วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

Can't read from the source file or disk.


Can't read from the source file or disk.

Interrupted Action  !!!!
Can not read from the source file or disk.


คิดว่าหลายๆคนจะไม่ค่อยเจอปัญหานี้บ่อยๆ แต่ถ้าเจอละก็ อาจจะหืดจับได้

เอาละ หลายคนเจอะแบบนี้กับไฟล์สำคัญ หรือว่าจะไฟล์งานที่ต้องส่งเจ้านาย ฯลฯ อาจจะมองหาวิธีแก้ ไข ก่อนเป็นอย่างแรก

แต่ผมจะยังไม่บอกหรอก มาเริ่มกันก่อนว่า มันคืออัลไร?
เอาละ เอาภาษาคนง่ายๆ คือไฟล์มันอ่านไม่ได้ สาเหตุร้อยแปด  ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ที่เสียเอง ไม่ว่าจะเสียตอนเขียน หรือเสียตั้งแต่สร้างไฟล์ครั้งแรก หรือ อยู่ดีๆ ไฟล์มาเสียที่หลัง 
ถ้าจะให้แยกก็คงได้ จาก ด้านซอฟแวร์ ไม่ก็ฮาร์ดแวร์
ถ้าซอฟแวร์ นี้ ก็ ตั้งแต่ ไวรัส โปรแกรมที่สร้างไฟล์ มีปัญหาตั้งแต่แรก ฯลฯ
แต่ถ้าฮาร์ดแวร์ อันนี้ก็ ทำใจ เริ่มตั้งแต่ Bad Sectors ไม่ก็  Bad Clusters หรือตอนที่หัวเขียน ตอนเขียนไฟล์  สดุด ทำให้เขียนมีปัญหา 
แม้แต่อาจจะเกิดจากการเชื่อมต่อ ตั้งแต่พอร์ท USB สาย ยัน ตูดเสียบ หรือวงจร ในตัว ฮาร์ดดิสภายนอก ฯลฯ

อ่าใช่อีกปัญหาหนึ่งที่ทำให้ก็อบไฟล์ไม่ได้ อาจเกิดจากตัวคุณเอง เช่นลืมเรื่อง
Disk Format Compatibility ซึ่งมีหลายแบบ ไม่ว่าจะ  FAT16, FAT 32 หรือ NTFS เช่นไฟล์จะก็อปไฟล์ หนัง BD จาก NTFS มาใส่ใน FAT 32 แต่ก็อบไม่ได้ นั่นก็เพราะ ว่า FAT32 รับไฟล์ใหญ่ได้แค่ 4GB ประมาณนั้น
หรือชื่อไฟล์ เช่นยาวเกินไป เป็นต้น

เอาละ สาเหตุที่เกิด ก็คร่าวๆประมาณนั้น ซึ่งไม่ครบถ้วน แค่พอถูกไถ

เรามาถึงวิธีแก้ ปัญหา หรือ Fix มันดีก่า 

ใครทำเป็นแล้วปิดไปโลดครับ
ง่ายสุด แบบตัวเปล่า คือการ สแกนดิส (ScanDisk)  ซึ่ง ขอแนะนำให้เรียก Command Prompt ขึ้นมา
แล้วใช้คำสั่ง chkdsk แทน ทำบน Properties ตามภาพบน


ก็ขั้นแรก เรียก Run คีย์ลัดคือ ปุ่มวินโดว์+R แล้วพิม cmd ลงไปเพื่อเรียก อ่ะๆ แต่นั่น อาจจะ ไม่ได้เรียก โดยใช้ สิทธิ์ของ Administrator 
เริ่มใหม่ ให้ เรียกผ่าน ปุ่มค้นหาหรือ แว่นขยาย ข้าง ปุ่มสตาร์ทวินโดวมุมล่างซ้าย หรือปุ่ม start มุมซ้ายล่าง ที่ไว้ ชัดดาว์นนะครับ แล้ว เรียกตามภาพ
เอาละ พอเรียก กล่องคำสั่งมาแล้ว เราก็มาเริ่มสั่งกัน สำหรับ คนที่ทำเป็นแล้วปิด ไปโลด อย่าเสียเวลา

