วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2556

ว่ากันเรื่องน้ำที่ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ(part1) [น้ำแม่เหล็ก น้ำโมเลกุลเล็ก น้ำหกเหลี่ยม น้ำวิเศษ น้ำออกซิเจน PIWater]


มันมีหลายชนิดเหลือเกิน 
งั้น... เริ่มที่ น้ำ น้ำหกเหลี่ยม น้ำโมเลกุลหกเหลี่ยม กันก่อนละกันครับ สำหรับ "ว่ากันเรื่องน้ำที่ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ(part1)"

" เครื่องกรองน้ำ6เหลี่ยม  ตัดสินใจก่อนซื้อ "
เริ่มต้นที่การ โฆษณา สรรพคุณกันก่อนครับ
 (กด ctrl ค้างไว้ แล้วเลื่อน สกอล เมาส์ (ล้อหมุน) ขึ้นลง เพื่อ ขยายหรือลดขนาดตัวอักษร)
1.โฆษณาเจ้าที่ 1[

ประโยชน์ของน้ำโมเลกุล 6 เหลี่ยม



ประโยชน์ของน้ำโมเลกุล 6 เหลี่ยม

คุณลักษณะและคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ปรับโครงสร้างน้ำโมเลกุล 6 เหลี่ยม 



คุณลักษณะ
คุณประโยชน์
1. ปรับโครงสร้างการเกาะตัวของโมเลกุลน้ำเป็น 6 โมเลกุล ต่อ 1 กลุ่มในรูปทรง 6 เหลี่ยม ด้วยพลังแม่เหล็กและพลังจากรังสีอินฟาเรด

1. น้ำมีโครงสร้างเป็นกลุ่มเล็กลง และเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบทำให้ผ่านผนังเซลล์ได้ง่าย
2. ส่งเสริมกระบวนการเผาผลาญพลังงาน (Merabolism)ในร่างกาย เพราะน้ำที่มีโครงสร้างกลุ่มเล็กจะสามารถนำพาสารอาหาร และออกซิเจนเข้าไปในเซลล์ และนำพาสารพิษและของเสียในระดับเซลล์ออกได้สะดวกรวดเร็วขึ้น
3. น้ำโครงสร้างเล็กจะช่วยขจัดของเสียซึ่งเป็นกรดตกค้างออกจากเซลล์ได้ง่าย
4. สามารถแก้กระหาย ให้ความสดชื่นได้เร็ว เนื่องจาก
กลุ่มน้ำขนาดเล็ก
สามารถผ่านผนังเซลล์ให้ความชุ่มชื้น
ได้ง่ายและรวดเร็ว
2. ลดแรงตึงผิวของน้ำ ทำให้น้ำมีคุณสมบัติเป็นตัวทำละลายสิ่งต่างๆ ได้ดี
สามารถทำละลายสารอาหารต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น และนำพาเข้าสู่เซลล์ ขณะเดียวกันก็ละลายของเสียในเซลล์และนำพาออกนอกเซลล์เพื่อไปกำจัดได้ง่ายขึ้น
3. ทำให้น้ำมีคุณสมบัติเป็นด่างอ่อนๆ คือ ค่า pH เท่ากับ 7.5 - 8.0

ช่วยรักษาสมดุลความเป็นกรด-ด่างภายในร่างกายอันเนื่องจากของเสียที่มีฤทธิ์เป็นกรดในระดับเซลล์ โดยร่างกาไม่ต้องสูญเสียแร่ธาตุจากกระดูก ฟัน และกล้ามเนื้อ เพื่อรักษาสมดุลความเป็นกรด-ด่าง
4. ช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำ

ส่งผลให้เซลล์ในร่างการได้รับออกซิเจน เพื่อขบวนการสร้างพลังงานได้เร็วและมากขึ้น
5. ได้อิเล็คตรอนประจุลบ
อิเล็คตรอนประจุลบจะทำหน้าที่หยุดวงจรอนุมูลอิสระสาเหตุของความเสื่อมของร่างกาย
6. หินซันแมค (Sunmac Stone)ในกล่องแร่ธาตุ (Super Cube) ช่วยเติมแร่ธาตุรวม18 ชนิดลงไปในน้ำ
1. เสริมสร้างแร่ธาตุที่จำเป็น และเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
2. หินซันแมคเป็นวัตถุดิบบริสุทธิ์ที่ได้จากแหล่งธรรมชาติจากเกาะโอกินาวา ซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 300-600 เมตร
3. มีธาตุเจอร์มาเนียมซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
4. ช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำ
5. ปรับค่าความเป็นกรด-ด่างของน้ำให้เป็นด่างอ่อนๆ
7. ผลิตภัณฑ์ปรับโครงสร้างน้ำโมเลกุลหกเหลี่ยม แอคทิโม โกลด์ มีประสิทธิภาพสูง รูปทรงทันสมัย และใช้งานง่าย
1. สะดวกต่อการใช้งาน
2. ได้รับน้ำโมเลกุลหกเหลี่ยม จากการทำงานของสนามแม่เหล็กแรงสูง 3,500 เก๊าส์ และรังสีอินฟราเรด









น้ำโมเลกุล 6 เหลี่ยมดีต่อสุขภาพ

การดื่มน้ำโมเลกุล6 เหลี่ยมเป็นประจำทุกวันจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงอีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการของ โรคต่างๆให้ดีขึ้นได้อีกด้วย คุณประโยชน์ที่สำคัญของการดื่มน้ำโมเลกุล 6 เหลี่ยมมีดังนี้

1.      ให้ความรู้สึกสดชื่น แข็งแรงขึ้น สัมผัสได้ภายใน 15 นาที

2.      ขจัดของเสียออกจากเซลล์ (ดีท็อกซ์) ได้อย่างมีประสิทธิภาพเห็นผลภายใน 1 ชั่วโมง โดยปัสสาวะจะขุ่นและมีกลิ่นแรงกว่าปกติ คอแห้งและกระหายน้ำ เนื่องจากไตต้องใช้น้ำเพิ่มขึ้นในการขับของเสียออกจากร่างกาย หรือมีอาการเวียนศีรษะ เนื่องจากของเสียถูกขับออกมาในปริมาณมาก

3.      ช่วยกระตุ้นพลังบำบัดตัวเองของร่างกาย, ภูมิต้านทานโรคสูงขึ้น, ลดอาการภูมิแพ้ บรรเทาไซนัสอักเสบ, ไมเกรน, ช่วยให้นอนหลับสนิท

4.      บรรเทาอาการปวดตามข้อ, ปวดหลัง, เข่าเสื่อม, ไหล่ติด, เก๊าท์

5.      ควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยแก้ปัญหาแผลเรื้อรัง

6.      ลดน้ำหนักและขจัดไขมันส่วนเกิน ลดได้ 1-3 กก.ภายใน 1 เดือน บรรเทาอาการท้องผูก

7.      ช่วยให้ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต ฟื้นตัวให้เร็วขึ้น

8.      เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน และบรรเทาอาการปวดประจำเดือน

9.      ป้องกันโรคหัวใจ สมองขาดเลือด ความดันโลหิตสูง

10.  ชะลอความแก่ของเซลล์ เห็นผลชัดเจน โดยผมที่ผมที่หงอกจะดกดำขึ้น

อายุของน้ำโมเลกุล 6 เหลี่ยม

1.      คุณสมบัติของการต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ขึ้นอยู่กับอายุของไฮดรอกซีลอิออน (Hydroxyl Ion) ซึ่งจะอยู่ในน้ำได้ไม่เกิน 18 - 24 ชั่วโมง

2.      ความเป็นด่าง (Alkaline Property) ซึ่งวัดโดยค่า pH ระดับที่ต้องการควรสูงเกินกว่า H 7.4 จะอยู่ได้นาน 1 - 2 สัปดาห์

3.      การมีโครงสร้างขนาดเล็ก (Micro Cluster หรือ Structured Water) คือ โมเลกุลของน้ำ 6 โมเลกุลต่อ กลุ่ม (Cluster) จะอยู่ได้นานประมาณ 1 - 3 เดือน

    การที่อายุของแต่ละคุณสมบัติมีช่วงเวลายาวสั้นไม่เท่ากันจะขึ้นอยู่กับสภาพของสิ่งแวดล้อม ถ้าเก็บน้ำไว้ที่อุณหภูมิห้อง ก็จะมีอายุการเก็บรักษาประมาณ 2 ปี หากเก็บในตู้เย็น หรือแช่แข็ง และเก็บในขวดที่เป็นแก้วปิดสนิท  จะมีประสิทธิภาพอยู่ได้นานไม่จำกัดการที่น้ำมีฤทธิ์เป็นด่างเพราะเกิดจากแร่ธาตุแคลเซียมไบคาร์บอเนต (Calcium Bicarbonate) แต่ขวดที่เป็นพลาสติกจะยอมให้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ( Co2 ) ซึมผ่านเข้าไป และทำปฏิกิริยากับแคลเซียมไบคาร์บอเนตซึ่งละลายอยู่ในน้ำเกิดเป็นแคลเซียมคาร์บอเนตร ( CaCo2 ) ซึ่งไม่ละลายน้ำ จึงตกเป็นตะกอนและความเป็นด่างจะลดลง ขวดที่เป็นแก้วจึงเก็บน้ำให้คงมีประสิทธิภาพได้นานกว่าขวดพลาสติก
 การเก็บรักษาน้ำโมเลกุล 6 เหลี่ยม

1.           เป็นการดีกว่าหากจะเก็บน้ำโมเลกุลหกเหลี่ยมไว้ในตู้เย็น สภาพน้ำโมเลกุลหกเหลี่ยมจะไม่เปลี่ยนแปลง หากเก็บรักษาในระยะเวลานาน

2.           สามารถเก็บไว้ในภาชนะชนิดใดก็ได้ ยกเว้นอลูมินัม

3.           สามารถเติมเครื่องดื่มอื่นๆ ผสมในน้ำโมเลกุลหกเหลี่ยม เช่น วิตามินซี น้ำผึ้ง ขิงเข้มข้น นมผง น้ำมะนาว ชาเขียว ฯลฯ

