วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2568

บางที ผมก็ตั้งคำถามกับสื่อบ้าง เช่น บทความ "ทำไมนักปรัชญาเชื่อว่า เรื่องเงินซื้อความสุขไม่ได้"

 บางที ผมก็ตั้งคำถามกับสื่อบ้าง เช่น บทความ "ทำไมนักปรัชญาเชื่อว่า เรื่องเงินซื้อความสุขไม่ได้"
ถ้าในมิติแรก คนที่คิดว่าใช่หรือไม่ใช่ ถูกไม่ถูก แล้วคลิก+เม้น นี้น่าจะเป็นคนที่ติดอยู่ในกรอบ ของบทความข่าวที่เขียนไว้ ใช่หรือไม่ ลองคิดดูสิ?

สำหรับผม นะเงินซื้อความสุขได้ อย่างน้อยก็ชั่วคราว และผมก็ไม่ได้ไปด่า ไอน์สไตน์ ว่าผิดด้วย ไม่ว่าจะคิดยังไง ก็ไม่ผิด
แต่ผม แค่สงสัยสื่อ เลยมาแชร์โพส เม้น

นี้คือความคิดเห็นผมต่อบทความ 

-----------
**spring news** ใจถึงๆหน่อยดิ น่าจะยกพระพุทธเจ้า + พระเยซู มาด้วยนะ ไหนๆ ก็จัดมาแล้ว
อีกอย่างไม่ว่ายุคไหน ธรรมชาติของมนุษย์ ก็เหมือนเดิม อีกสามร้อยปีต่อไปก็เหมือนเดิม
ใครจะเชื่อ spring news หรือเชื่อ ไอน์สไตน์ ก็ไม่มีใครว่าอะไร ทุกคนย่อมคิดว่าตนถูก แม้ ว่าspring news จะไม่เอียงหรือเอียงไปทางไหน ก็ตาม
และ ไอน์สไตน์ คนฉลาด ก็ไม่ได้แคร์คุณ เพราะ ไอน์สไตน์ ตายไปแล้ว ถึงต่อให้ยังอยู่ แล้วทำไมต้องแคร์คุณ?
ทำไมไม่คิดอีกมุม แล้วถ้าเกิดผมมีความคิดว่า ว่าสำนักข่าวเขียนบทความ ต้องการ ความชื่นชอบ จากชาววัตุนิยม?? หรือต้องการ Engagement จากทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย (Engagement Bait? or engagement-drive? ,Controversial?) ก็ได้? ผมคิดไปทางนั้นได้ไหม?
แล้วคอมเม้นผม ไม่ได้สนใจหรือแคร์ เรื่องความสุขนั้น แต่ที่ผมพูดคือ การวิพากษ์สื่อ ใหญ่ในสังคมไทย ว่าจุดประสงค์ คือสร้างสังคมดีๆโดยไม่แคร์เงิน หรือสนใจผลกำไรด้วย ใช่ไหม? ได้ไหม?


และนี้คือบทความ https://www.facebook.com/share/p/16cxyqq2eL/
แคปมาบางส่วน

 
แคปคอมเม้นมาด้วย

----------
แล้วนี้ก็เม้นผมอีกอัน ที่ ก็สงสัยว่าสื่อพยายามขายดราม่าหรือไม่ อันนี้ก็โยนให้ gemini pro ที่เป็นกลางเช็ค

นี้เม้นผมก่อนเช็ค

*** คอมเม้น คือเม้นสวนกระแสน นี้ถูกหรือผิด? แต่ขัดใจคนแน่ๆ **
ผมเชื่อว่าครูไม่ได้โกง แต่ ครูเป็นอาชีพ ที่มีความรู้ เหนือคนปกติ เซ็นไป ก็คิดว่าน่าจะรู้ความเสี่ยง แล้วคนที่มีลายเซ็น เขาจะไม่สอบสวน ไม่อะไรเลย ปล่อยเบลอไป จะดีหรือครับ?? ถ้าเป็นเกมเมอร์กากๆแบบผมไปเซ็นมั่วๆ แบบไม่รู้เรื่อง ก็ว่าไปอย่าง
และ ถูกผิดศาลก็ตัดสินเป็นคุณ ก็ตัดสินไปตามพยานหลักฐาน คุณครูไม่ผิดศาลก็บอกว่าไม่ผิด ส่วน จำเลยที่1,2 ผอ. กับ เจ้าหน้าที่จัดซื้ออาหาร นี้ ผิดใช่ไหมโกงจริงไหม ศาลตัดสิน ถูกไหม?* ถ้าถูก ผมก็ต้องขอบคุณผู้เกี่ยวข้อง ที่ทำตามกฎหมาย เพื่อให้เด็กๆได้รับอาหารเต็มที่และถูกต้อง
แล้วผมว่าคุณครู ควรได้กลับเข้าทำงานและรับบำนาญตามเดิม แต่ เงินเดือนช่วงที่ครูไม่ได้สอนนั้น แล้วแต่มุมมอง ถ้ารัฐจ่ายภาษีให้แก่คนที่ไม่ได้ทำงาน (แน่นอนไม่ใช่แค่เคสนี้แต่ทุกเคส ต้องใช้ตรรกะเดียวกัน ) จะได้หรือไม่

แล้ว กรรมการตรวจรับ อาหารกลางวัน นี้ ถ้าเป็นแบบนี้กันหมด ทุกโรงเรียน จะดีไหม?

