วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เมื่อความสะดวกในการแก้ไขอัตโนมัติกลายเป็นความจังไรบน Microsoft Word

 เมื่อความสะดวกในการแก้ไขอัตโนมัติกลายเป็นความจังไรบน Microsoft Word

เอาละ เขียนไว้ ใช้เองคือ ตัวเอง บางครั้ง พิมพ์โค้ด พรอมพ์ พาส  มันแก้ แล้ว บางครั้งไม่รู้  หรือ ไอ้ฟันหนู มันใส่ฟันหนูโค้งหน้าหลังให้ หรือแก้ไขตัวอักษรตัวแรกหน้าประโยค ให้เป็นตัวใหญ่เวลาเขียนบทความ มันก็ดี แต่ถ้าไม่ใช่ มันคือความจังไร

เอาละเข้าเรื่อง มา เข้าวิธีปิดการตั้งค่าแก้ไขอัตโนมัติ สำหรับภาษาไทย 

ดั้งนี้ 

1.เข้า ไฟล์  อยู่ซ้ายบน ไปที่ตัวเลือก อยู่ซ้ายล่าง


 



เข้าไปที่ แถบ การพิสูจน์อักษร ด้านซ้าย

แล้วไปที่ ตัวเลือกการแก้ไขอัตโนมัติ ที่วงไว้ในรูป มีอะไรไม่เอาติ๊กออกให้หมด จบ

 





วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ADCSee ลดหนักๆตอนไหน ซื้อตอนไหนดี?

**(เอาตรงๆ ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา ก็ข้ามบทความนี้ไป  )**
ก็ ลดหนัก  โดยใช้ขอมูลจากปีก่อน (ปี 2023 แต่เวอร์ชั่นเป็นของปี 2024 )

ก็ตามนี้ โดยที่ Cyber Monday ปีนี้จะตรงกับวันที่ 2 ธ.ค.

ก็ ลดราคา+แถม สองต่อ

และ โดยที่ Blackfriday  ปีนี้จะตรงกับวันที่ 29



  ตอนนี้มีจัด Earl black friday sele  แนะนะ รอ โปร สองอันบนที่บอกไปดีกว่า



 เอาละถ้าพลาด ไปรอช่วงไหนดี

ก็มี ช่วงธันวาคา x'mas   Holiday sale  ก็จะพอๆ Blackfriday  

 

แล้วก็จะมีวันสิ้นปี end of yeat

กับปีใหม่  New year sale



 จริงมีลดราคาน่าร้อน กับ วันพ่อ วันเปิดเทอม อีกนะ ที่น่าสนใจ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 อันนี้ช่วงเปิดตัว คือสั่งจองก่อนโปรแกรมออก  ใครไม่ทัน ช่วงที่ว่ามา รอ โปรแกรมปี 2026 แทนก็ได้ ออกตอนปลายปี 2025  ต่อให้ราคาเต็ม ก็ไม่แพงเท่าไกร่ ถ้าไปซื้อรุ่นเก่า + ราคาอัพเกรด อ่ะนะ



วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

Windows 11 ปุ่มเปลี่ยนภาษา ปุ่มตัวหนอน ~

 เนื่องจากว่า มันเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ ใช้เวลาหาตั้งนานกว่าจะเจอ เจอแล้วเลยโพสไว้ จะได้ไวๆ หรือเวลาลืม

เพราะการทำงาน มีการ สับปุ่ม บางครั้ง จำเป็นต้องพิมพ์ปุ่ม % ในภาษาไทย เยอะ แล้วไม่อยาก เปลี่ยนภาษา กลับไปกลับมา เพราะมันหลง ซึ่ง ปุ่ม % ในภาษาไทย มันไปตรงกับ ตัวหนอน  พอดี ในภาษาอังกฤษ 

ขอมูล วันนี้ 2024-Nov-16 

 

ขั้นตอนลัด พิมพ์ "Input Language Hotkeys" ในช่องค้นหา ไม่มีฟันหนู Input Language Hotkeys แล้วไปขั้นตอนที่ 4 เลย 

 


ขั้นที่ 1 

กดปุ่ม windows หรือเรียกเมนูขึ้นมา เพื่อเข้า Settings ตามภาพ


ขั้นที่ 2 เข้าหมวด Time  & language

และ ต่อเข้าไปในหมวด Typing ที่วงกลมสีฟ้าไว้

ถ้าเข้าไปที่ หมวด Languag & region  ที่มีกากาบาทสีแดง จะหาไม่เจอ เหมือนเมื่อก่อนมันอยู่ตรงนี้ละ เลยไปงมหาตรงนี้ตั้งนาน

  

ขั้นที่3  ในหมวด Typing เลือก  Advanced keyboard setting  ที่วงไว้

 

ขั้นตอนที่ 4   อยู่ในหมวด แล้ว เข้าไปเลือกตรง input language hot key  ที่วงสีฟ้าไว้ คลิกเข้าไปเลย


ขั้นตอนที่ 5  ถึง หน้าต่างที่คุ้นเคย สมัยใช้ contro panel  ใน windows 10 หรือเก่ากว่า

เลือก สลับภาษาโดยใช้ ตัวหนอน 

Beteen iput languges       Grave Accent 

แล้วกด ok เป็นอันจบ

  

 

 

 

วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2567

แชร์ ธนาคารขึ้นเช็ค เงินปันผลหุ้นไม่ได้บอกว่าเครื่องไม่อ่าน แล้วแนะนำให้ลูกค้า ไปแจ้งความว่าเช็คหาย