ประโยชน์ของแร่ต่างๆ ที่มีต่อร่างกายมนุษย์

แร่ธาตุ
คุณประโยชน์
1. แคลเซียม
  • มีบทบาทสำคัญสำหรับการเจริญของกระดูกแลฟัน
  • มีความสำคัญต่อการเต้นของชีพจรและการหดตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ
  • ควบคุมความเป็นด่างในร่างกาย
2. แมกนีเซียม
  • เป็นองค์ประกอบสำคัญของกระดูกและเนื้อเยื่ออ่อนทุกชนิด
  • เป็นตัวควบคุมการเผาผลาญอาหาร
  • มีความจำเป็นต่อการคลายกล้ามเนื้อ (ถ้าขาด แมกนีเซียม กล้ามเนื้อคลายตัวไม่ดี ทำให้เกิดอาการปวดศรีษะ นอนไม่หลับ คอแข็ง กล้ามเนื้อเกร็ง กระตุก ชัก)
3. เหล็ก
  • ป้องกันการเกิดนิ่วในไต (แมกนีเซียม ป้องกันการเกาะตัวเป็นก้อนนิ่วของแคลเซียมออกซาเลตในไตและถุงน้ำดี)
  • ใช้ในการสร้างฮีโมโกลบินของเลือด (ฮีโมโกลบินทำหน้าที่เป็นตัวนำออกซิเจนจากปอดไปยังอวัยวะต่างๆ และเก็บเอาของเสีย คือ คาร์บอนไดออกไซด์ มาคืนให้ปอดกำจัดออกไป)
  • การขาดธาตุเหล็กทำให้เป็นโรคโลหิตจาง (มีผลต่อสุขภาพโยเฉพาะเด็กๆ จะมีความต่านทานต่อโรคน้อยทำให้ติดเชื้อได้ง่าย และมีผลกระทบต่อการพัฒนาการเรียนรู้ ความเฉลียวฉลาด)
4. สังกะสี
  • มีผลต่อการทำงานของฮอร์โมนเพศ มีส่วนเกี่ยวข้องในการผลิตฮอร์โมนเพศชายและสร้างอสุจิให้แข็งแรง
  • ผู้ที่ขาดสังกะสีเรื้อรัง จะกระทบกระเทือนต่อระบบประสาทส่วนกลางและการทำงานของสมอง
  • การขาดสังกะสี จะมีผลต่อการเจริญเติบโต ทำให้แคระแกรน, มีภูมิต้านทานโรคต่ำ (ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย)
5.โพแทสเซียม
  • โพแทสเซียมเป็นไอออนบวกที่สำคัญของน้ำในเซลล์ จึงมีหน้าที่หลักในการทำให้ร่างกายมีสภาพเป็นด่าง
  • ทำให้ระบบประสาททำงานปกติและช่วยพาออกซิเจนไปยังสมอง ทำให้ความคิดโปร่ง แจ่มใส
  • ช่วยในการหดตัวของกล้ามเนื้อ มีฤทธิ์โดยตรงกับกล้ามเนื้อหัวใจ
  • ช่วยไตกำจัดสิ่งมีพิษจากเลือด
  • การขาดโพแทสเซียมจะทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ใจสั่น สมองมึนทึบ มือเท้าสั่น และเงื่อออกมากกลางฝ่ามือและเท้า
  • ภายในเซลล์มะเร็งจะมีโพแทสเซียมต่ำกว่าสภาวะปกติ (เนื่องจากเยื่อหุ้มเซลล์ถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระทำให้โพแทสเซียมรั่วออกมา การขาดโพแทสเซียมทำให้ DNA ทำงานผิดปกติ ขาดการควบคุม เกิดเป็นเซลล์มะเร็ง)
6. ซีลีเนียม
  • เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากซิลิเนียมเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเอนไซม์ Glutathione Peroxidase ซึ่งจะไปย่อยสลายอนุมูลอิสระที่ชื่อ ไฮโดรเจนเบอร์ออกไซด์
  • เกี่ยวข้องกับการทำงานของหัวใจ และเพิ่มภูมิต้านทาน
  • ป้องกันโรคหัวใจขาดเลือดและสมองขาดเลือด (การได้รับซีลีเนียมทุกวัน จะทำให้อัตราส่วนของ HDL ไขมันชนิดดีมีปริมาณสูงขึ้น ทำให้โอกาสในการเกิดหลอดเลือดอุดตันน้อยลง)
7. โซเดียม
  • มีส่วนช่วยในการรักษาความเป็นกรด-ด่างขอร่างกาย
  • การขาดโซเดียมจะเกิดอาการ คลื่นไส้ เบื่ออาหาร กล้ามเนื้อไม่มีแรงหรือเป็นตะคริว
8. ฟอสฟอรัส
  • เป็นเกลือแร่ที่สำคัญในกระดูก โดยมีอัตรส่วนฟอสฟอรัสต่อแคลเซียมคือ 1:2
9. ลิเธียม
  • จัดอยู่ในกลุ่มแร่ธาตุจำนวนน้อยแต่จำเป็น
  • ลิเธียมมีผลดีกับโรคจิตประสาท พบว่า ลิเธียมถูกนำมาใช้เป็นยาเพื่อช่วยรักษาโรคจิตบางชนิด
10.ทองแดง
·       มีบทบาทสำคัญที่เกี่ยวกับการทำงานของระบบประสาท
11.เจอร์มาเนียม
  • มีส่วนเกี่ยวข้องในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • มีส่วนช่วยในการนำพาออกซิเจน ทำให้ร่างกายรู้สึกมีชีวิตชีวา
  • มีความสำคัญในการช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคมะเร็ง
12.แมงกานิส
  • ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง แลกระดูกพร้อมทั้งรักษาให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์
  • ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต และการสืบพันธุ์ให้ทำงานตามปกติ
  • ควบคุมการทำงานของสมองระบบประสาท และระบบกล้ามเนื้อให้ความสัมพันธ์กัน
13.ซิลิกอน
  • ส่งเสริมการทำงานของกระดูกแลฟัน เล็บ ผม โดยทำงานร่วมกับแคลเซียม ทำให้ร่างกายเจริญเติบโต
  • รักษาผนังของหลอดเลือด ส่งผลต่อความดันโลหิตให้สมดุล
 ] ไปอ่านของจริงแล้วสั่งซื้อได้ที่ http://keosanactimo.igetweb.com/index.php?mo=3&art=468380
.แค่โฆษณาเจ้าแรก  ได้อ่านแล้ว ก็อยากจะเสียเงินซื้อมาดื่มแล้วใช่ไหมครับ?
2.โฆษณาเจ้าที่ 2[

น้ำโมเลกุล6เหลี่ยม ช่วยเพิ่มออกซิเจนและสารต้านอนุมูลอิสระ




น้ำให้ชีวิต Actimo Gold น้ำโมเลกุล 6 เหลี่ยม
“น้ำที่คุณดื่ม กับโรคที่คุณเป็น”

Actimo Gold เครื่องปรับโครงสร้างน้ำให้เป็น 6 โมเลกุล หรือเรียกได้อีกหลายอย่าง อาทิเช่น น้ำโมเลกุล 6 เหลี่ยม น้ำพลังแม่เหล็ก น้ำโมเลกุลเล็ก น้ำนาโน ฯลฯ สารพัดที่จะเรียกกัน แต่ความเป็นจริงแล้วน้ำที่เราดื่มกันทุกวันนี้ ล้วนแต่เป็นน้ำโมเลกุลใหญ่กันทั้งสิ้น ไม่สามารถนำพาสารอาหารต่างๆ ที่ร่างกายต้องการเข้าสู่เซลล์เราได้มากนัก จึงมีการคิดค้นเรื่องน้ำโมเลกุล 6 เหลี่ยมขึ้นมา

น้ำโมเลกุล 6 เหลี่ยมหาได้จากที่ไหน
1.น้ำ 6 เหลี่ยมสามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ เช่นบริเวณน้ำตกที่คงความเป็นธรรมชาติได้มากที่สุดเท่านั้น และมีขีดจำกัดในการคงตัวของโมเลกุลในน้ำ
2.น้ำที่ผ่านเครื่องปรับโครงสร้างน้ำดื่ม Actimo Gold เท่านั้น

ทำไมต้องเป็นน้ำ 6 เหลี่ยม จากเครื่อง Actimo Gold เท่านั้น
1.ปรับ โครงสร้างการเกาะตัวของโมเลกุลน้ำเป็น 6 โมเลกุล ต่อ 1 กลุ่ม (ไม่ใช่โมเลกุลเล็ก) ในรูปทรง 6 เหลี่ยมด้วยพลังแม่เหล็กและพลังจากรังสีอินฟาเรด
1.1 น้ำมีโครงสร้างเป็นกลุ่มเล็กลง และเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบทำให้ผ่านผนังเซลล์ได้ง่าย
1.2 ส่งเสริมกระบวนการเผาผลาญพลังงาน (Merabolism) ในร่างกายเพราะน้ำที่มีโครงสร้างกลุ่มเล็ก จะสามารถนำพาสารอาหารและออกซิเจนเข้าไปในเซลล์และนำพาสารพิษและของเสียใน ระดับเซลล์ออกได้สะดวกรวดเร็วขึ้น
1.3 น้ำโครงสร้างเล็กจะช่วยขจัดของเสีย ซึ่งเป็นกรดตกค้างออกจากเซลล์ได้ง่าย
1.4 สามารถแก้กระหาย ให้ความสดชื่นได้เร็ว เนื่องจากกลุ่มน้ำขนาดเล็กสามารถผ่านผนังเซลล์ให้ความชุ่มชื้นได้ง่ายและรวดเร็ว

2. ลดแรงตึงผิวของน้ำ ทำให้น้ำมีคุณสมบัติเป็นตัวทำละลายสิ่งต่างๆได้ดี สามารถทำละลายสารอาหารต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น และนำพาเข้าสู่เซลล์ขณะเดียวกันก็ละลายของเสียในเซลล์และนำพาออกนอกเซลล์ เพื่อไปกำจัดได้ง่ายขึ้น

3. ทำให้น้ำมีคุณสมบัติเป็นด่างอ่อนๆ คือ ค่า pH เท่ากับ 7.5 - 8.0 ช่วยรักษาสมดุลความเป็นกรด-ด่างภายในร่างกาย อันเนื่องจากของเสียที่มีฤทธิ์เป็นกรดในระดับเซลล์โดยร่างกาไม่ต้องสูญเสีย แร่ธาตุจากกระดูก ฟัน และกล้ามเนื้อเพื่อรักษาสมดุลความเป็นกรด-ด่าง

4. ช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำอีก 30% ส่งผลให้เซลล์ในร่างการได้รับออกซิเจน เพื่อขบวนการสร้างพลังงานได้เร็วและมากขึ้น

5. ได้อิเล็คตรอนประจุลบ (-ORP) อิเล็คตรอนประจุลบ (-ORP) จะทำหน้าที่หยุดวงจรอนุมูลอิสระสาเหตุของความเสื่อมของร่างกาย

6. หินซันแมค (Sunmac Stone) ในกล่องแร่ธาตุ (Mine Q) ช่วยเติมแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ 13 ชนิดลงไปในน้ำ ในปริมาณที่พอเหมาะ อาทิ แคลเซียม, แมกนีเซียม, เหล็ก, สังกะสี, โพแทสเซียม, ซิลิเนียม, โซเดียม, ฟอสฟอรัส, ลิเธียม, ทองแดง, เจอร์มาเนียม, มองกานิส และซิลิกอน
6.1 เสริมสร้างแร่ธาตุที่จำเป็น และเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
6.2 หินซันแมคเป็นวัตถุดิบบริสุทธิ์ที่ได้จากแหล่งธรรมชาติ จากเกาะโอกินาวา (ประชาชนมีอายุยืนถึง 120 ปี) ซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 300-600 เมตร
6.3 มีธาตุเจอร์มาเนียม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
6.4 ช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำ
6.5 ปรับค่าความเป็นกรด-ด่างของน้ำ ให้เป็นด่างอ่อนๆ

7. ผลิตภัณฑ์ปรับโครงสร้างน้ำโมเลกุลหกเหลี่ยม Actimo Gold มีประสิทธิภาพสูงรูปทรงทันสมัย และใช้งานง่าย
7.1 สะดวกต่อการใช้งาน
7.2 เคลื่อนย้ายสะดวก
7.3 ได้รับน้ำโมเลกุลหกเหลี่ยม จากการทำงานของสนามแม่เหล็กแรงสูง 3,500 เก๊าส์ (ใกล้เคียงกับเซลล์) และรังสีอินฟราเรด

การดื่มน้ำโมเลกุล 6 เหลี่ยมเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้สุขภาพแข็งแรง
อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการของโรคต่างๆ ให้ดีขึ้นอีกด้วย

สินค้าขายดี
Promotion ประจำเดือน ธันวาคม 2555
ราคาปกติ 38,750 บาท แต่เราให้ท่านซื้อได้ในราคาสมาชิก 31,000 บาท 