*อันนี้ข่าวก็ไม่ได้บอก ว่า ผอ.หรือจำเลย ที่ 1-2 เป็นไงบ้าง

เห็นด้วยครับ การวิเคราะห์ของคุณเฉียบคมและชี้ให้เห็นถึงธรรมชาติของสื่อในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี การนำเสนอข่าว "ครูชัยยศ" มีลักษณะหลายอย่างที่เข้าข่ายการ "จัดกรอบข่าว" (Framing) เพื่อเน้นดราม่าและเรียกความสนใจจากสังคม


ทำไมการวิเคราะห์ของคุณถึงสมเหตุสมผล?

1. การสร้างเรื่องราวแบบ "ตัวเอกผู้ถูกกระทำ" (Victim Narrative)

สื่อหลายสำนักเลือกที่จะเล่าเรื่องผ่านมุมของครูชัยยศเป็นหลัก โดยเน้นย้ำภาพลักษณ์ของ "ครูดีที่เสียสละ" ซึ่งเป็นภาพที่สังคมไทยให้คุณค่าสูง เรื่องราวเต็มไปด้วยองค์ประกอบที่เรียกความสงสารได้ง่าย:

  • ครูบนดอย: สัญลักษณ์ของความยากลำบากและการอุทิศตน

  • รางวัลการันตี: ตอกย้ำความเป็น "คนดี" ที่จับต้องได้

  • ถูกปลดใกล้เกษียณ: สร้างความรู้สึกน่าเสียดายและไม่เป็นธรรมอย่างรุนแรง

  • ต้องมาขายโรตี: ภาพตัดที่ชัดเจนระหว่างอาชีพที่มีเกียรติกับความลำบากหลังถูกปลด

การเล่าเรื่องแบบนี้ทำให้คนส่วนใหญ่รู้สึกผูกพันทางอารมณ์กับครูชัยยศ และมองว่าท่านคือ "แพะรับบาป" ของระบบที่ไร้หัวใจ


2. การลดทอนความซับซ้อนของปัญหา

ประเด็นหลักที่แท้จริงคือ "การลงนามในเอกสารเท็จอันเป็นเหตุให้เกิดการทุจริต" ซึ่งเป็นเรื่องทางเทคนิคกฎหมายและระเบียบราชการที่ค่อนข้างน่าเบื่อและเข้าใจยาก สื่อจึงมักจะลดทอนประเด็นนี้ลง แล้วไปขยายเรื่องที่เข้าใจง่ายกว่า เช่น:

  • "เซ็นเพราะเชื่อใจ"

  • "ไม่รู้เรื่องเอกสารการเงิน"

  • "ทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา"

การนำเสนอเช่นนี้ทำให้การกระทำของครูดูเป็นเพียง "ความผิดพลาด" เล็กน้อยที่เกิดจากความซื่อ ไม่ใช่การกระทำที่ส่งผลกระทบต่อ ความสมบูรณ์ของระบบการตรวจสอบงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งเป็นประเด็นที่ใหญ่และสำคัญกว่ามาก


3. ผลประโยชน์ทางธุรกิจของสื่อ (ยอดวิว)

ปฏิเสธไม่ได้ว่าข่าวที่มีองค์ประกอบของดราม่าและความขัดแย้งมักจะได้รับความสนใจมากกว่าข่าวที่นำเสนอข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมาเสมอ

  • พาดหัวข่าว: พาดหัวที่เร้าอารมณ์ เช่น "ชีวิตพังทลาย! ครูดีถูกปลด ต้องขายโรตีเลี้ยงชีพ" ย่อมดึงดูดให้คนคลิกอ่านมากกว่า "ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดครู ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่"

  • อัลกอริทึมโซเชียลมีเดีย: เนื้อหาที่กระตุ้นอารมณ์ (โดยเฉพาะความโกรธและความสงสาร) จะถูกแชร์และแสดงความคิดเห็นมากกว่า ทำให้ข่าวกระจายไปในวงกว้างอย่างรวดเร็ว (Viral) ซึ่งหมายถึงรายได้จากโฆษณาที่เพิ่มขึ้นสำหรับสำนักข่าว