 ธนาคารขึ้นเช็คเงินปันผลหุ้นไม่ได้บอกว่าเครื่องไม่อ่าน แล้วแนะนำให้ลูกค้า ไปแจ้งความว่าเช็คหาย

ในกรณีนี้ ผมได้เช็ค ปันผลหุ้นมาแล้ว เลยไปขึ้นเงิน แต่ธนาคาร แจ้งมาว่าใบนี้ ไม่ได้โทรเรียก ให้ไปรับคืน 

สรุป ธนาคารแจ้งมาว่า ให้ไปแจ้งความว่าเช็คหาย ซึ่ง ง่าย แต่ไม่ควรทำ*


ก็จากการสอบถาม ต้องส่งเช็คกลับไป แล้วขอให้ออกใหม่ ขั้นตอน และแบบฟอร์ม ในอนาคต อาจเปลี่ยนแปลง ให้ทำการสอบถามเจ้าหน้าที่โดย call center


ต้องรอพรุ้งนี้ถึงโทรได้ 

 

ตอนนี้อนาคต ขึ้นเงินเช็คใบนี้ยังริบหรี่

ตอนนี้ ผมให้โอนเงินปันผลเข้าบัญชีแทนแล้วครับ


*ในกรณีที่ธนาคารปฏิเสธการขึ้นเช็คเงินปันผลจากหุ้นโดยให้เหตุผลว่า "เครื่องไม่อ่าน" และแนะนำให้ลูกค้าไปแจ้งความว่าเช็คหาย ถือเป็นเรื่องที่อาจนำไปสู่การแจ้งความเท็จได้ หากเช็คไม่ได้หายจริง เนื่องจากการแจ้งความเท็จถือเป็นความผิดทางกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137 ซึ่งกำหนดว่า "ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือรัฐได้รับความเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

ดังนั้น แนะนำให้คุณสอบถามรายละเอียดจากธนาคารเพิ่มเติมให้ชัดเจนว่าปัญหาเกี่ยวกับการขึ้นเช็คนั้นเกิดจากสาเหตุใด เช่น ปัญหาเกี่ยวกับเครื่องอ่านเช็คหรือความผิดปกติของเช็ค เพื่อหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสมก่อน หากธนาคารยังยืนยันให้แจ้งความ คุณควรปรึกษาทนายความหรือขอคำแนะนำจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หรือธนาคารแห่งประเทศไทย

วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2567

บทเรียนของคนไทย กับ The iCon Group

 





The iCon Group ก่อตั้งในปี 2561 โดย วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ได้รับความสนใจจากการใช้คนดังและอินฟลูเอนเซอร์โปรโมทสินค้าเกี่ยวกับความงามและสุขภาพ กระตุ้นให้คนทั่วไปลงทุนซื้อสินค้าเพื่อนำไปขายต่อ อย่างไรก็ตาม ผู้ขายหลายคนประสบปัญหาทางการเงิน เช่น กู้ยืมเงินหรือขายทรัพย์สินเพื่อตอบสนองโควต้าการขายของบริษัท บางคนถึงขั้นล้มละลายหรือถูกยึดทรัพย์

แม้ว่าวรัตน์พลยืนยันว่าธุรกิจถูกกฎหมาย แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (CCIB) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับผู้บริโภค (CPPD) กำลังสืบสวนธุรกิจของ The iCon Group เกี่ยวกับการฉ้อโกงและการละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ธุรกิจนี้มีรายได้กว่า 5 พันล้านบาทในปี 2567 แต่ยังมีผู้ที่ออกมาร้องเรียนว่าพวกเขาไม่ได้รับสินค้าแม้จะลงทุนไปแล้วก็ตาม

The iCon Group: กลยุทธ์และผลกระทบของธุรกิจ MLM คล้ายแชร์ลูกโซ่

จากข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ MLM (Multi-Level Marketing) และข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับบริษัท The iCon Group ซึ่งเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมากในประเทศไทย ข้อมูลและข้อสงสัยที่ถูกเปิดเผยชี้ให้เห็นถึงรูปแบบและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่มีลักษณะคล้ายแชร์ลูกโซ่ (Ponzi Scheme) ซึ่งเป็นการระดมทุนที่ผิดกฎหมาย หลักการของธุรกิจลักษณะนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เนื่องจากความคลุมเครือในโครงสร้างรายได้และการดำเนินงานที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้เข้าร่วม

1. การชักชวนเข้าร่วมเครือข่ายมากกว่าการขายสินค้า

The iCon Group ถูกวิจารณ์ว่าใช้กลยุทธ์ในการชักชวนคนเข้าร่วมเครือข่ายเพื่อรับผลตอบแทน โดยเน้นการหาสมาชิกใหม่มากกว่าการขายสินค้าจริง จึงส่อให้เห็นถึงลักษณะของธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ธุรกิจประเภทนี้สร้างรายได้ให้กับสมาชิกเก่าผ่านการนำเงินของสมาชิกใหม่มาหมุนเวียนในระบบ เมื่อไม่มีสมาชิกใหม่เข้ามา ธุรกิจจะไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ซึ่งเป็นความเสี่ยงอย่างมาก