] จาก และสั่งซื้อได้ที่ http://www.pantipmarket.com/items/12800059

3.โฆษณาเจ้าที่ 3[ความมหัศจรรย์ของน้ำ แอคติโม โมเลกุล 6 เหลี่ยมพลังแม่เหล็ก รักษาโรคสารพัดน้ำโมเลกุลหกเหลี่ยม (Hexagonal Water) คือน้ำที่มีโครงสร้าง หรือมีกลุ่มโมเลกุลของน้ำขนาดเล็ก ซึ่งเกิดจากผลกระทบทางฟิสิกส์จากคลื่นพลังงานแม่เหล็ก โดยเกิดการปรับตัวของโครงสร้างโมเลกุลของน้ำขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะประกอบด้วยน้ำโมเลกุล เล็กๆ จำนวน 6 โมเลกุลเกาะกันต่อ 1 กลุ่มเท่านั้น ในลักษณะรูปทรงกลมหรือหกเหลี่ยม การดื่มน้ำโมเลกุลหกเหลี่ยมซึ่งเป็นน้ำที่มีสภาพเหมือนของเหลวในร่าง กายอย่างเพียงพอและต่อเนื่องทุกวัน ผิวพรรณ และเซลล์ก็จะได้รับประโยชน์ ของเสียก็จะถูกขับถ่ายออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สภาพแวดล้อมรอบเซลล์ก็จะมีสภาพดีที่ส่งเสริมให้เซลล์สามารถดำรงรักษาการมี สุขภาพดี ซึ่งจะช่วยป้องกันและลดผลกระทบที่เกิดจากภาวะความเสื่อมต่าง ๆ ได้ แอคทิโมโกลด์คืออะไรคือ ผลิตภัณฑ์ปรับโครงสร้างน้ำโมเลกุลหกเหลี่ยม แอคทิโม โกลด์ นับเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรม ที่ได้รับการออกแบบมา เพื่อปรับโครงสร้างน้ำให้เป็นน้ำโมเลกุลหกเหลี่ยม (Hexagonal Water) โดยใช้พลังงานจากคลื่นแม่เหล็ก และรังสีอินฟราเรดชนิดคลื่นความถี่ไกล (Far Infared Ray) นอกจากนี้ยังช่วยปรับเปลี่ยนค่าความเป็นกรด – ด่าง ของน้ำ เพิ่มปริมาณแร่ธาตุ และเพิ่มระดับออกซิเจนในน้ำเพื่อให้น้ำมีคุณภาพเหมือนน้ำบริสุทธิ์จาก ธรรมชาติอีกด้วย พลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า จะทำให้แม่เหล็กภายใต้ฐานเครื่องหมุนตัวและก่อให้เกิดสนามแม่เหล็กแรงสูงที่ 3,500 เก๊าส์ (Gausses) ใบพัดที่อยู่ภายในเหยือกจะหมุนปั่นน้ำให้วิ่งวนเป็นเกลียวไซโคลนผ่านสนามแม่ เหล็ก และน้ำจะหมุนวนทะลุผ่านกล่องแร่ธาตุ (Super Cube) ซึ่งภายในบรรจุหินซันแมค (Sunmac Stone) อันประกอบด้วย อิออนและแร่ธาตุบริสุทธิ์ที่จำเป็น 18 ชนิด คือ แคลเซียม, โปแตสเซียม, แมกนีเซียม, ลิเธียม, ซิลิกอน, เจอร์มาเนียม, เหล็กออกไซด์, ไดโปแตสเซียมออกไซด์, ไดโซเดียมออกไซด์, ไททาเนียมไดออกไซด์, แมงกานีสไดออกไซด์, ฟอสฟอรัสออกไซด์, คอปเปอร์อิออน, แคลเซียมอิออน, ซิงค์อิออน, แมกนีเซียมอิออน, ซิลิเนียม, และแบเรียมอิออน และเมื่อร่วมกับขบวนการเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำ จะเป็นการปรับโครงสร้างน้ำให้ยึดเก่ากันหกโมเลกุลในรูปแบบหกเหลี่ยม (Hexagonal Water) ภายในระยะเวลา 7 หรือ 9 นาที ซึ่งทำให้น้ำแอคติโมโกลด์มีสรรพคุณดังนี้
1. ป้องกันโรคกระดูกพรุน
2. ป้องกันโรคปวดข้อ เข่าเสื่อม เก๊าท์ นิ่วในไต
3. ควบคุมน้ำหนักตัว และขจัดไขมันส่วนเกิน
4. ป้องกันโรคแห่งความเสื่อมเรื้อรัง เช่นมะเร็ง เบาหวาน
5. ป้องกันโรคหัวใจและสมองขาดเลือด
6. ร่างกายแข็งแรงขึ้น ภูมิต้านทานโรคสูงขึ้น
7. อาการภูมิแพ้ดีขึ้น
8. สามารถให้สัตว์เลี้ยงกินได้ และจะทำให้สัตว์สุขภาพแข็งแรงไม่ป่วยง่าย
หมาย เหตุ มะเร็งจะมีปกติไม่ชอบเซลล์ที่มีออกซิเจนสูง แต่น้ำแอคติโม จะสามารถนำพาออกซิเจนเข้าไปในเซลล์ได้มากกว่าน้ำธรรมดามากจึงช่วยป้องกันการ เกิดมะเร็งได้ เพราะน้ำโมเลกุล 6 เหลี่ยม มีขนาดเล็กกว่าน้ำธรรมดามาก จึงสามารถนำพาออกซิเจน และสารอาหารเข้าไปใน เซลล์ร่างกายของมนุษย์ที่มีถึง 6 ล้านๆเซลล์ได้ในขณะที่น้ำธรรมดาได้แค่อาศัยการค่อยๆซึมเข้าไปในเซลล์ เนื่องจากมีขนาดใหญ่กว่าเซลล์มนุษย์ ผู้ประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์ปรับโครงสร้างน้ำโมเลกุลหกเหลี่ยมแอคทิโมโกลด์ คือดร. คิม กิล โฮ (Dr. Kim Gil Ho, Ph. D) ซึ่งท่านเป็นหัวหน้าคณะผู้บริหารแห่งคีโอซาน (KEOSAN CO., LTD.)ดร.คิม มีประสบการณ์เกี่ยวกับน้ำมากกว่า 20 ปี บริษัทของท่านเป็นผู้บุกเบิก ผู้นำและผู้เชี่ยวชาญในเรื่องน้ำ ด้วยการค้นคว้าวิจัยอย่างต่อเนื่อง ท่านและทีมงานได้นำมาตรฐานสูงในด้านกมรผลิตน้ำดิ่มที่สร้างความสดชื่นและ ความมีชีวติชีวามาสู่บ้านและสำนักงาน"คุณภาพน้ำดีสร้างสุขภาพที่ดี"น้ำ บริสุทธิ์ตามธรรมชาติ ช่วยให้เซลล์ในร่างกายทำงานเป็นปกติและมีอายุยืนยาว มลพิษทางน้ำมีผลกระทบต่อคุณภาพของน้ำ ทำให้น้ำสูญเสียพลังงานที่ถูกเก็บไว้ในหน่วยความจำของน้ำ การกรองน้ำด้วยเครื่องกรองน้ำเป็นได้แค่เพียงขจัดสารพิษและสิ่งปนเปื้อน เพื่อให้น้ำสะอาดขึ้นเท่านั้น แต่ไม่ได้เป็นการคืนพลังงานลงในหน่วยความจำของน้ำ ดังนั้นน้ำที่สะอาดแล้วก็จำเป็นที่จะต้องผ่านกระบวนการปรับ สภาพน้ำ (Reveral Treatment) ดังเช่นน้ำแอคติโม ซึ่งจะเป็นการกำจัดมลพิษออกจากหน่วยความจำของน้ำและคืนพลังงาน ลงในหน่วยความจำของน้ำ ทำให้น้ำเป็นน้ำที่มีคุณภาพดี ซึ่งเรียกว่า "น้ำโครงสร้างโมเลกุล6เหลี่ยม"(HexagonalWater) ซึ่งน้ำนี้จะช่วยให้เซลล์ในร่างกายของคนเราทำงานได้อย่างเป็นปกติ เซลล์จะสะอาด บริสุทธิ์ อ่อนเยาว์ผู้สนใจ ที่ต้องการมีสุขภาพที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ]ไปซื้อได้ืที่ http://community.thaiware.com/index.php/topic/263167-coaaeneaaaicieoaaaaaaoeaa-6-aeaaoeaa/

.
4.โฆษณาเจ้าที่4 (เจ้านี้บอกไม่ได้มาขาย แต่ ติดต่อคุณแมค ??? [น้ำปรับโมเลกุล (เอามาฝากเป็นเกร็ดความรู้นะแต่ไม่ได้มาขายอย่าเข้าใจผมผิด) หวัดดีครับผมโดมเองครับผมวันนี้เอาเกร็ดความรู้เรื่อง MRET มาฝากครับผม

"MRET" น้ำปรับโมเลกุล รักษาสารพัดโรค ?!? (ข่าว)

โดย ผู้จัดการ ออนไลน์ ธันวาคม 2548 07:46 น.

เจ้าของสิทธิบัตร-แพทย์ไทยล้อมวงเล่าสารพัดสรรพคุณน้ำ MRET จากเครื่องปรับน้ำฝีมือนักวิจัยชาวรัสเซีย อ้างปล่อยความถี่ใส่น้ำทำให้มุมพันธะของน้ำกว้างขึ้น มีสรรพคุณรักษาเอดส์ มะเร็ง พร้อมผลงานตีพิมพ์นิตยสารอเมริกา แต่แพทย์เจ้าของผลงานจำไม่ได้ว่าส่งบทความไปเมื่อใดเพราะฝากชาวสิงคโปร์แปล เป็นภาษาอังกฤษให้

(ซ้ายไปขวา) นพ.พีรยศ ตรงสวัสดิ์ ดร.อิเกอร์ สเมียร์นอฟ และ
ศ.(เกียรติคุณ)นพ.นิกร ดุสิตสิน

ทีมงานผู้จัดการวิทยาศาสตร์ได้สัมภาษณ์ ดร.อิเกอร์ สเมียร์นอฟ (Dr.Igor Smirnov) นักวิจัยชาวรัสเซียและประธานบริษัท Global Quantech, Inc เจ้าของสิทธิบัตรเครื่องผลิตน้ำดื่ม MRET (Molecular Resonance Effect Technology) โดยมีนักวิชาการด้านการแพทย์และเคมีคือ นพ.พีรยศ ตรงสวัสดิ์ อดีตผู้อำนวยการกองควบคุมโรคเอดส์ ศ.(เกียรติคุณ) นพ.นิกร ดุสิตสิน และดร.พิชัย โตวิวิชญ์ อดีตอาจารย์ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมวงสนทนาด้วย

สำหรับน้ำ MRET อันเป็นผลจากการคิดค้นของ ดร.สเมียร์นอฟ นั้น เขาอธิบายว่าน้ำดังกล่าวได้ผ่านกระบวนการให้ความถี่ทำให้คุณสมบัติทาง ฟิสิกส์ต่างจากน้ำทั่วไป คือ 1.หากทำการทดสอบด้วยเครื่อง NMR (Nuclear Magnetic Resonance) จะพบว่าพันธะระหว่างไฮโดรเจนกับออกซิเจนแตกต่างจากน้ำทั่วไป 2.หากวัดด้วยเครื่อง Spectroscopy ก็จะได้สเปกตรัมที่ไม่เหมือนกัน และเขายังกล่าวอีกว่าน้ำที่ผ่านกระบวนการนี้มีพลังในการเลี้ยงเซลล์ ช่วยยับยั้งการกลายพันธุ์ของเซลล์ร่างกาย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคด้วย

ดร.พิชัย โตวิวิชญ์ คนที่ 2 จากซ้าย และ นพ.พีรยศ ตรงสวัสดิ์ คนที่ 3 จากซ้าย

ทั้งนี้ ดร.พิชัย อดีตอาจารย์เคมี ได้อธิบายเพิ่มเติมว่าน้ำ MRET มีพลังมากกว่าน้ำธรรมดาทั่วไป ซึ่งพันธะระหว่างอะตอมไฮโดรเจนและออกซิเจนจะมีมุม 114.5 องศาซึ่งกว้างกว่ามุมระหว่างพันธะของน้ำทั่วไป ทำให้โมเลกุลเคลื่อนที่ได้เร็ว และมีพลังงานจลน์มากขึ้น

"กระบวนการเอ็มเร็ตนั้นเป็นเทคโนโลยีเกี่ยวกับการเสริมพลังโมเลกุลของน้ำให้ สูงขึ้น โดยประมาณ 2.5 เท่าของน้ำธรรมดา และมีคลื่นความถี่ต่ำเทียบเคียงกับคลื่นความถี่ของเซลล์ของมนุษย์ ทำให้สามารถสื่อกับเซลล์ของมนุษย์ได้อย่างตรง โดยประสิทธิภาพของน้ำ 2.5 เท่า การดูดซึมเข้าสู่ร่างกายก็จะเร็วขึ้นเป็น 3 เท่า ความหนืดลดลง กลุ่มของโมเลกุลจะเล็กลง ทำให้ความสามารถในการดูดซึมเข้าเร็วและเข้าสู่ระบบการไหลเวียนของร่างกาย"