เอา ละ พิมพ์คำสั่ง chkdsk ลงไป  แต่ใจเย็น ให้ดูข้อ 2 และ 3ตามภาพด้วย
2 หมายถึง ไดร์ที่เราจะทำการสแกน และ 3 คือ ออฟชั่น  /f คือ fix ส่วนที่เสีย /r คือกู้คืน(ถ้ากู้ได้นะ)
สรุป ถ้า จะสแกนไดร์ C ก็พิมพ์ตามนี้ 
chkdsk c: /f /r
จริงๆ ถ้า สั่งแค่ chkdsk มันก็จะย้อนไปดูว่าตอนนี้ มันอยู่ไดร์อะไร ตามภาพ มันก็บอกว่า c:\windows\system32>  มันก็จะไปสแกนไดร์ c นั่นละ แล้วมันก็จะสแกนเฉยๆ ไม่ ซ่อมไม่แก้ไม่กู้
คือรู้ว่า มี bad เท่าไหร่ ยังไง แต่ ก็ไม่ได้ดีกว่าเดิม

เอาละ ขั้นต่อมา
เนื่องจาก เราสั่งสแกนที่ไดร์ c ที่ลง วินโดวไว้ ดังนั้น ถ้ารันวินโดวอยู่มันก็สแกนไม่ จำเป็นต้องรี เพื่อสแกน จะทำต่อหรือไม่ ? ถ้า ทำต่อ ก็ พิมพ์ y แล้ว enter โลด
แต่ ถ้าไม่ใช่ ไดรที่ลงวินโดว์ไว้ ก็ ไม่ต้องรีสตาร์ท แต่ จะใช้ไดร์นั้นไม่ได้จนกว่าจะเสร็จ
ก็รอจนกว่าจะเสร็จ ซึ่ง ส่วน  ถ้าไฟล์หนังไฟล์ภาพบาง นามสกุล จะ ได้รับการแก้ไข แต่ส่วนใหญ่ ก็ต้องทำใจ

วิธีที่สอง ใช้โปรแกรมกู้ไฟล์ ซึ่งโปรแกรมนี้ จะอ่าน ที่ละ Sector แบบใจเย็น ซึ่งถ้าไฟล์เสีย  มันก็อ่าน หรือกู้ได้ไฟล์เสียอ่ะนะ ถึงจะก็อบได้ ไฟล์มันก็เสียไปแล้ว  ถ้าเป็นไฟล์หนัง บางเฟรมอาจจะมืดหรือรวน หรือเปิดไม่ได้ 


หรือ ทางเลือกที่สาม ส่งให้มืออาชีพกู้ (ไม่ใช่ผมแน่ๆ ไม่ต้องส่งมานะครับ )


จริงแล้วๆ เราควรป้องกัน จะดีกว่าครับ

การป้องกัน เบื้องต้น


สำหรับไฟล์งานสำคัญๆ เราควรเก็บไว้ใน HDD คุณภาพ หรือ SSD คุณภาพ อย่าเก็บไว้ในไดร์เก่าๆ เสียดังแกรกๆ หรือ SSD ราคาถูกๆ ซึ่งมันจะ BAD ง่ายและอายุสั้น

แล้วเรื่อง HDD BAD นี้ แค่ ขาเตะโต๊ะระหว่างเขียนอยู่ อาจจะซวยได้ หรือแม้แต่ไฟฟ้า มีการกระโชค  หรือ คนงานกำลังอ๊อกเหล็ก หลังคาบ้าน ถ้า PSU ไม่ดี ร่วมกับ HDDโบราณ ก็อาจจะซวยได้