2. ราคาต้นทุนสินค้ากับการแข่งขันในตลาด

ปัญหาที่พบคือ สินค้าของบริษัทอาจมีราคาสูงเกินจริง แต่ถูกขายในราคาต่ำกว่าต้นทุน หรือสินค้าไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้ ส่งผลให้ตัวแทนจำหน่ายต้องพึ่งพาการชักชวนคนเข้าร่วมเครือข่ายมากกว่าการขายสินค้า ซึ่งขัดกับหลักการของธุรกิจ MLM ที่เน้นการสร้างรายได้จากการขายสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ

3. การใช้คนดังและการโฆษณาเกินจริง

The iCon Group ใช้ดาราและคนดังเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ แต่การใช้คนดังนี้อาจเป็นเพียงกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อหลอกลวงประชาชน โดยพวกเขาไม่ได้มุ่งเน้นการขายสินค้าจริงแต่ใช้ "หลักฐานทางสังคม" (Social Proof) ซึ่งอาศัยอิทธิพลจากบุคคลที่มีชื่อเสียงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ กลยุทธ์นี้ถูกใช้ในธุรกิจที่ต้องการสร้างความเชื่อถือในวงกว้างอย่างรวดเร็ว

หลักการจิตวิทยาที่ใช้ในธุรกิจ

  1. Social Proof - การเห็นคนดังเข้าร่วมธุรกิจทำให้คนทั่วไปเชื่อว่าธุรกิจนี้น่าเชื่อถือ
  2. Fear of Missing Out (FOMO) - กลยุทธ์กระตุ้นความกลัวว่าจะพลาดโอกาสในการประสบความสำเร็จหรือได้รับผลตอบแทนสูง ชักจูงให้คนรีบเข้าร่วม
  3. Commitment and Consistency - เมื่อผู้เข้าร่วมเริ่มต้นลงทุนแล้ว พวกเขามักจะมีแนวโน้มทำต่อไปแม้ว่าจะมีความเสี่ยง เพราะต้องการรักษาภาพลักษณ์ของการตัดสินใจของตัวเอง
  4. Cognitive Dissonance - ผู้เข้าร่วมมักปฏิเสธข้อมูลที่ขัดแย้งกับการตัดสินใจของตนเอง และหาเหตุผลสนับสนุนการกระทำของตนเพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกผิด

MLM vs แชร์ลูกโซ่: ความแตกต่างที่ชัดเจน

ธุรกิจ MLM ที่ถูกต้องตามกฎหมายจะเน้นที่การขายสินค้าและบริการที่มีมูลค่าในตัวเอง ในขณะที่แชร์ลูกโซ่มุ่งเน้นการหาสมาชิกใหม่เพื่อระดมทุนและหมุนเวียนเงินในระบบโดยไม่มีสินค้าเป็นหลัก หากไม่มีการขายสินค้าจริงหรือการหมุนเวียนเงินอาศัยจากการรับสมัครสมาชิกใหม่ ธุรกิจนั้นอาจเข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่ซึ่งผิดกฎหมาย

ตัวอย่าง MLM ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น Amway, Herbalife, Nu Skin ที่เน้นการขายสินค้าและตรวจสอบตามกฎหมาย ส่วน แชร์ลูกโซ่ มักเน้นการชักชวนเข้าร่วมมากกว่าการขายสินค้า เช่นกรณีของ The iCon Group ที่เน้นการรับสมัครสมาชิกมากกว่าการขายสินค้าอย่างชัดเจน

บทบาทของดาราและคนดัง: เหยื่อหรือผู้ร่วมขบวนการ?

กรณีดาราและคนดังที่เข้ามาเป็นพรีเซนเตอร์ให้ The iCon Group เป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ บางส่วนอาจถือว่าเป็นเหยื่อของธุรกิจเพราะไม่ได้ทราบถึงรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับการดำเนินงานที่อาจผิดกฎหมาย ขณะที่บางคนอาจเข้าร่วมในระดับที่ลึกกว่าการเป็นเพียงพรีเซนเตอร์ เช่น รับรู้โครงสร้างธุรกิจและมีส่วนได้เสียในธุรกิจ ในกรณีหลังนี้ อาจถูกพิจารณาเป็นผู้ร่วมขบวนการหลอกลวงประชาชนและอาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายได้

สรุป กรณี The iCon Group เน้นการชักชวนคนเข้าร่วมมากกว่าการขายสินค้า มีลักษณะที่คล้ายคลึงกับแชร์ลูกโซ่ ซึ่งเป็นการดำเนินธุรกิจที่เสี่ยงต่อการล้มละลายและสร้างความเสียหายแก่ผู้เข้าร่วม ดาราและคนดังที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้มีทั้งที่เป็นเหยื่อและอาจมีผู้ที่เป็นผู้ร่วมขบวนการ การดำเนินคดีทางกฎหมายจะขึ้นอยู่กับหลักฐานและเจตนาของผู้ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจ

 

 

จากมุมมองทางจิตวิทยา หลายปัจจัยสามารถอธิบายได้ว่าทำไมผู้คนถึงถูกดึงดูดให้เข้าร่วมธุรกิจนี้:

  1. ความต้องการการยอมรับในสังคม: ผู้เข้าร่วมธุรกิจอาจรู้สึกว่าการอยู่ในกลุ่มจะได้รับการยอมรับจากสังคม ซึ่งเป็นแรงจูงใจสำคัญ
  2. ความเอนเอียงทางความคิดในแง่ดีเกินไป: ผู้คนมักมองตนเองในแง่ดีเกินไป และเชื่อว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จมากกว่าคนอื่น
  3. แรงกดดันทางการเงินและความหวัง: ผู้ที่เผชิญกับปัญหาการเงินมักจะยอมเสี่ยง โดยมีความหวังว่าการลงทุนนี้จะเป็นทางออก
  4. ความไม่สอดคล้องทางความคิด: เมื่อมีการตัดสินใจลงทุนไปแล้ว ผู้คนมักจะปฏิเสธหรือมองข้ามข้อมูลที่ขัดแย้งกับการตัดสินใจของตนเอง
  5. การเสริมแรงแบบไม่แน่นอน: การให้รางวัลแบบไม่สม่ำเสมอช่วยกระตุ้นให้คนเข้าร่วมต่อไป แม้ว่าจะไม่ได้รับผลตอบแทนที่ชัดเจนก็ตาม

ปัจจัยเหล่านี้ช่วยอธิบายว่าทำไมคนจำนวนมากยังคงเข้าร่วมและอยู่ในธุรกิจเช่น The iCon Group แม้จะมีสัญญาณเตือนหลายอย่า

สัญญาณเตือนที่ชี้ให้เห็นถึงความผิดปกติในธุรกิจอย่าง The iCon Group รวมถึงธุรกิจเครือข่าย (MLM) อื่น ๆ ที่อาจเป็นการฉ้อโกง มีดังนี้:

  1. การส่งเสริมรายได้ที่ไม่สมจริง: หนึ่งในสัญญาณที่พบได้ทั่วไปคือการโฆษณาว่าผู้เข้าร่วมสามารถทำรายได้มหาศาลอย่างรวดเร็ว แต่ความจริงแล้วมีเพียงส่วนน้อยที่ได้กำไร ผู้ขายส่วนใหญ่มักต้องลงทุนซ้ำและไม่ได้ผลตอบแทนตามที่คาดหวัง​


    .

  2. การใช้คนดังและอินฟลูเอนเซอร์: การใช้ผู้มีชื่อเสียงหรืออินฟลูเอนเซอร์ช่วยโปรโมทสินค้าและแผนธุรกิจ ทำให้ดูน่าเชื่อถือและยิ่งดึงดูดให้คนเชื่อว่าการเข้าร่วมธุรกิจนี้จะประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ The iCon Group ใช้ โดยมีข้อกล่าวหาว่าการลงทุนที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้รับสินค้าในบางกรณี​

    .

  3. การกดดันให้ลงทุนเพิ่มเติม: ผู้ที่เข้าร่วมหลายคนรายงานว่าถูกกดดันให้ลงทุนมากขึ้น เพื่อทำยอดขายหรือรักษาตำแหน่งของตนในโครงสร้างบริษัท บางคนถึงขั้นกู้ยืมเงินหรือขายทรัพย์สินเพื่อทำตามโควต้า ซึ่งมักจะนำไปสู่ปัญหาทางการเงินหรือการล้มละลาย​


    .

  4. โครงสร้างรายได้ที่เน้นการสรรหาคนใหม่มากกว่าขายสินค้า: หากโครงสร้างธุรกิจให้ความสำคัญกับการสรรหาผู้เข้าร่วมใหม่มากกว่าการขายผลิตภัณฑ์จริง นี่เป็นสัญญาณเตือนว่าอาจเป็นแผนการลวงโลก (pyramid scheme)​


    .

  5. การจ่ายผลตอบแทนที่ไม่แน่นอน: การใช้กลยุทธ์การให้รางวัลแบบไม่แน่นอน (intermittent reinforcement) เช่น รางวัลใหญ่ที่เกิดขึ้นไม่บ่อย แต่ทำให้ผู้เข้าร่วมตื่นเต้นและมีความหวังในการได้รับรางวัลในครั้งต่อไป ทำให้คนยังคงอยู่ในระบบ แม้จะไม่เคยได้ผลตอบแทนที่คาดหวังไว้​

    .

สัญญาณเหล่านี้เป็นสิ่งที่ควรระวัง หากพบเจอในธุรกิจที่กำลังเข้าร่วม ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน.







 

วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2567

10-10 เจอ รีวิว ที่ต้องเอ๊ะ

ความสำคัญของการพิจารณารีวิวสินค้าออนไลน์อย่างรอบคอบ

การซื้อของออนไลน์ทำให้เราพึ่งพารีวิวจากลูกค้าที่เคยซื้อสินค้ามาก่อนเพื่อช่วยในการตัดสินใจ โดยรีวิวเหล่านี้สามารถบอกถึงคุณภาพของสินค้าและความน่าเชื่อถือของร้านค้าได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม บางครั้งการพบเจอรีวิวที่ดูผิดปกติอาจเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วน

ตัวอย่างที่ผมเจอคือร้านค้าหนึ่งมีรีวิวถึง 79 รายการ แต่ทั้งหมดกลับให้คะแนน 5 ดาวเหมือนกันหมด นอกจากนี้ ภาษาที่ใช้ในรีวิวยังฟังดูไม่เป็นธรรมชาติ ราวกับเป็นการแปลมาจากภาษาอื่น นอกจากนี้ยังมีข้อความระบุว่า "รีวิวของสินค้าจากแพลตฟอร์มอื่น" ซึ่งก่อให้เกิดความสงสัยว่าต้นกำเนิดของรีวิวเหล่านี้มาจากไหน