"ความมีพลังสูงจึงไปกระตุ้นให้ระบบเม็ดเลือดแดงมีประสิทธิภาพในการทำงานสูง ขึ้น และเข้าไปซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอทั่วร่างกายทุกเซลล์ โรคภัยไข้เจ็บที่เกิดจากความเสื่อมทั้งหลายจะฟื้นขึ้นหมด เช่น โรคสมองเสื่อม หัวใจ ความดัน ตับ รวมทั้งระบบฮอร์โมนของร่างกาย เนื้อเยื่อต่าง ๆ ผิวพรรณต่าง ๆ กลับมาเปล่งปลั่งแจ่มใส" ดร.พิชัยกล่าว

นพ.พีรยศ และ ดร.สเมียร์นอฟ

อย่างไรก็ดี ดร.สเมียร์นอฟ ได้ให้ข้อมูลว่าน้ำทุกอย่างที่ผ่านเครื่องทำน้ำนี้จะกลายเป็นน้ำ MRET เหมือนกัน แต่ไม่ได้กล่าวถึงผลกระทบที่เกิดกับโมเลกุลอื่นๆ ที่ผสมอยู่กรณีที่ไม่ใช่น้ำบริสุทธิ์ อีกทั้งยังได้อวดสรรพคุณของน้ำ MRET ว่าสามารถรักษาโรคเอดส์ มะเร็ง โรคสะเก็ดเงิน เป็นต้นได้

อย่างไรก็ดีจากการสอบถามทำให้ทราบว่าไม่ได้มีการทำวิจัยเพื่อพิสูจน์ผลทาง การแพทย์ดังกล่าว หากแต่เป็นเพียงการทดลองให้ผู้ป่วยดื่มน้ำแล้วสังเกตอาการเท่านั้น นพ.พีรยศกล่าวว่าได้ทดลองให้ผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน ผู้ป่วยที่มีอาการทางสมอง และโรคอื่นๆ ประมาณ 100 คน ดื่มน้ำ MRET ปรากฏว่าภายใน 4 เดือนผู้ป่วยเหล่านั้นหายจากโรค โดยได้เริ่มทดลองเมื่อเดือน พ.ค.47

เครื่อง"แอคทิโม โกลด์ (ACTIMO GOLD)"หรือเครื่องปรับสภาพโครงสร้างน้ำโมเลกุลหกเหลี่ยม

นพ.พีรยศกล่าวว่าลักษณะการทดลองดังกล่าวเรียกว่า Clinical Observation ซึ่งหากทดลองกับคนจำนวนมากก็ถือเป็นงานวิจัย ทั้งนี้ผลงานดังกล่าวได้ตีพิมพ์ในนิตยสาร Explorer! ของสหรัฐ ในฉบับที่ 14 (v.14 no.6) แต่ส่งไปเมื่อไหร่นั้นเขาจำไม่ได้เนื่องจากได้ส่งบทความให้ แทน อิงล็อก (Tan Englock) ชาวสิงคโปร์ซึ่งเป็นผู้อำนวยการ

ผู้เชี่ยวชาญเอดส์ย้ำน้ำ ”เอ็มเร็ท” ฟื้นฟูเซลล์ แต่ยังไม่รับรองหายจริง

โดย ผู้จัดการ ออนไลน์ 16 ธันวาคม 2548 07:46 น.

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคเอดส์ย้ำ น้ำดื่ม "เอ็มเร็ท" ช่วยฟื้นฟูเซลล์ในร่างกาย แต่ไม่รับรองว่ารักษาโรคเอดส์ได้จริง ด้านนักวิทยาศาสตร์รัสเซีย ต้นแบบปรับโครงสร้างโมเลกุลน้ำ เชื่อน้ำดื่มผ่านกระบวนการปรับสภาพสามารถดูดซึมเข้าสู่เซลล์ได้ง่ายกว่าน้ำ ดื่มทั่วไป ขณะที่เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ชี้ดื่มน้ำเพียงอย่างเดียวไม่ได้ผล หากไม่ปรับพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ตั้งโครงการรับบริจาคเครื่องเอ็มเร็ท เพื่อนำไปแจกให้ศูนย์บำบัดผู้ป่วยโรคเอดส์ตามสถานที่ต่างๆ แล้ว

(ซ้ายไปขวา) ดร.อิเกอร์ เสมียร์นอฟ นักวิทยาศาสตร์เชื้อสายรัสเซีย พระครูอาทรประชานาถ(พระอลงกต) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และนายแพทย์พีระยศ ตรงสวัสดิ์ อดีตผู้อำนวยการกองควบคุมโรคเอดส์ สำนักอนามัย กทม.

นายแพทย์พีระยศ ตรงสวัสดิ์ อดีตผู้อำนวยการกองควบคุมโรคเอดส์ สำนักอนามัย กรุงเทพฯ กล่าวถึงผลการศึกษาปฏิกิริยาผู้ป่วยโรคเอดส์ ต่อการดื่มน้ำสะอาดที่ผ่านกระบวนการปรับโครงสร้างโมเลกุล หรือ “เอ็มเร็ท” (MRET) ว่า ผู้ป่วยโรคเอดส์ที่ดื่มน้ำสะอาด ซึ่งผ่านกระบวนการเอ็มเร็ททุกราย ในระยะ 1 ปีที่ผ่านมา มีอาการที่ดีขึ้น เนื่องจากน้ำดื่มดังกล่าวไปมีส่วนช่วยเสริมประสิทธิภาพของยาต้านไวรัสในผู้ ป่วยโรคเอดส์ให้ดียิ่งขึ้น และช่วยฟื้นฟูเซลล์ซึ่งอ่อนแอจากเชื้อไวรัสในร่างกายของผู้ป่วยโรคเอดส์ ให้กลับแข็งแรง ทำให้ผู้ป่วยโรคเอดส์มีอาการที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ดี นายแพทย์พีระยศ กล่าวย้ำว่า ผลจากน้ำดื่มผ่านกระบวนการเอ็มเร็ทที่ช่วยทำให้อาการผู้ป่วยโรคเอดส์ทุเลาลง นั้น ยังไม่อาจยืนยันอย่างชัดเจนว่า น้ำดื่มที่ผ่านกระบวนการเอ็มเร็ทมีสรรพคุณในการรักษาโรคเอดส์เพราะทั้งหมด นั้นเป็นเพียงการเฝ้าติดตามผลการใช้น้ำดื่มที่ผ่านกระบวนการเอ็มเร็ท จากผู้ป่วยโรคเอดส์เท่านั้น และยังมีความจำเป็นต้องศึกษาและติดตามผลจากผู้ป่วยโรคเอดส์ และใช้เวลาในการศึกษาที่ยาวนานกว่าที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดความมั่นใจและน่าเชื่อถือได้มากขึ้น จนถึงขั้นได้รับการยอมรับให้เป็นการศึกษาวิจัยตามหลักวิชาการแพทย์

เครื่อง"แอคทิโม โกลด์ (ACTIMO GOLD)"หรือเครื่องปรับสภาพโครงสร้างน้ำโมเลกุลหกเหลี่ยม

ด้าน ดร.อิเกอร์ เสมียร์นอฟ (Dr.Igor Smirnov) นักวิทยาศาสตร์เชื้อสายรัสเซีย ที่มีความเชี่ยวชาญในหลักวิชาการควอนตัมฟิลิกส์ และเป็นผู้คิดค้นกระบวนการ "เอ็มเร็ท" กล่าวว่า น้ำดื่มที่นำไปผ่านกระบวนการเอ็มเร็ท จะเป็นน้ำดื่มที่โครงสร้างโมเลกุลใกล้เคียงกับโครงสร้างโมเลกุลของน้ำในร่าง กาย ทำให้เกิดการดูดซึมเข้าสู่เซลล์ในร่างกายได้อย่างรวดเร็ว และยังไปช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่บกพร่องในร่างกายให้กลับมามีความแข็งแรงสมบูรณ์ ขึ้น ทำให้กระบวนการทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าน้ำดื่มที่ผ่านกระบวนการเอ็มเร็ท จะช่วยทำให้อาการผู้ป่วยโรคเอดส์ดีขึ้น แต่พอจะอธิบายได้ง่ายๆว่า น้ำดื่มที่ผ่านกระบวนการเอ็มเร็ท น่าจะไปมีส่วนในการช่วยฟื้นฟูเซลล์ในร่างกายของผู้ป่วยเอดส์ให้กลับมาทำงาน ได้ตามปกติ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง” ดร.อิเกอร์ กล่าว

ขณะที่พระครูอาทรประชานาถ (พระอลงกต) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี กล่าวว่า การมาร่วมงานครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่ามาให้การรับรองใด ๆ แต่ได้เห็นว่าผู้ป่วยเอดส์มีอาการดีขึ้น หลังจากดื่มน้ำที่ผ่านกระบวนการเอ็มเร็ตเข้าไป และสามารถกลับไปใช้ชีวิตกับญาติพี่น้องได้ตามปกติ

"การจะมีอาการดีขึ้นหรือไม่นั้น อาตมามองว่า ไม่ใช่การดื่มน้ำเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีการออกกำลังกายและงดพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ เช่น การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ควบคู่ไปด้วย ทั้งนี้ อยากให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาศึกษาเรื่องนี้เป็นวิทยาศาสตร์โดยเร็ว เพื่อที่ในอนาคตอาจจะไม่ต้องไปพึ่งยาต้านไวรัส ซึ่งรัฐต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก"

นอกจากนี้ ทางวัดพระบาทน้ำพุได้รับบริจาคเครื่องปรับโครงสร้างโมเลกุลของน้ำ หรือเครื่องเอ็มเร็ทจำนวนหนึ่งจากผู้มีจิตศรัทธานำไปติดตั้งที่วัด และได้นำน้ำดื่มที่ผ่านเครื่องดังกล่าวไปให้ผู้ป่วยโรคเอดส์ดื่ม ปรากฎว่าในระยะ 1 ปีที่ผ่านมา ผู้ป่วยโรคเอดส์ที่ดื่มน้ำเอ็มเร็ทมีอาการดีขึ้น จนกระทั่งกลับไปใช้ชีวิตกับญาติพี่น้องได้ตามปกติ

นพ.พีรยศ และ ดร.สเมียร์นอฟ

จากผลดีที่ผู้ป่วยโรคเอดส์ได้รับหลังการดื่มน้ำ ซึ่งผ่านกระบวนการเอ็มเร็ท ทำให้เชื่อว่า เครื่องปรับโมเลกุลของน้ำน่าจะมีส่วนในการช่วยทำให้ผู้ป่วยโรคเอดส์มีอาการ ดีขึ้น จึงได้คิดริเริ่มโครงการรับบริจาคเครื่องเอ็มเร็ทจากผู้มีจิตศรัทธา เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ศูนย์บำบัดผู้ป่วยโรคเอดส์ตามสถานที่ต่างๆ โดยโครงการนี้ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ สำนักราชเลขาธิการพระราชวัง เป็นประธาน ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้มีจิตศรัทธาจำนวนไม่น้อยที่พร้อมใจกันบริจาค เครื่องดังกล่าว

ท่านผู้หญิงบุตรี ในฐานะประธานโครงการบริจาคเครื่องเอ็มเร็ตให้กับวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ กล่าวว่า เครื่องดังกล่าวราคา 43,500 บาท ขณะนี้มีผู้แสดงความประสงค์ร่วมถวายแก่วัดพระบาทน้ำพุแล้วจำนวน 25 เครื่อง และบริษัท เฮลท์ รีเลชั่นส์ จำกัด จะสมทบบริจาคให้อีก 25 เครื่อง รวมขณะนี้จำนวน 50 เครื่อง