หรือแม้ว่า การวาง HDD ติดกันเยอะ แล้วใช้ HDD ที่ไม่มีระบบกันสั่นเวลาเขียน ก็อาจจะซวยได้
อาจจะนึกว่าขนาดนั้นเลยหรือ
เห็น ตัวอ่านเขียน HDD ไหมครับ ที่ดูเหมือนแตะกับจานแม่เหล็ก แต่จริงๆมันไม่ได้แตะ และแค่การเขย่าฮาร์ดดิส อาจจะทำให้ ปากกาไปกระแทกกับจานได้ ทำให้เกิด BAD แค่นั้นยังไม่หนำใจ ถ้ามีฝุ่น จากการกระแทกที่ว่า หรือ เศษจานแม่เหล็กกระเด็นออกมา มันก็จะลันล้า ไปทั่ว HDD  ถ้าเทียให้เห็นง่ายๆ ถ้าเปรียกับกระดาษปากกาที่เราใช้กัน ฝุ่นที่เล็กกว่าเส้นผม จะใหญ่พอๆกับท่อนไม้ซุง อายุหลายร้อยปีครับ  คิดว่าจะสร้างความเสียหายให้แก่ห้องสมุดของคุณได้มากแค่ไหน?
ผมก็พูดเวอร์ไป ช่างมันเถอะครับ
จริงไม่ใช่แค่ฮาร์ตดิส นะครับ มันไล่ไปถึง OS หรือ เครื่องคอมเลยก็ได้ครับ  ดังนั้นคอมหรือโน๊ตบุ๊คที่ไว้ใช้สำหรับงานที่ต้องการความเชื่อถือสูงๆ ราคาถึงได้แพงกระโดดกว่าคอมเล่นเกมไงละครับ
ถ้าจะให้พูดก็ต้องพูดตั้งแต่กระแสไฟฟ้า 220V 50Hz ที่ต่อเข้า PSU  หรือตัว PSU เอง หรือแม้กระทั้ง HDD ที่ติดกัน ผัดลมที่สั่น หรือแม้แต่นิสัยนังเขย่า คุณภาพ HDD สาเหตุมากมาย
แล้วก็อย่างคิดว่านะว่า SSD จะไม่มี BAD

ดันนั้นไฟล์สำคัญๆ เขาต้องสำรองไฟล์ หรือ ซิงค์กับคลาวด์เซิร์ฟเวอร์ ไว้ตลอด แต่อย่าลืมว่า มันก็เหมือนเอาหัวใจไปฝากชาวบ้าน ถ้าเป็นเอกสารลับ อาจจะถูกแอบอ่าน ได้ตั้งแต่ LAN ในบ้าน  ISP ยันคลาวด์เซิร์ฟเวอร์ อย่าลืม ยาฮู ที่ว่าแน่ๆ ก็เคยโดนเละเทะ   ดังนั้นควรเลือกคลาวด์เซิร์ฟเวอร์ ที่เชื่อถือได้ ถ้าจะใช้วิธี สำรองข้อมูลสำคัญกับคลาวด์เซิร์ฟเวอร์
หรือบางคนบอก เราควรเก็บไฟล์ไว้กับตัวเอง อุ่นใจกว่า  แต่ก็อย่าลืมว่า เราสู้เขาไม่ได้ แต่ข้อดีคือเราถูกกว่า ถ้าจะเก็บข้อมูลสำคัญๆในปริมาณมากๆ เช่นหนังAV เป็นต้น
วิธีสำรองเบื้อต้น ก็ เช่น เขียนไฟล์ไว้สองที่ HDD คนละลูก หรือ สำรองไว้กับ ฮาร์ตดิสภายนอก หรือเขียนลงแผ่น CD / DVD

แต่นั้นมันก็ยุ่งยากนะ งั้นลองใช้  Windows Backup เป็นไง


ตั้งสำรอง ทุกคืน หรือทุกเดือน ก็ว่าไป
แต่ สำรองทุกคืน ก็ ยังสู้ ซิงค์ คลาวด์เซิร์ฟเวอร์ ไม่ได้ ที่คอยซิงค์ เรื่อยๆ
งั้นเรามาให้โปรแกรม Backup Activity   ดีกว่า ที่มีการ backup เรื่อยๆเมื่อไฟล์มีการแก้ไข ซึ่งก็มีหลายเจ้าในท้องตลาด  ซึ่งหลักๆ ก็จะมีการ สำรองข้อมูล ทุกๆครั้งที่มีการแก้ไข ถ้า เป็น icloud ก็ส่งเข้า คลาวด์เซิร์ฟเวอร์ ชื่อมันก็บอกอยู่แล้ว หรือ โปรแกรม Toolkit ที่แถมมากับ ฮาร์ดดิสภายนอก seagate หรือ Western Digital Backup (WD Backup ) ที่แถมมากับ  ฮาร์ดดิสภายนอก WD
ที่ว่านั้นคือการสำรองข้อมูลหรือ backup ครับ
ต่อมา อีกวิธี ซึ่ไม่ใช้ backup แต่ ก็ได้ผลดี นั่นคือการทำ Raid ครับ ซึ่งในที่นี้ ผมจะขอเสนอ Raid 1 ครับ