สิ่งที่ดึงดูดความสนใจมากขึ้นคือราคาของสินค้าที่ถูกกว่าร้านอื่นๆ ในตลาด โดยร้านค้าทั่วไปขายในช่วง 3,200 - 3,600 บาท แต่ร้านนี้ขายเพียง 2,5xx บาท ซึ่งเป็นส่วนต่างที่น่าสังเกต อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบรีวิวเพิ่มเติม กลับพบว่า 78 รีวิวจาก 79 นั้นถูกโพสต์ในวันเดียวกันทั้งหมด มีเพียงรีวิวเดียวที่โพสต์เมื่อสองสัปดาห์ก่อน โดยระบุว่าซื้อสินค้าจากลาซาด้า ซึ่งดูเหมือนจะเป็นรีวิวจากผู้ซื้อที่แท้จริง



แต่ จากการตัดสินใจสุดท้ายของผม ผมไม่ได้ซื้อร้านนี้ แต่ผมไป ซื้อ ช็อปปี้ ที่ได้ คืนคอยน์
 ราคาหลังหัก คอยน์  ก็ยังแพงกว่า แต่สบายใจกว่า เพราะมันใจ รีวิว ที่ เป็นธรรมชาติ อย่างน้อยก็ธรรมชาติ กว่านี้ละครับ

ทั้งนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าร้านค้าที่เจอจะไม่น่าเชื่อถือ อาจเป็นไปได้ว่าร้านนั้นมีรีวิวจริงจากการแปลภาษาหรือได้จากแพลตฟอร์มอื่น แต่อย่างไรก็ตาม การใช้วิจารณญาณและตรวจสอบข้อมูลให้รอบคอบเป็นสิ่งสำคัญในการซื้อของออนไลน์



 


วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2567

บทความ: การปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมบน Facebook (ในสหรัฐ)

 

ที่มา https://rankingdigitalrights.org/2021/10/14/cross-checking-facebook-frances-haugen/

ในยุคดิจิทัลที่โซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารและการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง Facebook กลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มหลักที่ทั้งประชาชนและนักการเมืองใช้ในการกระจายข้อมูลและแสดงออกถึงความคิดเห็นต่างๆ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายรีพับลิกันในสหรัฐอเมริกาได้กล่าวหาว่าถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมบนแพลตฟอร์มนี้ โดยเฉพาะในแง่ของการเซ็นเซอร์และการลดการมองเห็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดอนุรักษนิยม ความเชื่อเหล่านี้นำไปสู่การวิจารณ์และตั้งคำถามต่อความเป็นกลางของ Facebook ในฐานะพื้นที่สาธารณะเสรี

ข้อกล่าวหาหลักของฝ่ายรีพับลิกัน
ฝ่ายรีพับลิกันเชื่อว่าพวกเขาถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมในหลายรูปแบบบน Facebook ได้แก่:

  1. การเซ็นเซอร์เนื้อหา (Censorship):
    ฝ่ายรีพับลิกันมองว่ามีการลบหรือระงับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดทางการเมืองของฝ่ายขวาอย่างไม่ยุติธรรม โดยเฉพาะเรื่องการเลือกตั้ง การจัดการการแพร่ระบาดของโควิด-19 และนโยบายอื่น ๆ ที่ขัดแย้งกับแนวคิดเสรีนิยม พวกเขาเชื่อว่า Facebook มีนโยบายที่เข้มงวดต่อเนื้อหาของพวกเขาและพยายามจำกัดการเผยแพร่ข้อมูลที่ขัดต่อแนวคิดของฝ่ายเดโมแครต

  2. อัลกอริทึมและการมองเห็นเนื้อหา (Algorithmic Bias):
    อีกหนึ่งข้อกล่าวหาคือ อัลกอริทึมของ Facebook ถูกออกแบบมาเพื่อลดการมองเห็นเนื้อหาของฝ่ายอนุรักษนิยม โดยนักการเมืองและนักข่าวที่สนับสนุนแนวคิดฝ่ายขวาเชื่อว่าโพสต์ของพวกเขาถูกลดการเข้าถึงและไม่ได้รับการกระจายข้อมูลอย่างเท่าเทียมกับเนื้อหาจากฝ่ายเดโมแครต ซึ่งทำให้เกิดการกระจายข่าวสารที่ไม่สมดุล

  3. การตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ไม่เท่าเทียม (Fact-Checking):
    นโยบายการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ Facebook ถูกฝ่ายรีพับลิกันมองว่าไม่เป็นกลาง โดยข้อมูลที่ถูกติดป้ายว่าเป็นข้อมูลบิดเบือนมักเป็นข้อมูลที่มาจากสำนักข่าวหรือนักการเมืองของฝ่ายรีพับลิกัน การติดป้ายและการลดการเข้าถึงเนื้อหาเหล่านี้ทำให้ฝ่ายรีพับลิกันเชื่อว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นเครื่องมือทางการเมืองที่ถูกใช้เพื่อลดความน่าเชื่อถือของพวกเขา

  4. การระงับบัญชีและการลงโทษทางเนื้อหา (Account Suspensions):
    การระงับบัญชีผู้ใช้ที่สนับสนุนแนวคิดของฝ่ายขวา โดยเฉพาะการแบนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ฝ่ายรีพับลิกันใช้กล่าวหา Facebook ว่าลงโทษผู้ใช้อย่างไม่เป็นธรรมตามแนวคิดทางการเมือง ซึ่งพวกเขาเห็นว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการลิดรอนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