ในโอกาสนี้มีการเปิดตัวผู้ป่วยเอดส์ 3 คน ที่ทดลองดื่มน้ำดังกล่าวและอาการดีขึ้นด้วย ได้แก่ นายสะอาด นายอุ่นเรือน และนายชำนาญ โดยนายชำนาญนั้น ปัจจุบันอายุ 41 ปี เป็นผู้ป่วยเอดส์ขั้นรุนแรง แต่ขณะนี้สามารถทำงานรับโทรศัพท์ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง จากที่เมื่อกลางปีที่ผ่านมาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง มีอาการอิดโรยมาก บริเวณหน้าปลายมือ ปลายเท้าซีดเซียว และมีโรคแทรกซ้อนรุมเร้าหลายโรคทั้งวัณโรค ปอด และตับ กระทั่งไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แพทย์แนะนำให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านเนื่องจากสุดวิสัยที่จะเยียวยา แต่หลังจากรับน้ำผ่านกระบวนการเอ็มเร็ตมาดื่มได้ไม่นาน อาการต่าง ๆ ค่อย ๆ ทุเลาลง สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ตามปกติ

พลังน้ำ พลังชีวิต
นวัตกรรมน้ำ โดย Health Relations
นวัตกรรมระดับโลกล่าสุด ในการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของน้ำธรรมดา ให้กลายเป็นน้ำ Molecular Resonance Effect Technology (MRET) ที่สามารถเร่งการเจริญเติบโตของพืชได้ หยุดการเติบโตของแบคทีเรีย แลไวรัส ส่งเสริมการเพิ่มขึ้นของเม็ดเลือดขาว ช่วยให้การรับสารอาหาร และแร่ธาตุของเซลล์ดีขึ้น รวมทั้งเพิ่มความต้านทานโรค และเพิ่มสมรรถนะ การทำงานของเซลล์อีกด้วย
นวัตกรรมนี้ พัฒนาโดย ดร. อิกอร์ สเมียร์นอฟ นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซีย เป็นผลที่ได้จากการวิจัยคุณภาพน้ำ จากน้ำพุบางแห่งในรัสเซีย ที่สามารถฟื้นฟูคนป่วยจากการได้รับกัมมันตภาพรังสี กรณีเชอร์โนบิล นิวเคลียร์ (1986) ให้ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วกว่าผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจากบริเวณอื่น หลายเท่าตัว
การค้นพบนี้ ดร.สเมียร์นอฟ ใช้การทดสอบ NUCLEAR MAGNETIC RESONANCE และเครื่อง สเปคโทรสโคปอินฟาเรด สิ่งที่เขาค้นพบคือ คุณลักษณะของโมเลกุลของน้ำ ที่เปี่ยมด้วยพลัง เป็นเทคโนโลยี่ใหม่ ที่จะเข้ามามีส่วนทำให้มนุษย์โลก มีสุขภาพดีขึ้น ผิวพรรณผ่องใส เซลส์ต่างๆทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และมีอายุยืนยาวมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยจากโรคร้าย ได้แก่ผู้ติดเชื้อ HIV ผู้ป่วยโรคมะเร็ง โรคอันเกิดจากเชื้อไวรัสต่างๆ ฯลฯ MRET water ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานมากยิ่งขึ้น

น้ำ MRET ในที่นี้คือน้ำ Molecular Resonance Effect Technology (MRET) ดูลายระเอียดแล้วเป็นกลุ่มน้ำพลังแม่เหล็ก ซึ่งมีข้อมูลสนับสนุนว่า ส่งผลดีต่อร่างกายครับ โดยอาศัยพลังแม่เหล็กไปเหนี่ยวนำให้มุมของ Hydrogen atom ของน้ำซึ่งปกติจะกาง 108.5 องศา ให้กางมากขึ้น ส่งผลให้ความเป็นขั้วของโมเลกุลลดลง การซึมผ่านของน้ำบริสุทธิ์ผ่านเซลล์ต่างๆ ทำได้ดีขึ้น การแลกเปลี่ยนของเสียทำได้ดีขึ้นื อาหารเข้าเซลล์ได้มากขึ้น การซ่อมแซมของเซลล์ก็เลยดีขึ้นด้วย

ว่ากันว่า ศาสตร์นี้บังเอิญไปพ้องกับการเสกน้ำมนต์ ซึ่งที่ญี่ปุ่นเอามาทดสอบก็พบว่าน้ำมนต์มีมุม Hydrogen atom กางมากกว่าน้ำปกติ เช่นเดียวกับน้ำแม่เหล็ก

(มีรายละเอียดเขียนไว้ในหนังสือชื่อ น้ำประจุพลังบำบัดโรค ศาสตร์แห่งคลื่นพลังแม่เหล็ก ของสำนักพิมพ์รวมทรรศน์)

The influence of activated (MRET) water on biological systems

โดย : ดร.อิกอร์ สเมียร์นอฟ

สรุปการบรรยายประชุมวิชาการกรมพัฒน์ฯ
เรื่อง "The influence of activated (MRET) water on biological systems" โดย Dr.Igor Smirnov วันพุธที่ 20 เมษายน 2548 เวลา 10.00-12.00 น.ณ ห้องประชุมเบญจกูล กรมพัฒน์ฯ

Dr.Igor Smirnov

...เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าน้ำมีความสำคัญกับชีวิตอย่างไร เป็นที่น่าสนใจตรงที่ว่า น้ำจากภูเขาไฟหลายแห่งมีคุณสมบัติพิเศษ ขอยกตัวอย่างเช่น ชาวเขาชื่อชาวหรรษา ผู้ที่ชื่อว่าเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่มีสุขภาพดีและดูอ่อนเยาว์ โดยการดื่มน้ำจากธรรมชาติ ทำให้มีอายุยืนยาวมากที่สุดในโลก บางคนมีอายุมากกว่า 100 ปี โดยไม่เจ็บป่วย เบื้องหลังการค้นพบเทคโนโลยีนี้มาจากอุบัติเหตุการรั่วของสารกัมมันตภาพ รังสีจากโรงงานผลิตนิวเคลียร์ เธอโนบิลที่ประเทศรัสเซียในปี 1986 ปรากฏว่า คนที่ได้รับผลกระทบรังสีปรมาณูนั้น ไปดื่มน้ำจากภูเขาในรัสเซียแห่งหนึ่ง แล้วมีอาการดีขึ้น รัฐบาลได้สั่งทีมงานวิทยาศาสตร์ เข้าไปศึกษาค้นคว้า โดยมี ดร.อีกอร์ สะเมียร์นอฟ เป็นหัวหน้าทีม และบังเอิญไปพบน้ำในที่แห่งหนึ่ง มีคุณสมบัติพิเศษในการดูดซึมเข้าร่างกายเร็วเป็นพิเศษ ซึ่งไม่มีความแตกต่างทั้งทางเคมีและทางฟิสิกส์ ไปจากน้ำธรรมดาทั่ว ๆ ไป แต่ศึกษาลึกซึ้งโดยใช้เอ็นโดมา หรือ Spectoscopy พบว่าโมเลกุลแตกต่างจากน้ำโดยทั่วๆ ไป

รศ.ดร.พิชัย โตวิวิชญ์

น้ำที่ฉายด้วย MRET (Molecular resonance effect technology) จะมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับน้ำในร่างกายเรามีความเร็วในการซึมเข้าออกเร็ว กว่าน้ำธรรมดาทั่วไปถึง 3 เท่า

มีผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยรัฐมอสโคเกี่ยวกับความหนืดของน้ำ ปรากฏว่าน้ำ MRET มีความหนืดน้อยกว่าน้ำธรรมดาถึง 400-500 เท่า ภายใต้ความดันบรรยากาศที่น้อยมากซึ่งเป็นบรรยากาศที่คล้ายคลึงกับร่างกาย ทำให้สามารถดูดซึมเข้าสู่ผนังหลอดเลือดและผนังหลอดเลือดฝอยโดยตรงได้อย่างมี ประสิทธิภาพมากขึ้น ดังตัวอย่างเซลล์เม็ดเลือดแดงจะเกาะติดแน่นมาก แต่ถ้าดื่มน้ำ MRET ประมาณ 20 นาที เม็ดเลือดแดงจะกระจายออกมาทำให้แต่ละเซลล์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ขึ้น

จากคุณสมบัติของความหนืดน้อยลงทำให้ซึมไหลเร็วขึ้น จึงนำมาทดลองกับผัก ที่แช่ในน้ำธรรมดากับน้ำ MRET 10-16 วัน จะเห็นความแตกต่างชัดเจน โดยผักที่แช่ในน้ำ MRET จะเจริญเติบโตได้เร็วกว่าน้ำธรรมดาถึง 22% มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 57% ในปริมาณเพิ่มขึ้น 37% อนุมูลอิสระทำให้ร่างกายถูกทำลาย เกิดริ้วรอยและแก่ก่อนวัย ซึ่งอนุมูลอิสระเกิดจากพิษเข้าไปในร่างกายหรือรังสีแม่เหล็กไฟฟ้า แม้แต่น้ำที่เราดื่มรวมทั้งอาหารที่เรารับประทานเข้าไป อนุมูลอิสระที่เรารับเข้าไปในร่างกายทำให้เซลล์ของร่างกายถูกทำลาย สุขภาพของเราเสียหายได้

วิธีการแก้ไขให้อนุมูลอิสระให้ลดอันตรายลง โดยร่างกายเรามีน้ำเป็นสื่อกลาง พบว่าน้ำธรรมดาไม่สามารถทำลายอนุมูลอิสระหรือพิษภัยต่าง ๆ ให้ลดลงได้ น้ำที่เป็นด่างมากเกินไป MRET ก็สามารถลดความเป็นด่างลงได้ ทำให้น้ำมีคุณสมบัติดีขึ้น MRET สามารถคัดเลือกการทำงานให้เหมาะสมกับร่างกายโดยทำลายสิ่งที่เป็นพิษภัย และทำให้เกิดผลดีกับร่างกาย

น้ำ MRET ทำให้เกิดภาวะความเป็นกลาง โดยร่างกายมีความเป็นกรดด่างทั้งปัสสาวะเลือดแตกต่างกัน น้ำ MRET สามารถควบคุมสภาวะความเป็นกรดด่างได้ เซลล์เม็ดเลือดที่ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระจะมีขอบคล้ายหนามทุเรียน หลังจากดื่มน้ำ MRET เข้าไป 20 นาที เซลล์เม็ดเลือดแดงเปลี่ยนเป็นราบเรียบ สวยงามตามปกติ มีการทดลองเปรียบเทียบแช่ลวดเสียบในน้ำธรรมดากับน้ำ MRET 3 วัน พบว่าน้ำธรรมดาทำให้ลวดเสียบเป็นสนิม ส่วนลวดเสียบที่แช่ในน้ำ MRET จะมีสภาพเหมือนเดิมไม่เป็นสนิม

นพ.พีรยศ ตรงสวัสดิ์

ปกติเซลล์ในอวัยวะของร่างกายจะมีการสั่นรั่ว ถ้าการสั่นสะเทือนของเซลล์ผิดปกติไปทำให้สุขภาพร่างกายเปลี่ยนไป เกิดความเจ็บป่วย ผลการค้นพบของนักวิทยาศาสตร์ 2 ท่าน คือ กิลแมนและรอดเบลล์ ปี 1994 ได้รับรางวัลโนเบลจากการทดลองว่า เซลล์ในร่างกายมนุษย์จำเป็นต้องมีการติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกันภายใต้คลื่น ความถี่ต่ำ จึงจะสามารถเจริญเติบโต ทำงานและมีการซ่อมแซมได้สุขภาพดีขึ้นมา MRET มีคุณสมบัติทำให้เกิดคลื่นความถี่ต่ำ และเอาเข้าไปในน้ำทำให้น้ำมีคุณสมบัติพิเศษเมื่อดื่มเข้าไปในร่างกายทำให้ ร่างกายมีสุขภาพดี คือ