 หรือ  เรียกเว่า เป็นเรดกระจกเงาก็ได้ครับ คือเมือมีการเขียนไฟล์ มันก็จะเขียนไฟล์ ลง HDD หรือ SDD สองลูกพร้อมๆ กัน ครับ เวลาอ่านก็อ่านทั้งสองลูก ถ้ามี Bad Sectors หรือ Bad Clusters ลูกไหน มันก็ยังเหลือ อีกลูกไว้อ่าน ดีไหมครับ แล้วไอ้การจะ BAD สองลูกพร้อมๆกันนี้เหมือนถูกหวย ถ้ากลัว ก็ทำ Raid 1 กับ HDD หรือ SDD สามสี่ลูกก็ได้ครับ ประมาณว่าต่อให้ เสียทั้งลูกก็โยนทิ้งเอาตัวใหม่มาใส่แทนก็ได้ครับ ไม่ต้องเสียเวลกู้ ไอ้การที่ สองลูกจะเสียพร้อมๆกันนี้ก็ยากเหมือนถูกหวย
แต่อย่าลืม ว่าการทำ Raid ไม่ใช่ backup นะครับ
ซึ่ง สามารถ ใช้การทำ Raid 1 ร่วมกับ การ Backup Activity ได้ครับ  แน่นอน ว่าข้อมูลสำคัญของคุณ จะปลอดภัยมากขึ้น แต่ ถ้าบ้านบึมละ ก็หมดครับดังนั้น การ Backup Activity ก็สามารถ ร่วมกันได้ กับ ฮาร์ดดิสภายนอก และ คลาวด์ ครับ  แล้ว คลาวด์ ก็จะแบ่งได้ อีก คือ Centralized cloud และ Decentralized cloud  แปลเป็นไทยง่ายๆ คือ คลาวด์รวมศูนย์ กับคลาวด์กระจายศูนย์ นะครับครับ  อันแรกเช่นไอคลาวด์ ถ้า กระจาย ก็เช่น Sia อันนี้ ผมใช้อยู่
เอาเป็นว่าทางblogแนะให้คร่าวๆ ครับ ไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมาก แค่ชีทาง แต่แค่นี้ ข้อมูลสำคัญทุกท่านก็จะปลอดภัยขึ้น แต่อย่าลืมว่าไม่มีระบบหรืออะไรที่อยู่ค้ำฟ้านะครับ  แต่ถึงกระนั้น เราก็ไม่ควรปล่อยให้ไฟล์สำคัญของเราชิบหายไปต่อหน้าต่อตาง่ายๆใช่ไหมละครับ
โชคดีในการเก็บไฟล์ครับ ท่านผู้อ่าน




วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ฆ่าคนในความฝัน ? ฆ่าคนในฝันบอกอะไร?

เอาละ ผมว่าหลายคนที่ค้นหาเรื่องนี้ แล้วมาเจอนี้ หรือถ้าชาวพุทธไทย อาจจะถามว่า ฆ่าคนในฝันบาปไหม?
เอาละ ก่อนจะตอบ เรามาย้อนธรรมชาติของมนุษย์ก่อน

ย้อนกลับไป เราจะเป็นว่า สงครามและการฆ่า เป็นเรื่องธรรมชาติของของมนุษยชาติ ( mankind 
 ) ไม่ว่าจะกระทำต่อ  สปีชีส์อื่น หรือต่อสปีชีส์เดียวกันก็ตาม