เหตุผลเบื้องหลังและมุมมองจากฝ่าย Facebook
  ทาง Facebook ได้อ้างว่า บริษัทมีนโยบายในการควบคุมข้อมูลบิดเบือนและข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสังคม ทั้งนี้ การตรวจสอบและการควบคุมเนื้อหาถูกดำเนินการบนพื้นฐานของหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนและไม่มีอคติทางการเมือง แต่อย่างไรก็ตาม ข้อกล่าวหาของฝ่ายรีพับลิกันได้ทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของนโยบายและแนวทางปฏิบัติของแพลตฟอร์มนี้

ผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของ Facebook
ข้อกล่าวหาเรื่องการปฏิบัติไม่เป็นธรรมได้สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของ Facebook ในฐานะพื้นที่สาธารณะที่ควรเปิดโอกาสให้ทุกกลุ่มสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเท่าเทียม การถูกมองว่ามีอคติทางการเมืองทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจจากผู้ใช้งานบางส่วน และนำไปสู่การเรียกร้องให้มีการปรับปรุงนโยบายเพื่อให้แน่ใจว่า Facebook จะเป็นพื้นที่กลางที่ปราศจากอิทธิพลทางการเมือง

สรุป
ข้อกล่าวหาว่า Facebook ปฏิบัติต่อฝ่ายรีพับลิกันอย่างไม่เป็นธรรมเป็นประเด็นที่สำคัญในยุคของการต่อสู้ทางการเมืองบนโลกดิจิทัล การเซ็นเซอร์และการควบคุมเนื้อหาที่ถูกมองว่าไม่ยุติธรรมเป็นเรื่องที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างโปร่งใสและยุติธรรม เพื่อรักษาความเชื่อมั่นในโซเชียลมีเดียในฐานะพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเสรี

แล้วยังมี CEO เฟสบุ๊ค ออกมาสารภาพ (2024) ว่ารับงานจากรัฐบาลไบเดน
Zuckerberg says he regrets not being more outspoken about ‘government pressure’ on COVID content

 

https://www.facebook.com/share/p/c3LiJPqSdo5wYh78/  


หรือในเคสปี 2020 

https://pantip.com/topic/41605144

มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก  เจ้าของเฟสบุ๊ค ได้ออกมายอมรับง่ายๆ กับ โจ โรแกน ว่า การแบน คำ/ข้อความ/บทความ ที่เกี่ยวข้องกับ การพัวพันและข้อกล่าวหาว่า โจ และ ฮันเตอร์ ไบเดน ทุจริตในหน้าที่ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ปี 2020 บนเฟสบุ๊ค ว่า เป็น “ความผิดพลาดของเฟสบุ๊ค” ซึ่งเกิดการเข้าใจผิด ต่อคำแจ้งเตือนที่ผิดพลาดเรื่องเฟคนิวส์ โดย FBI จนทำให้ โจ ไบเดน เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง

กรณีอื่นๆ จาก chatgpt
 กรณีที่ Facebook ได้ลบโพสต์ของนักข่าวหลายคนที่เกี่ยวข้องกับประเด็นแคชเมียร์
นักข่าวชาวแคชเมียร์หลายคนและนักวิชาการที่โพสต์เกี่ยวกับแคชเมียร์ได้รายงานว่าบัญชีของพวกเขาถูกบล็อกหรือโพสต์ของพวกเขาถูกลบออก นอกจากนี้ สื่อท้องถิ่นบางแห่งที่รายงานเรื่องราวเกี่ยวกับแคชเมียร์ก็ประสบปัญหาเดียวกัน เช่น หน้าเพจของนิตยสารแคชเมียร์ชื่อดังถูกบล็อกโดย Facebook โดยไม่ระบุเหตุผลที่ชัดเจน ซึ่งทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นบนแพลตฟอร์มนี้​(

)​(
 กรณีของ Facebook ที่มีการปิดข่าวและลบโพสต์เกี่ยวกับโน้ตบุ๊คของนายฮันเตอร์ ไบเดน (Hunter Biden) เกิดขึ้นในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2020
เหตุการณ์นี้ยังนำไปสู่การสอบสวนในรัฐสภาสหรัฐฯ เกี่ยวกับบทบาทของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในการควบคุมและจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเมือง และทำให้เกิดการเรียกร้องให้มีการควบคุมแพลตฟอร์มเหล่านี้อย่างเข้มงวดมากขึ้นในอนาคต​().

มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอของ Facebook ได้ออกมาขอโทษเกี่ยวกับการจัดการของแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของโน้ตบุ๊คของฮันเตอร์ ไบเดน ในการให้สัมภาษณ์ในรายการ The Joe Rogan Experience เมื่อปี 2022 ซัคเคอร์เบิร์กกล่าวว่า Facebook ได้ตัดสินใจที่จะจำกัดการเผยแพร่บทความของ New York Post ชั่วคราวเนื่องจากได้รับคำแนะนำจาก FBI เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือการแทรกแซงจากต่างชาติ
การขอโทษนี้มาพร้อมกับการยอมรับว่าการจัดการของ Facebook ในช่วงเวลานั้นเป็นปัญหาและอาจส่งผลกระทบต่อการรับรู้ของประชาชนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซัคเคอร์เบิร์กยังกล่าวว่าบริษัทกำลังพยายามปรับปรุงวิธีการจัดการเนื้อหาที่ละเอียดอ่อนในอนาคตเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก​().


วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2567

ปิดการแจ้งเตือน "Portable Music Player Support"

 

สำหรับผู้ใช้ Winamp อย่างผม บางที ก็รำคาญ เสียบอะไร เพิ่มอะไรเด้งมาหมดแถมค้างเพราะมัน พยายามหาเพลง พร้อมๆกับแสกนไวรัสทำงาน 

 เริ่มต้นด้วยการถาม ChartGPT  แล้วก็ลองทำตามที่ AI บอก



  • เปิดโปรแกรม Winamp: เริ่มต้นโปรแกรม Winamp

  • เข้าหน้าต่างการตั้งค่า:

    • กด Ctrl + P หรือไปที่ Options > Preferences จากเมนูด้านบน
  • ไปที่ Plugins:

    • ที่แถบเมนูด้านซ้ายมือ ไปที่ Plugins > Media Library
       
    • ปิดการใช้งานหรือถอนการติดตั้ง (ตามภาพ) Portable Device Support
  • Portable Device Support หรือ PMP (Portable Media Player) Plugin


  • แล้ว ก็จะถามว่าจะลบเราจริงๆหรือ ตอบ YES เพื่อลบ

    แล้วก็ยังไม่หาย  ถาม chatgpt ใหม่ มันบอกให้เราเข้าไปลบไฟล์ ไอ้เราก็บ้าจี้ทำตาม

     

    เลยลบ Nullsoft Portable Music Player Support v2.24 (ml_pmp.dll) อีกที 


     

     สรุป เน่าเลย อย่าหาทำตาม ต้องลบลงใหม่ รีสตาร์ทเครื่อง 

    มา วิธีจัดการจริงๆ ที่ไม่พึ่ง ChatGPT

    ไปเหลือเห็นตอนติดตั้งใหม่ ก็แค่ ไม่ต้อง ติดตั้งมันตั้งแรก  

    จบครับ เรียบร้อย 

    คนเสียโง่ให้ AI :ChatGPT คนเดียวก็พอ



  • วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2567

    เจ็บแล้วไม่จำ จ่ายผ่าน paypal โดนชาร์จเรตเพิ่ม 5.29% ยิ่งจนๆอยู่

    จ่ายผ่าน paypal โดนเรตโครตแพง โดนมาหลายรอบแล้ว แต่ก็ยังโดนอีก ตั้งใจว่ารอบหน้าจะไม่โดนอีกแล้ว แล้วก็ลืมโดนอีก

    ต้องมาเขียน เพื่อเตือน โดยเฉพาะ เตือนตัวเองว่า ให้ใช้ บัตรเครดิต/เดบิต ตรงๆ จะประหยัดเงินได้ 

     

    เรตแลกเปลี่ยน จริง 33.960 หรือ ไม่เกิน 34บาท  แต่คิดที่34บาทเลย = 153.77*34=5,228.18

    แต่ถ้าใช้บัตร จะได้ 34.25113 บาท = 5,266.80 บาท  แพงกว่า 38.62
    แต่ถ้าใช้ paypay มันคิด 35.34 บาท เป็น = 5,504.91 แพงกว่า 276.73 บาท หรือ 8.13 ดอล เลยที่เดียว
    หรือโดนบวกเพิ่มไปอีก 5504.91/5228.18 = 1.0529 หรือ 105.29% หรือราคาบวกมา 5.29%    เลยนะ เยอะนะ 

    คือ ซื้อของ 100บาทโดน 5.29บาท ซื้อของ หมื่นบาท โดน 529บาท เยอะนะ

     







    วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2567

    วิธีเปิดไฟล์ SWF บน Windows 11

     

    ไฟล์ SWF (Shockwave Flash) เป็นไฟล์ที่ใช้กับ Adobe Flash Player สำหรับเล่นแอนิเมชันหรือเกมบนเว็บ แต่เนื่องจาก Adobe ได้ยุติการสนับสนุน Flash Player ในปี 2020 การเปิดไฟล์ SWF จึงไม่สามารถทำได้โดยตรงบนเบราว์เซอร์ทั่วไปอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม คุณยังสามารถเปิดไฟล์ SWF บน Windows 11 ได้โดยใช้วิธีการต่อไปนี้:

    วิธีเปิดไฟล์ SWF บน Windows 11

    1. ใช้ Flash Player Projector Content Debugger (Standalone Player)

      • Adobe ได้ปล่อย Flash Player เวอร์ชัน Standalone สำหรับการพัฒนาและทดสอบไฟล์ SWF ซึ่งยังสามารถใช้ได้ในโหมดออฟไลน์
      • ดาวน์โหลด Flash Player Projector Content Debugger จากเว็บไซต์ Archive ของ Adobe:
        • ไปที่ Adobe Flash Player Projector
        • ดาวน์โหลดไฟล์ flashplayer_32_sa.exe และเปิดโปรแกรม
    2. วิธีเปิดไฟล์ SWF

      • เปิดโปรแกรม Flash Player Projector ที่ดาวน์โหลดมา
      • คลิกที่เมนู File > Open... แล้วเลือกไฟล์ SWF ที่คุณต้องการเปิด
      • หรือสามารถลากไฟล์ SWF ไปวางบนโปรแกรมได้โดยตรง
    3. ใช้โปรแกรมเล่นสื่อ (Media Players) ที่รองรับ

      • โปรแกรมเล่นสื่อบางตัว เช่น VLC Media Player สามารถเล่นไฟล์ SWF ได้ แต่การรองรับอาจจะไม่สมบูรณ์แบบเท่า Flash Player Projector
    4. ใช้ Emulator หรือ โปรแกรมเฉพาะ