1. ช่วยฆ่าหรือทำลายจุลินทรีย์ที่เป็นอันตราย

2. สนับสนุนจุลินทรีย์ที่ดี

3. ยับยั้งการกลายพันธุ์ของเซลล์

4. มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค

จากการทดลองให้น้ำที่ฉาย MRET 30 นาที มาเพาะเชื้อ 23 ชม. และนับจำนวนเซลล์จะพบว่าน้ำ MRET สามารถยับยั้งจากการเจริญเติบโตของเชื้อ E.Coli ในอาหารเลี้ยงเชื้อได้

การทดลองน้ำ MRET สนับสนุนการทำงานของแบคทีเรียที่ดี โดยนำน้ำนมที่ได้ผ่านการฉาย MRET เปรียบเทียบกับน้ำนมธรรมดา ตั้งทิ้งไว้พบว่านมที่ไม่ได้ผ่านการฉาย MRET เริ่มมีราขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 และในวันที่ 4 มีกระบวนการหมักเกิดขึ้นวันที่ 6-9 นมที่ไม่ได้ผ่านการฉาย MRETเริ่มบูด มีกลิ่นเหม็น แต่นมที่ผ่านการฉายMRET ในวันที่ 6 เปลี่ยนเป็นโยเกิรต์ เพิ่งมีราขึ้น

ผอ.กองการแพทย์ทางเลือก

น้ำ MRET สามารถยับยังเซลล์เนื้องอก

มีการทดลองผลของน้ำ MRET ต่อมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่ลอสแองจิริส พบว่า โดยทั่วไป ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวในวันที่ 6-7 เม็ดเลือดขาวจะต่ำมาก และหลังจากนั้นยังคงต่ำอยู่ ถ้ารักษาโดยน้ำ MRET หลัง 70 วันแล้วเม็ดเลือดขาวจะสูงขึ้น แต่ถ้าไม่รักษาด้วยน้ำ MRET ในวันที่ 6-7 จะมีอาการวิงเวียน ไข้ ปวดศีรษะ มีปัญหาอื่นตามมา อาจต้องมีการถ่ายเลือดด้วย การทดลองทำถึง 7 ครั้ง จึงจะสรุปได้

ภาพผู้เข้าร่วมประชุม

มีตัวอย่างผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งที่คอ ดื่มน้ำ MRET แล้วหายจากการเป็นมะเร็งได้

ผู้ป่วยชาวสิงค์โปร์เป็นโรคสะเก็ดเงินมา 14 ปี ดื่มน้ำ MRET แล้วหายจากโรคได้เป็นปกติ ผลการศึกษาเบื้องต้น พบว่า หนูทดลองที่เป็นมะเร็งและดื่มน้ำ MRET มีอายุยืนยาวกว่าหนูทดลองทื่ดื่มน้ำธรรมดา 60% และมีภูมิคุ้นกันดีกว่าด้วย ผลของ MRET สามารถยับยั้งการเจริญของเซลล์โรคสะเก็ดเงินได้ถึง 15 เท่าและพบว่าน้ำที่ผ่านการแอคทีเวท 30 นาที สามารถยับยั้งการเจริญของเซลล์ได้ดีกว่าน้ำที่ผ่านการแอคทีวท 60 นาที

เรียบเรียงโดย : ชุติมา ปกป้อง : กองการแพทย์ทางเลือก
สร้างเมื่อ 05- ก.ค.-48

MRET - Molecular Resonance Effect Technology

ภูมิหลังการประดิษฐ์ของ ดร.เสมียร์นอฟ

ในช่วงปี ค.ศ.1986 ได้เกิดเหตุการณ์สารกัมมันตรังสีรั่วออกจากโรงงานผลิตนิวเคลียร์ เชอร์เนอร์บิล ในมลรัฐยูเครน ประเทศรัสเซีย ผู้รอดชีวิตได้ถูกส่งตัวไปทั่วประเทศ เพื่อเข้ารับการรักษาและฟื้นฟู มีผู้รอดชีวิตกลุ่มหนึ่งได้เดินทางไปยังแถบเทือกเขาคอเคเซียน เพื่อดื่มน้ำพุภูเขาธรรมชาติ ซึ่งทำให้พวกเขาฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว รัฐบาลรัสเซียจึงให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และได้ส่ง ดร.เสมียร์นอฟ ไปสำรวจสิ่งที่เกิดขึ้นดังกล่าว

จากการสำรวจน้ำพุภูเขาแห่งนี้ ดร.เสมียร์นอฟ ไม่พบหลักฐานที่เป็นส่วนประกอบทางเคมีผิดปกติแต่อย่างใด แต่สิ่งที่เขาค้นพบได้จากการทดสอบ Nuclear Magnetic Resonance และเครื่อง สเปคโทรสโคปอินฟาเรด ซึ่งพบว่าตำแน่งของอะตอมในโมเลกุลมีลักษณะเฉพาะพิเศษ มีการเคลื่อนไหวที่เปี่ยมด้วยพลังสูง เขาจึงได้ใช้เวลาในการคิดค้น และประดิษฐ์อุปกรณ์ที่สามารถผลิตน้ำเลียนแบบน้ำพุภูเขาที่ว่านี้ โดยเรียกว่า MRET-Molecular Resonance Effect Technology ซึ่งเป็นกระบวนการแอคทิเวทโครงสร้างโมเลกุลของน้ำให้เปลี่ยนไป กลายเป็นน้ำที่มีคุณสมบัติพิเศษ โดยไม่มีการเติมสารเคมีใดๆ ลงไป ทั้งยังเป็นน้ำที่ปลอดภัยทางชีวภาพ ในระหว่างกระบวนการนี้ ได้มีการปล่อยการสั่นรัวของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่พิเศษ ซึ่งจะคงประทับอยู่ในน้ำ (คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าดังกล่าวคล้ายกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่สมบูรณ์ของสนาม แม่เหล็กโลกที่พบตามธรรมชาติ ในพื้นที่บางแห่งบริเวณแถบเทือกเขาคอเคเซียนในยุโรป และเทือกเขาทิเบตในหิมาลัย)

ประโยชน์ของน้ำ MRET

1. สามารถแก้ปัญหาเรื่องการขาดน้ำของเซลล์ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิผล

น้ำดื่มปกติจะดูดซึมเข้าสู่เซลล์ร่างกายได้ยาก ร่างกายต้องจัดเรียงโครงสร้างโมเลกุลของน้ำใหม่ เพื่อลดความหนืดของน้ำ ก่อนที่จะดูดซึมน้ำเข้าสู่เซลล์ เพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ โดยขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลา เนื่องจากการจัดเรียงโครงสร้างใหม่ขึ้นอยู่กับ “พันธะองศา” ของโมเลกุลของน้ำกับโมเลกุลขนาดใหญ่ของเนื้อเยื่อในร่างกาย (โปรตีน, อินทรีย์สารต่างๆ (Lipids) ฯลฯ) เซลล์ร่างกายจึงยังคงขาดน้ำทำให้สูญเสียพละกำลังและความสามารถที่จะทำงานได้ ดี

น้ำ MRET สามารถดูดซึมเข้าสู่เซลล์ร่างกายได้โดยตรง และคืนความชุ่มชื้นให้แก่เซลล์ได้อย่างรวดเร็ว ความหนืดของน้ำ MRET น้อยกว่าน้ำธรรมดาถึง 400 เท่า ทำให้การเคลื่อนที่ของน้ำดูดซึมเข้าสู่ผนังหลอดเลือด และผนังหลอดเลือดฝอย ได้เร็วกว่าน้ำธรรมดาถึง 3 เท่า

1) ขจัดสารอนุมูลอิสระโดยการดื่มน้ำ MRET

ร่างกายของเราขึ้นสนิม! สารอนุมูลอิสระทำให้ร่างกายเราสูญเสียพละกำลัง โดยเร่งให้เราแก่เร็วขึ้น น้ำ MRET สามารถทำให้สารอนุมูลอิสระในร่างกายของเรามีความเป็นกลางทันทีที่มีการแอคทิ เวท น้ำ MRET จะมีไฮโดรเจนไออนในปริมาณที่เหมาะสม ทำให้มีความสามารถในการยับยั้งการอกซิเดชั่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเนื่องจากน้ำได้เข้าสู่เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายของเรา จึงทำให้ของเสียที่เป็นพิษซึ่งเก็บอยู่ในเซลล์ถูกขับออกมาได้ กระบวนการนี้เท่ากับเป็นการฟื้นฟูร่างกายให้กลับสู่สภาพเดิม

2) เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

น้ำดื่มธรรมดาจะมีระบบการเรียงโมเลกุลที่ไม่เป็นระเบียบ ซึ่งไม่ได้ช่วยให้เกิดเสถียรภาพของสารเหลวในร่างกาย (เลือด, น้ำเหลือง, ฯลฯ) และเป็นผลให้ไม่สามารถสนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันตามปกติ ยิ่งโครงสร้างของน้ำมีการจัดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบมากเท่าไร เสถียรภาพของสารเหลวในร่างกายก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น น้ำ MRET มีระดับการจัดเรียงโครงสร้างของโมเลกุลในระดับสูงมาก

สสารทุกชนิดจะมีการสั่นรัวอยู่ภายใน ร่างกายของคนเราก็มีการสั่นรัวเช่นกัน เมื่อการสั่นรัวนั้นถูกรบกวน ภาวะการเจ็บป่วยก็จะมาเยือน

น้ำ MRET ได้รับการสร้างสรรค์และจดสิทธิบัตรแล้ว โดยใช้วิธีการ “ปล่อยการสั่นรัวของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่พิเศษ” ที่คล้ายกับคลื่นความถี่ของเซลล์ในร่างกาย เมื่อดื่มน้ำ MRET โมเลกุลของน้ำจะเคลื่อนที่ไปยังเซลล์ต่างๆ พร้อมกับนำคลื่นความถี่พิเศษนี้ไปยังทุกเซลล์ของร่างกาย จึงทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า น้ำ MRET มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

ก) ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตราย

ข) สร้างเสริมแบคทีเรียที่ดี

ค) ยับยั้งเซลล์กลายพันธ์ของเซลล์

ง) ฆ่าเชื้อโรคอย่างมีประสิทธิภาพ

ผลการค้นคว้าวิจัยด้านจุลชีววิทยาเมื่อเร็วๆ นี้

1. น้ำ MRET สามารถลดแบคทีเรียที่เป็นอันตรายในปลาดิบ อาหารและผักได้ถึง 80%

การทดสอบทำขึ้นที่ห้องแล็บ Lapuck Lab ในเมืองบอสตัน ซึ่งเป็นห้องแล็บชั้นนำที่ใช้ในการวิจัยค้นคว้าเกี่ยวกับอุตสาหกรรมด้าน อาหารในสหรัฐฯ ทดสอบโดยการนำตัวอย่างปลาดิบมาแช่ (จุ่มอยู่ในน้ำ MRET ทั้งชิ้น) และจุ่มลงน้ำประปาธรรมดาเป็นเวลา 5 นาที จากนั้นนำตัวอย่างไปทดสอบเพื่อหาปริมาณเชื้อแบคทีเรียโคลิฟอร์ม (Coloform) สุทธิ (กลุ่มของแบคทีเรียที่เป็นอันตราย) เพื่อนำมาวิเคราะห์เปรียบเทียบ ผลการทดสอบพบว่า น้ำ MRET สามารถลดจำนวนของเชื้อแบคทีเรียโคลิฟอร์มสิทธิได้อย่างมีนัยสำคัญ หลังจากที่แช่เป็นเวลา 5 นาที

2. น้ำ MRET สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นอันตรายได้ถึง 30-300 เท่า

น้ำที่ผ่านการแอคทิเวทนี้ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียอีโคไล (E.Coli) ได้ถึง 30-300 เท่า และจะได้ผลมากยิ่งขึ้นเมื่อเพิ่มเวลาในการแอคทิเวทน้ำ การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่า น้ำ MRET สามารถฆ่าเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. น้ำ MRET ช่วยสนับสนุนแบคทีเรียที่ดี