ถ้าจะให้แยกแยะ วิธีการฆ่า ก็จะมีการแบ่งไปได้อีกเยอะ ถ้าง่ายๆ ก็คือ กินโยติน  ที่ผู้ออกแบบ จงให้ให้ฆ่าอย่างรวดเร็วไม่ทรมาน ซึ่ง แตกต่างจาก โคสัมฤทธิ์ ( โคทองเหลือง,โคซีชีเลีย  หรือ  Brazen Bull

จุดประสงค์ ก็มีมายมายหลากหลาย ที่เราคุ้นตา คือการฆ่าเพื่อเป็นอาหาร หรือแม้แต่ฆ่ากัน เพราะความขัดแย้ง ไม่ว่าจะเพื่อนบ้าน ผัวเมีย วัยรุ่นตีกัน การเมือง ศาสนา หรือประเทศชาติ

ย้อนกลับมาที่ ความฝัน  ความฝันก็คือ จิตใต้สำนึก หรือ จิตไร้สำนึก ของเรา ที่เวลาปกติ ส่วนสำนึก จะทำงานมากกว่า จิตไร้สำนึก แต่ตอนหลับ จิตสำนึกลากลับบ้านไปก่อน
แล้วถ้าเปรียบเทียบความฝันเป็นโปรแกรมและสมองเป็น คอม สมองเราก็กำลังจัดเรียง บีบอัด คัดแยก ข้อมูล ใหม่ เก่า รวมกับ จินตนาการ ฯลฯ   กระบวนการที่ว่ามานี้ เป็นอะไรที่ซับซ้อนมากๆ เอาเป็นว่า หมอ และนักวิทยาศาสตร์ สมัยนี้ ยังไม่เข้าใจกระบวนการที่ว่านั่นดี ดังนั้นอย่าไปสนใจ ที่เกริ่นไว้ข้างต้น ลืมๆมันไปซะ 

เอาเป็นว่า คนที่ฝันว่าฆ่าคนแบบนี้ คือคนที่สามารถ ฆ่าคนได้  ฟังแล้วอย่า ตกใจ ใช่ คือสามารถฆ่าคนได้จริงๆ แต่ถ้าอธิบาย ทางนี้มันยาก เอาเป็นว่า อธิบาย คนในทางตรงกันข้ามดีกว่า

คนที่ จะไม่ฆ่าผู้อื่น ไม่ว่าจะมีเหตุใดๆ ไม่ว่า ตัวเองจะต้องตาย ครอบครัว ลูกเมีย คนรัก พ่อแม่ จะต้องตาย จะสิ้นชาติสิ้นแผ่นดิน ไม่ว่าจะทุกข์ทรมานแค่ไหน จะเกิดเหตุอะไรขึ้น ก็ไม่ฆ่า

เอาละ คนแบบที่ว่ามานี้ อาจจะเข้าขั้น อริยบุคคล เลยละครับ ในที่ทำงาน ในหมู่บ้าน ถ้ามีซักคน ก็โชคดีแล้วละครับ

 ดังนั้น จะบอกว่า คนที่ฆ่าคนได้ผมถือว่าเป็นคนส่วนใหญ่ ครับ ไม่แปลก เป็นธรรมชาติของมนุษย์ แต่ไม่ใช่ จะให้ปล่อยผ่านไปดื่อๆ  นี้อาจจะถือว่าเป็นคำเตือน ว่า ระดับจิตใจ ยังดีไม่พอ มีโอกาส ก็ต้องแก้ไขและยก ระดับจิตใจขึ้น
เปรียบ ถ้า ละและดับเรื่อง กามได้ 100% ก็จะไม่ฝันถึงเรื่องกาม

