเม็ดเงินท่องเที่ยวเฉียด 3000 ล้านบาทต่อเดือน - สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://thaitv5hd.com/web/content.php?id=53722
Loy Krathong - Wikipedia, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://en.wikipedia.org/wiki/Loy_Krathong
ลอยกระทง พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เงินสะพัดกว่า หมื่นล้าน บาท - Amarintv, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.amarintv.com/spotlight/economy/71110
ขายอะไรดี? ฟันกำไรช่วงเทศกาลลอยกระทง - TaokaeCafe.com, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.taokaecafe.com/sme-recommended-detail/1506
5 สิ่งอย่าง ขายได้ขายดีในงานลอยกระทง! - YouTube, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.youtube.com/watch?v=j91Wa750WDw
ฝรั่งอดใจไม่ไหว!!ตื่นตาตื่นใจเมื่อได้เห็นกระทงของไทยต้องหยิบกล้องมาถ่ายไว้ #ลอยกระทง #ท่องเที่ยว, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.youtube.com/watch?v=7WmEU9BNF-k
Yi Peng Festival 2025: Tickets & Guide to Chiang Mai's Lantern Festival - Highlights Travel, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.highlightstravel.com/thailand/loy-krathong-festival/chiang-mai-yee-peng-festival
Loi Krathong Festival 2024: Experience Thailand's Enchanting Festival of Lights, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.tatnews.org/2024/11/loi-krathong-festival-2024-experience-thailands-enchanting-festival-of-lights/
Loy Krathong Festival illustrations - Shutterstock, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.shutterstock.com/search/loy-krathong-festival?image_type=illustration
Water blessings and celestial offerings: Thailand's Loy Krathong and Yi Peng festivals – in pictures - The Guardian, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.theguardian.com/world/gallery/2025/nov/06/thailand-lantern-festival-loy-krathong-yi-peng-in-pictures
Drone Show Power Guide: How Many Watts Do You Really Need - EcoFlow, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.ecoflow.com/us/blog/drone-show-power-requirements-guide
How Drone Light Shows Are Created and Key Battery Power Requirements - Grepow, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.grepow.com/blog/how-drone-light-shows-are-created-and-key-battery-power-requirements.html
LED vs Laser Lighting: Best Choice for Your Event - City Nights Discos, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.citynightsdisco.co.uk/led-vs-laser-lighting-best-choice-for-your-event/
Ultimate Guide to Outdoor Laser Lights for Stunning Shows and Events, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://miyalaser.com/blogs/all-articles/ultimate-guide-to-outdoor-laser-lights-for-stunning-shows-and-events
Benefits of Stage Laser Lights In Theater or Performance - Vorlane, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://vorlane.com/benefits-of-stage-laser-lights-in-theater-or-performance/
Best Laser Light Show Equipment for Events and Home, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://www.starshinelights.com/blogs/news/best-laser-light-show-equipment
กทม. เปิดสถิติลอยกระทง 2568: ยอดเก็บลดลง 24% ใช้ "วัสดุธรรมชาติ" 82.76% ชี้แนวโน้ม "รักษ์โลก" สูงขึ้น, เข้าถึงเมื่อ พฤศจิกายน 7, 2025 https://siamrath.co.th/contents/108530