มีการทดลองโดยใช้แบคทีเรียที่คล้ายกับแบคทีเรียในระบบย่อยอาหารของมนุษย์และ สัตว์ แบคทีเรียที่ดีช่วยย่อยหรือเผาผลาญอาหารในระบบย่อยอาหาร น้ำ MRET ช่วยให้แบคทีเรียสร้างเอนไซม์และปรับปรุงระบบการเผาผลาญอาหารของร่างกาย ซึ่งส่งผลให้เกิด reductant ที่เพิ่มขึ้น

4. น้ำ MRET ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) ได้ถึง 15 เท่า

ได้มีการสังเกตการหยุดการเจริญเติบโตของ “เซลล์ คัลลัส” Kallus Cells (Solanum Rickii) ที่ได้ผลในน้ำ MRET เซลล์คัลลัส เป็นเซลล์กลายพันธุ์ที่มีต้นกำเนิดจากพืช โดยมีความสามารถในการสร้างการเจริญเติบโตที่ไม่สามารถควบคุมแลไม่จำกัดการ เติบโตในการบำรุงเลี้ยง เซลล์กลายพันธุ์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันในสัตว์เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อว่า เซลล์โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)

น้ำที่ได้รับการแอคทิเวทเป็นเวลา 30 นาที สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์คัลลัสได้ 15 เท่า

** การทดสอบที่ 2, 3 และ 4 ทำการทดสอบที่สถาบันจุลชีววิทยา รัฐยูเครน ภายใต้การกำกับดูแลของศาสตราจารย์ V. Vysotskii / มหาวิทยาลัยแห่งรัฐคีเอฟ (KIEV State University)

5. การวิจัยค้นคว้าเซลล์เนื้องอก (Tumor Cells) กับหนูทดลองในห้องแล็บ – ผลการทดสอบที่ออกมาเบื้องต้นน่าสนใจเป็นอย่างมาก

การวิจัยค้นคว้าเซลล์เนื้องอกในตัวอย่างที่เป็นสัตว์ทำขึ้นที่ ศูนย์วิจัยค้นคว้าด้านรังสีวิทยาและมะเร็ง, คีเอฟ, สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งยูเครน (Radiology and Cancer Research Center, Ukraine Acadamy of Science)

เอกสารสำคัญเพิ่มเติม

1. MRET น้ำปรับโมเลกุล.

2. Actimo Manual น้ำปรับโมเลกุล.

สนใจผลิตภัณฑ์ติดต่อ คุณ แมค
]
ไปติดต่อคุณแมคได้ที่ http://pha.narak.com/topic.php?No=23679
5.โฆษณาเจ้าที่... ผมว่าพอดีกว่า นะครับ เยอะจัด ดูภาพ จากตลาดพันทิป ก็แล้วกันครับ สนใจก็ไปซื้อกันได้ มีหลายเจ้า 

เอาละครับ จบรายการสรรพคุณ+โฆษณาไว้แค่นี้ครับ 
เรามาดูข้อโต้แย้งกันดีกว่าครับ
เริ่มที่ 
รูปของน้ำ 6เหลี่ยม ที่เล็กกว่าน้ำธรรมดา (H2O)  
   ภาีจากคุณ เด็กกรุง จากpantip
http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2010/09/X9743560/X9743560.html
ไปอ่านกันเอาเองครับ
แต่ความจริงดูรูปหน้าจะเคลียร์เรื่องขนาดได้แล้วนะครัับ
หรือถ้าเขาบอกว่าไม่ใช่ 6เหลี่ยบดังภาพบน แต่เป็น 1ในภาพล่างนี้

พวกนี้ คือเกล็ดหิมะ หรือเกล็ดน้ำแข็งนะครับ บ้านเราพบ6เหลี่ยมได้ในช่องฟรีทในตู้เย็นนะครับ พอละลายก็กลายเป็นของเหลวเหมือนเดิมครับ พลึกพวกนี้ก็คือรูปแบบเดียวกับพลึกเกลือ ที่เป็นสี่เหลี่ยม หรือพลึกสารส้มที่เป็นพีระมิดคู่อะครับ  อย่าไปเครียดกับมันมาก  ถ้าอยากินแบบหกเหลี่ยมดังภาพ ต้องกินตอนเป็นสถานะของแข็งเท่านั้น

ถัดมา ข้อโต้แย้ง ของ นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ จาก http://visitdrsant.blogspot.com/2012/10/blog-post_29.html [

น้ำโมเลกุลหกเหลี่ยม แปดเหลี่ยม สิบแปดมงกุฎ




อาจารย์ครับเห็นบทความของสองนายแพทย์คือ นายแพทย์ .... กับ นายแพทย์ .... เขียนเรื่องประโยชน์ของการดื่มน้ำโมเลกุลหกเหลี่ยม และเห็นมีการจำหน่ายน้ำประเภทนี้ผ่านเครื่องผลิตน้ำด้วย อยากทราบว่าประโยชน์ต่อร่างกายจริงๆแล้วเป็นอย่างไรครับ (ผมอ่านในคลังบทความของคุณหมอทั้งหมดแล้วไม่พบครับ) ผมจะไม่เชื่อใครนอกจากความรู้ของอาจารย์ครับ ขอกราบขอบพระคุณล่วงหน้า และคิดว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนครับ



...........................



ตอบครับ



ขอบ คุณมากครับที่อุตสาหะย้อนอ่านดูบทความเก่าจนหมดแล้วยืนยันว่าผมไม่เคยเขียน เรื่องนี้ ตัวผมเองก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าเขียนอะไรไว้บ้าง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเก่าแล้ว



     1.. เอา ประเด็นโมเลกุลของน้ำก่อน คือโมเลกุลของน้ำ มันก็คือโมเลกุลของน้ำ คือมีไฮโดรเจนสองอะตอม ออกซิเจนหนึ่งอะตอม บอกไม่ได้ว่าเป็นกี่เหลี่ยมกี่มุม นึกภาพคุณเอาดินเหนียวกลมๆสามก้อนมาแหมะติดกันมันจะมีได้กี่เหลี่ยมละครับ มันไม่เป็นเหลี่ยมไม่เป็นมุมมากกว่า แล้วก็ไม่มีลิงที่ไหนจะถ่ายรูปโมเลกุลของน้ำออกมาโชว์ชาวบ้านได้หรอกครับ เพราะมันเป็นโครงสร้างที่เล็กจนไม่มีกล้องถ่ายรูปชนิดใดๆจะมองเห็นแม้ กระทั่งกล้องจุลทรรศน์อีเล็กตรอน โครงสร้างโมเลกุลของน้ำมันเป็นเช่นนี้นะเธอ และจะเป็นเช่นนี้เสมอ.. ไม่ว่าจะเป็นน้ำดีน้ำเน่าก็มีโครงสร้างโมเลกุลเหมือนกันหมด ส่วนที่ทำให้ดีหรือเน่าคือสิ่งที่ปนเปื้อนเข้ามาในน้ำ



     2.. รูป ถ่ายน้ำหกเหลี่ยม หรือกี่เหลี่ยมก็ตาม ที่มีโชว์อยู่ตามหนังสือหรือตามเว็บนั้น มันเป็นรูปถ่ายของผลึกน้ำแข็งนะครับ หรือผลึกหิมะ ไม่ใช่โมเลกุลของน้ำ คำว่า "ผลึก" นี้มันอันโตบะเล่งเท่งมองเห็นด้วยตาเปล่าและเป็นคนละเรื่องกับโมเลกุล ต้องย้ำอีกทีไม่งั้นเดี๋ยวเด็กศิลป์ซึ่งอ่านบล็อกนี้อยู่จำนวนมากจะเข้าใจ ชีวิตผิดไป การก่อตัวของผลึกของน้ำแข็ง หรือของเกล็ดหิมะ ตามธรรมชาติมันก็อาจมีรูปร่างแตกต่างกันได้อยู่แล้ว เพราะมันมีกลไก การเกิดคล้ายๆกับการเกิดหยาดเม็ดฝน คือน้ำจะเกาะตัวอยู่รอบๆเม็ดฝุ่นหรือสิ่งสกปรก ยิ่งน้ำมีอะไรปนเปื้อนมาก เวลาตกผลึกก็ยิ่งได้ผลึกเป็นรูปพิศดารพันลึกได้มาก ในทางตรงกันข้าม ถ้าน้ำสะอาดบริสุทธิ์มากเวลาแข็งตัวจะก่อตัวเป็นผลึกยาก นอกจากนี้ความแตกต่างในรูปร่างของผลึกน้ำแข็งที่เกิดขึ้นมีผลศึกษาที่สรุป ไว้เป็นอย่างดีแล้วว่ามันเป็นไปตามอิทธิพลจากอุณหภูมิและปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ เช่นถ้าเราไปถ่ายรูปผลึกน้ำแข็งที่อุณหภูมิ -5 องศาก็จะได้รูปร่างอย่างหนึ่ง ไปถ่ายรูปผลึกที่อุณหภูมิ -20 องศาก็จะได้รูปร่าง อีกแบบหนึ่ง การเปลี่ยนรูปทรงของผลึกน้ำแข็งไปตามอุณหภูมินี้เป็นสัจจธรรมในทางวิทยา ศาสตร์ที่รู้กันทั่ว แต่ว่าไม่เกี่ยวอะไรกับโครงสร้างทางโมเลกุลของน้ำ การบอกว่าน้ำมีโครงสร้างโมเลกุลต่างกันเมื่อตกผลึกแล้วจะให้ผลึกรูปร่างต่าง กันนั้นเป็นไปไม่ได้ในทางวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ฟังแล้วหัวเราะก๊าก เพราะโครงสร้างโมเลกุลซึ่งเป็นหน่วยย่อยที่สุดของน้ำนั้นมีอย่างเดียว ไม่อาจเปลี่ยนแปลงเป็นโครงสร้างแบบอย่างอื่นได้



     3.. เมื่อประมาณปี 1999 ซึ่งก็สิบกว่าปีมาแล้ว มีพ่อค้าและนักเขียนชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่งเรียนจบการแพทย์ทางเลือกที่อินเดียชื่ออีโมโต้ (Dr. Masaru Emoto) เขียนหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ  Hidden Messages in Water ซึ่งก็สิบกว่าปีมาแล้ว มีเพื่อนคนหนึ่งส่งมาให้ผมอ่าน แต่ผมอ่านได้สี่ห้าหน้าแล้วก็ทิ้งไปเพราะเป็นหนังสือที่ผมมองเห็นว่าไร้สาระ อี โมโต้ถ่ายรูปผลึกเกล็ดของหิมะและผลึกน้ำแข็งแบบต่างๆ แล้วบอกว่าน้ำเนี่ยมันอ่านหนังสือออก รับความรู้สึกได้ ถ้าพูดดีๆกับน้ำ หรือเขียนคำดีๆแปะไว้ข้างแก้วน้ำ หรือสวดมนต์ให้น้ำฟัง น้ำนั้นจะกลายเป็นน้ำชนิดดีมีพลัง เวลาน้ำนั้นกลายเป็นน้ำแข็งมันจะตกผลึกเป็นรูปสวยงามไม่ใช่ผลึกมั่วซั่ว เละเทะ แล้วถ้ากินน้ำดีๆมีพลังอย่างที่ว่านี้สุขภาพก็จะดี สาระหลักของหนังสือมีประมาณนี้ แต่ที่ผมโยนหนังสือทิ้งก่อนที่จะอ่านจบก็เพาะอีโมโต้พยายามปลอมความคิดของ เขาให้เป็นวิทยาศาสตร์ อย่างตอนหนึ่งของหนังสือเขาอธิบายการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างผลึกของน้ำด้วยกฎ ความไม่แน่นอนของไฮเซนเบอร์ก (Heisenberg’s Uncertainty Principle) แหม ท่านผู้อ่านครับ ผมเนี่ยตอนเรียนหนังสือสอบตกวิชาฟิสิกส์นะ (เพราะไปเอาการบ้านเพื่อนมาถ่ายเอกสารแล้วส่งให้ครู แบบว่าลอกการบ้านแบบไฮเทคประชดครู ฮิ ฮิ) แต่ว่าเมื่อได้มาอ่านวิธีประยุกต์ใช้หลักไฮเซนเบอร์กของอีโมโต้มาหลอกคนแล้ว ผมเกิดความรู้สึก “งืด” ว่าแหม พี่ยุ่นนี่แกคิดได้ไงเนี่ย  