ถัดมา ถ้าถามเรื่องบาปไหม ? ตอบตามแนวชาวพุทธนะครับ

  แค่คิด ก็บาปแล้วครับ แต่ถ้าไม่ใช่ ชาวพุทธที่ มุ่งสู่ นิพพาน ก็ไม่ต้องคิดมาก เพราะเป็นบาปเล็ก ไม่ใหญ่ คนเราคิดเรื่องฆ่ากันเป็นธรรมดา อย่างข่าวในไทย ที่มีรณรงค์ ข่มขืน=ประหาร เป็นต้น
แต่ถ้าเป็นชาวพุทธ ที่อยากจะเลิกเป็นปุถุชนคนธรรมดา แล้ว มุ่งสู่ นิพาน  ก็ต้องพยายาม มากกว่านี้ครับ
เพราะ สภาวะที่ ดับกิเลสได้อย่างสมบูรณ์และถาวร มันดูขัดกับธรรมชาติของมนุษย์ที่เกริ่นไว้ข้างต้นครับ ดังนั้น สภาวะที่ว่า ถึงจะได้เลิกเป็น ปุถุชนคนธรรมดาแบบถาวรไงละครับ ซึ่งเป็นจุดสูงสุด ของชาวพุทธ

ปล.

ตั้งแต่เลิกเป็นเด็ก ผมนี้ฝันแบบนี้บ่อยครั้ง แต่คนหลายคนที่ฝันแบบนี้ครั้งแรก อาจจะรู้สึกไม่ดี เคร้าหมอง แต่นั้น ก็บอกว่าคุณเป็นคนดีในระดับหนึ่ง อย่างน้อยก็ดีกว่า ตื่นขึ้นมาแล้วเม้มปาก ทำตาเชิดขึ้น แบบนางอิจฉาในละครหลังข่าว แล้วคิดแบบดีใจที่คนนั้นตาย ประมาณนั้น

แล้วก็อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ อย่าคิดว่าบทความนี้จะถูกต้อง  นพครับ เพราะบทความนี้เขียนโดยมนุษย์ตดเหม็น และมนุษย์ก่อความผิดพลาดมามากมาย ถ้าต้องเชื่อ จงเชื่อตัวเองก่อนเชื่อผม

วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ว่ากันด้วยเรื่อง ลำโพงไบออส Bios Speaker จะเรียกอะไรก็ แล้วแต่ สมัยก่อนมันเป็นลำโพงแม่เหล็ก ประมาณ 3นิ้ว โคตรใหญ่แถมแพง แถม ชอบติดกับเคสเหล็ก ต้องยึดให้ดี วุ้นวาย มาก ถ้ามันมากับเคส ชีวิตจะง่าย หมายถึงสมัยก่อนนะ 
แต่เดียวนี้ อันละ 30บาท ถูกสุด 5-6บาท ถ้าซื้อ 10 อัน ค่าส่งต่างหาก ก็ไม่รู้หรอกนะ ว่ามันต่างกันอย่างไง เสียทุ้มนุ่มลึก ฟังแล้วขนลุก หรือเปล่าก็ตามกำลังศรัทธา
  
เชื่อสิ หลายคนมองข้าม  
ถ้ามองข้าเพราะเคสมี ไฟ มี จอ LED หรือไฟแจ้ง หรืออื่นๆ ใน เมนบอร์ดก็แล้วไป แต่ถ้าไม่มีแล้วลืมติดนี้ 

ขอบอกไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น

ใช่ไม่มีปัญหาใดๆ จนกว่าจะเจอปัญหา นั่นละ 
ยามปกติ เปิดเครื่อง ร้องปิ๊ด คือเอาเคกูตื่นแล้ว ถ้าเปิดแล้วไม่ร้อง นี้ น่าเป็นห่วง หรือ ควรครางหลายปี๊ดนี้ ก็ต้องตั้งใจนำ ว่ามันปีดสั้นหรือยาว แล้วกี่ครั้ง ก็ไปเปิดคู่มือเมนบอร์ดดูว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ต่างกับ LED ที่มากับบอร์ดหรู  ก็ต้องมาดู ว่า 60 66 คืออะไร จะมีแฟนพันแท้ซักกี่คนจำได้ 
แต่สัญญานเสียงนี้ ที่เจอมาทั้งชีวิต เหมือนกันหมด 

ซึ่ง จะตามดังนี้ เครดิต เดบิต
โดย นายกุลางกูร พัฒนเมธาดา  
https://stri.cmu.ac.th/km_it_detail.php?id=4

  สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

BIOS Award 
เสียง Beep สั้นๆ 1ครั้ง (Beep) > เครื่องทำงานปกติ
เสียง Beep สั้นๆ 2-3 ครั้ง (Beep Beep) > เครื่องทำงานผิดปกติ แรมหรือแมนบอร์ดอาจมีปัญหา Post ไม่ผ่าน
ไม่มีเสียง (...) > แหล่งจ่ายไฟหรือแมนบอร์ดมีปัญหา
เสียง Beep สั้นๆ หลายครั้งอย่างต่อเนื่อง (Beep Beep Beep Beep Beep) > แหล่งจ่ายไฟหรือเมนบอร์ดมีปัญหา
เสียง Beep ยาวๆ 1 ครั้ง และสั้นๆ 1 ครั้ง (Beep...Beep) > เมนบอร์ดมีปัญหา
เสียง Beep ยาวๆ 1 ครั้ง และสั้นๆ 2 ครั้ง (Beep...Beep Beep) > การ์ดจอเสียบไม่แน่น หรือเสีย
เสียง Beep ยาวๆ หลายครั้งอย่างต่อเนื่อง (Beep...Beep...Beep...Beep...Beep...) > แรมเสียบไม่แน่น หรือหน้าสัมผัสสกปรก

BIOS AMI
จำนวนเสียง 1 ครั้ง > เครื่องทำงานปกติ POST ผ่าน
จำนวนเสียง 2 ครั้ง > หน่วนความจำส่วนแรกสุด (64kb) มีปัญหา ตรวจสอบพาริตี้ไม่ผ่าน
จำนวนเสียง 3 ครั้ง > การทดสอบการอ่าน/เขียนข้อมูลในหน่วยความจำมีปัญหา
จำนวนเสียง 4 ครั้ง > วงจรตั้งเวลาตัวหลักเมนบอร์ดมีปัญหา
จำนวนเสียง 5 ครั้ง > CPU มีปัญหา
จำนวนเสียง 6 ครั้ง > ตัวชิบที่ควบคุมการทำงานของคีย์บอร์ดเสีย
จำนวนเสียง 7 ครั้ง > เกิดปัญหาในการเปลี่ยนโหมดการทำงานของ CPU
จำนวนเสียง 8 ครั้ง > หน่วยความจำบนการ์ดจอมีปัญหา (การ์ดจอเสีย) เสียบไม่แน่น หรือหน้าสัมผัสสกปรก
จำนวนเสียง 9 ครั้ง > BIOS มีปัญหา
จำนวนเสียง 10 ครั้ง > CMOS มีปัณหา ไม่สามารถอ่านเขียน CMOS ได้
จำนวนเสียง 11 ครั้ง > หน่วยความจำแคชมีปัญหา

ตามนั้น บางทีคนเราก็ทิ้งคู่มือเมนบอร์ดไปตั้งแต่วันแรกแล้ว อ่านะ 
เอาละ เท่านี้ผู้อ่านทุกท่านรู้ซึ้งหรือยัง อย่ามาถามว่าติดตั้งตรงไหน ให้ไปอ่านคู่มือเมนบอร์ด ถ้าทิ้งไปแล้ว ส่วนใหญ่อยู่ล่างเมนบอร์ด เขียนว่า สปีกเกอร์บ้าง อะไรบ้าง แต่มองแล้วน่าจะพอเดาออก แต่บางเจ้าไม่เขียน ไม่เขียนแม้กระทั้ง + - จริงๆ สลับได้เครื่องไม่บรึม แต่เสียงอาจจะไม่ออก 
แล้วถ้าคอมไม่มี ก็ไม่ต้องรีบติด เจอ ก็ซื้อมาติดบ้านไว้ คอมเสีย ยังไงๆก็ต้องเปิดเคสอยู่แล้วค่อยใส่ก็ได้
หรือจะให้ดี ใส่ไปตั้งแต่ประกอมคอมนั่นละดีที่สุด  

สรุป มันเป็นของที่ไม่ได้ใช้ตราบใดไม่มีปัญหานั่นละ แต่ถ้ามี 20-30บาท ช่วยได้เยอะ คิดเอาว่าคุ้ม หรือไม่?