     หมายเหตุ: สำหรับเด็กศิลป์ กฎความไม่แน่นอนของไฮเซนเบอร์กเป็นความพยายามอธิบายข้อจำกัดของคณิตศาสตร์ เมื่อเอามาคำนวณพฤติกรรมของอนุภาค (เช่นอีเล็กตรอน) ว่าเราจะไม่สามารถคำนวณให้ได้ผลเที่ยงตรงทั้งสองพฤติกรรมในขณะเดียวกันได้ เช่นสมมุติว่าเราทราบตำแหน่ง (position) ที่แน่นอนของอนุภาค เราก็ไม่มีทางทราบโมเมนตัม (มวลกับความเร็ว) ที่แน่นอนของมันในขณะนั้นได้ แต่ถ้าเราทราบว่าโมเมนตัมที่มันวิ่งอยู่ว่าเป็นเท่าไร เราก็ไม่อาจจะบอกตำแหน่งที่แท้จริงของมันได้ อย่างนี้เป็นต้น ทั้งหมดนี้เป็นหลักพื้นฐานในวิชาควันตัมฟิสิกส์ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการตกผลึกของน้ำแข็งเลย..พระเจ้าค่ะ



     4.. ถาม ว่าเคยมีงานวิจัยไหมว่าถ้าพูดดีๆกับน้ำแล้ว เวลาน้ำนั้นกลายเป็นน้ำแข็งมันจะตกผลึกสวยๆให้ดู ตอบว่ามีครับ มีตีพิมพ์ไว้สองรายการ ซึ่งเป็นงานวิจัยของอีโมโต้และคณะทั้งคู่ ตีพิมพ์ไว้ในหนังสือวารสารการแพทย์ทางเลือกซึ่งวงการแพทย์แผนปัจจุบันไม่ ค่อยมีใครอ่านกัน แต่ผมอ่าน เพราะผมชอบอ่านอะไรบ้าๆบอๆแก้เซ็ง ผลวิจัยของอีโมโต้สรุปไปทางสนับสนุนความคิดของอีโมโต้ คือสรุปว่าถ้าพูดดีๆกับน้ำ สวดมนต์ให้น้ำฟัง เวลาเอาน้ำนั้นไปทำให้แข็งหรือตกผลึกแล้ว จะได้ผลึกที่สวยงามกว่าน้ำที่ไม่มีคนพูดอะไรให้ฟัง แต่ว่าไม่มีใครที่ไหนอื่นมาทำวิจัยนี้ซ้ำเพื่อพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ ผมเข้าใจว่าวงการวิทยาศาสตร์คงมองเห็นอีโมโต้ว่าเป็นอะไรที่ไร้สาระจนไม่ยอม เสียเวลายุ่งด้วย ซึ่งผมก็เข้าใจ อย่างสมมุติว่าถ้ามีใครสักคนรายงานผลวิจัยของเขาในวารสาร อะรูมิไร้ (อะไรมิรู้) ว่าเขาสามารถสาปผู้ชายให้กลายเป็นผู้หญิงได้ ถามว่าผมอยากจะไปทำวิจัยนั้นซ้ำเพื่อพิสูจน์ไหม ผมก็คงไม่ทำครับ เพราะมันเป็นเรื่องไร้สาระที่นอกเส้นทางวิทยาศาสตร์ไปไกลมากเกินไป



     5.. ถามว่าถ้าขยันดื่มน้ำมนต์ หรือน้ำที่มีคนพูดดีๆด้วย ทำดีๆด้วย หรือเอาไปผ่านเครื่องทำน้ำมนต์อัตโนมัติ ผ่านหินวิเศษ แช่เหรียญวิเศษ ให้กลายเป็นน้ำดีมีพลัง จะเรียกว่าเป็นน้ำหกเหลี่ยม น้ำแปดเหลี่ยม หรือน้ำสิบแปดมงกุฎก็ตาม แล้วสุขภาพจะดีขึ้นไหม แหะ..แหะ ตอบว่า วงการวิทยาศาสตร์ไม่มีข้อมูลเรื่องอย่างนี้หรอกครับ ผมว่าท่าทางคุณจะมาหาผิดที่ซะแล้วมั้ง ถ้าคุณจะหาผีนางนาค คุณก็ต้องไปศาลแม่นาคที่ซอยอ่อนนุช ถูกแมะ ไม่ใช่ไปเดินหาที่ห้างพารากอน มันคนละทิศคนละทางกัน แปลไทยเป็นไทยก็คือว่าไม่เคยมีใครทำวิจัยเรื่องผลขอ งน้ำมนต์หรือน้ำหกเหลี่ยมต่อสุขภาพไว้เลยครับ

    6.. ถาม ว่าเป็นนายแพทย์แล้วจะชักจูงให้คนทำอะไรที่ไม่สอดคล้องกับหลักวิชาแพทย์แผน ปัจจุบัน หรือที่ไม่มีหลักฐานข้อมูลวิทยาศาสตร์รองรับ ได้ไหม ตอบว่า



“..เมืองไทยนี้ แสนดีหนักหนา

ใครใคร่ค้าช้าง ค้า

ใครใคร่ค้าม้า ค้า

อย่าเหยียบตาปลากันเข้าก็แล้วกัน..เป็นเรื่อง

ผมจึงต้องลบชื่อคุณหมอในจม.ของคุณออกไงครับ.. ”



     7. พูดถึงอีตาอีโมโต้นี้ นอกจากจะเขียนหนังสือแล้วแกยังขายของทางอินเตอร์เน็ทสาะพัดสาระเพ ซึ่งล้วนแต่เกี่ยวข้องกับทฤษฏีน้ำดีน้ำเสียของแกทั้งสิ้น
     8. ผมแถมให้อีกประเด็นหนึ่งเพราะเคยมีคนถามมานานแล้วแต่ผมไม่มีเวลาตอบ คือถามว่าจริงไหมที่ว่าน้ำโมเลกุลหกเหลี่ยมนี้ดูดซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อของ ร่างกายได้ดีกว่าน้ำที่เราดื่มกินกันตามปกติหลายเท่า อันนี้ผมตอบได้ตามหลักฐานวิทยาศาสตร์ว่า "ไม่จริงครับ" เพราะโมเลกุลของน้ำหน้าตามันเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นน้ำมนต์หรือน้ำธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นน้ำที่เมื่อแข็งตัวแล้วจะให้ผลึกรูปกี่เหลี่ยมก็ตาม หรือให้ผลึกสวยไม่สวยก็ตาม คือโมเลกุลน้ำที่เหมือนกันหมดนี้มันก็ผ่านเยื่อบางที่บุหุ้มรอบเซลได้อิสระ เสรี กลไกที่จะทำให้มันเข้าสู่เนื้อเยื่อได้เร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับแรงสองแรงที่ ช่วยกันอยู่ในที แรงแรก ก็คือแรงดูดจากความเข้มข้นของของเหลวในเซล (osmosis) คือน้ำมีธรรมชาติวิ่งจากของเหลวที่มีความเข้มข้นต่ำ (นอกเซล) ผ่านเยื่อบุไปหาของเหลวที่มีความเข้มข้นสูง (ในเซล) เช่นถ้าร่างกายขาดน้ำ เซลเหี่ยว ของเหลวในเซลมีความเข้มข้นมาก น้ำก็จะเข้าเซลได้เร็ว แรงที่สอง คือแรงดันจากปริมาตรของน้ำในหลอดเลือด (hydrostatic pressure) ซึ่งเปรียบเสมือนแรงดันน้ำประปาในท่อ ถ้าแรงดันดี น้ำก็ถูกอัดออกไปสู่เซลได้เร็ว ดังนั้นคนที่ไม่ชอบดื่มน้ำ ปริมาตรน้ำที่ไหลเวียนในระบบเลือดมีน้อย แรงอัดน้ำออกไปสู่เซลก็มีน้อยตามไปด้วย เซลจึงมีโอกาสขาดน้ำมากกว่าคนที่ชอบดื่มน้ำ 


    9.. ไหนๆก็พูดถึงเรื่องน้ำแล้ว สิ่งที่วงการแพทย์รู้แน่ชัดว่าแล้วมีประโยชน์จริงๆ มีสองประเด็น คือ



    9.1 การ ลงทุนจัดหาน้ำสะอาดไว้ให้คนดื่ม เป็นการลงทุนทางการแพทย์และสาธารณสุขที่คุ้มค่าที่สุด นี่ผมไม่ได้พูดเอง แต่องค์การอนามัยโลกสรุปไว้ ความรู้ที่ง่ายๆเสมือนหญ้าปากคอกข้อนี้อาจมีประโยชน์และช่วยให้ผู้บริหาร ท้องถิ่นจัดลำดับการใช้ทรัพยากรได้ดียิ่งขึ้น เพราะบางแห่งทำถนนซะกว้างใหญ่ แต่พอเปิดน้ำประปามีหญ้ากอน้อยๆวิ่งพรวดออกมาจากก๊อกเลยก็มี หรืออีกตัวอย่างหนึ่งคือแถวบ้านพักของผมที่เขาใหญ่ เทศบาลก่อสร้างอะไรต่อมิอะไรอลังการ์เยอะแยะ แต่ถ้าเปิดน้ำประปาดู บางวันบางเวลาน้ำ ก๊อกที่ไหลออกมาขอโทษ.. สียังกับฉี่ของคนเป็นกรวยไตอักเสบ คำว่าน้ำสะอาดนี้ผมหมายถึงน้ำที่ไม่มีเชื้อโรค ไม่มีสารปนเปื้อนเช่นอึวัว ไม่มีของแถมไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ อย่างเช่นน้ำตาลในเครื่องดื่มต่างๆเนี่ยถือว่าเป็นตัวอย่างของๆแถมที่ทำให้ น้ำดีๆกลายเป็นน้ำให้โทษไป



    9.2 ร่างกายต้องการน้ำไปบำรุงรักษาการทำงานของทุกอวัยวะ โดยเฉพาะไต ซึ่งจะเจ๊งก่อนเพื่อนถ้าร่างกายได้รับน้ำไม่พอ ดังนั้นการดื่มน้ำสะอาดให้มากเพียงพอ คือวันละอย่างน้อยสองลิตร จึงเป็นสาระหลักที่ทุกคนควรทำ หากคิดจะทำนุบำรุงสุขภาพตัวเองด้วยน้ำ 



นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์



บรรณานุกรม



1.     Radin, D, Gail H, Emoto M, Kizu T  "Double-Blind Test of the Effects of Distant Intention on Water Crystal Formation". The Journal of Science and Healing 2006: 2 (5): 408–11. doi:10.1016/j.explore.2006.06.004. PMID 16979104.
2.     Radin, D., Lund, N., Emoto, M., Kizu, T. (2008). Effects of distant intention on water crystal formation: A triple-blind replication.Journal of Scientific Exploration 2008 : 22(4), 481-493.]

หลังจากอ่านแล้ว เป็นไงครับ ? 
ถ้าถูกใจ ก็เขาไปขอบคุณที่ http://visitdrsant.blogspot.com/2012/10/blog-post_29.html 
หรือถ้าข้องใจ ก็เข้าไปถามกันเองครับ  

ผมให้โฆษณาไป 5รายการ
้องสงสัย 1 ข้อโต้แย้ง อีก 1รายการ
ดูๆแล้ว ปริมาณข้อมูลของการโต้แย้งจะน้อยกว่ามาก
แต่ก็ข้อให้อ่านให้ครบถ้วน และพิจารณาด้วยตนเอง และตัดสิ้นใจ ว่า จะซื้อ ดีไหม?    


.

.
.
.
.