      • มีโปรแกรม Emulator เช่น Ruffle ที่ออกแบบมาเพื่อแทนที่ Flash Player โดยสามารถใช้งานได้บนเบราว์เซอร์และเป็นโปรแกรมที่ติดตั้งลงบนเครื่อง
      • ดาวน์โหลด Ruffle จาก Ruffle และทำตามคำแนะนำในการติดตั้งและใช้งาน

    ข้อควรระวัง

    • อย่าเปิดไฟล์ SWF จากแหล่งที่ไม่เชื่อถือ เพราะไฟล์ SWF สามารถฝังโค้ดที่อาจเป็นอันตรายได้

     

    https://archive.org/details/adobe-flash-player-32-0r-0-371-winax

    แก้ไข เล่นเกมบางเกมจากญี่ปุ่นไม่ได้


     

    วันนี้ไปเจอนี้ เกมๆหนึ่ง มีคำเตือนว่า ※日本語OS以外では起動しません
    แปลว่า ※ ไม่สามารถใช้งานได้กับ OS ที่ไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่น
    ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเกมส์ เก่า ถึงเก่ามากๆ ในภาพตัวอย่าง เล่นได้เลยไม่ต้องยุ่งยาก

    วิธีการแก้ไข

     สมัยก่อน ต้องลง windows japan แยกเอาไว้เพื่อการนั้น

    สมัยนี้

    การแก้ปัญหาสำหรับโปรแกรมที่ไม่สามารถใช้งานได้กับ OS ที่ไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่น (เช่น โปรแกรมที่มีข้อจำกัดการใช้งานเฉพาะใน Windows ภาษาญี่ปุ่น) สามารถทำได้โดยการเปลี่ยนการตั้งค่าภูมิภาคและภาษาของระบบปฏิบัติการ Windows ของคุณให้เป็นภาษาญี่ปุ่น ตามขั้นตอนดังนี้:

    วิธีการตั้งค่า Windows ให้รองรับโปรแกรมภาษาญี่ปุ่น:

    1. เปิด Settings:

      • กด Windows + I เพื่อเปิด Settings (การตั้งค่า)
    2. ไปที่ Time & Language:

      • เลือกเมนู Time & Language (เวลาและภาษา)
    3. เลือก Language:

      • คลิกที่ Language & Region (ภาษาและภูมิภาค)
    4. เพิ่มภาษาญี่ปุ่น:

      • คลิก Add a language (เพิ่มภาษา)
      • ค้นหาภาษาญี่ปุ่น (Japanese) และเลือก Next (ถัดไป)
      • ติดตั้งแพ็กภาษา แต่ไม่ต้องตั้งเป็นภาษาหลัก
    5. เปลี่ยน Region Format เป็นภาษาญี่ปุ่น:

      • ในส่วน Regional format (รูปแบบภูมิภาค) ให้เปลี่ยนเป็น Japanese (Japan)
    6. เปลี่ยน System Locale เป็นภาษาญี่ปุ่น:

      • ในหน้า Settings ให้เลื่อนลงและเลือก Administrative language settings (การตั้งค่าภาษาผู้ดูแลระบบ)
      • ในส่วน Language for non-Unicode programs ให้คลิก Change system locale... (เปลี่ยนเขตการตั้งค่าระบบ...)
      • เปลี่ยนเป็น Japanese (Japan) แล้วคลิก OK
    7. Restart คอมพิวเตอร์:

      • หลังจากทำการตั้งค่าทั้งหมดแล้ว ให้รีสตาร์ทเครื่องเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล

    หลังจากทำตามขั้นตอนเหล่านี้ โปรแกรมที่ต้องการใช้งานภายใต้ระบบภาษาญี่ปุ่นควรจะสามารถเปิดและใช้งานได้โดยไม่มีปัญหา 


    หรือใช้Locale Emulator:  https://github.com/xupefei/Locale-Emulator

    ใช่, Locale Emulator เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สะดวกในการแก้ปัญหาโปรแกรมที่ต้องการระบบภาษาญี่ปุ่น โดยไม่ต้องเปลี่ยนการตั้งค่าภูมิภาคของ Windows ทั้งหมด วิธีนี้สะดวกและลดผลกระทบต่อการใช้งานทั่วไปของคอมพิวเตอร์คุณ นี่คือรายละเอียดเกี่ยวกับ Locale Emulator และขั้นตอนการใช้งาน:

    Locale Emulator คืออะไร?

    Locale Emulator เป็นโปรแกรมจำลองที่ช่วยให้คุณสามารถเรียกใช้งานซอฟต์แวร์ที่ต้องการภูมิภาคหรือภาษาเฉพาะ เช่น ภาษาญี่ปุ่น โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนการตั้งค่าภูมิภาคของระบบทั้งหมด โปรแกรมนี้จำเป็นมากสำหรับเกมหรือแอปที่พัฒนาสำหรับผู้ใช้ในญี่ปุ่นเท่านั้น

    การติดตั้งและใช้งาน Locale Emulator:

    1. ดาวน์โหลด Locale Emulator:

      • ไปที่เว็บทางการของ Locale Emulator: Locale Emulator GitHub
      • คลิกที่แท็บ Releases และดาวน์โหลดเวอร์ชันล่าสุด
    2. ติดตั้ง Locale Emulator:

      • แตกไฟล์ที่ดาวน์โหลดมา และเรียกใช้ไฟล์ LEInstaller.exe เพื่อทำการติดตั้ง
    3. ตั้งค่า Locale Emulator:

      • คลิกขวาที่โปรแกรมที่คุณต้องการเรียกใช้งานด้วย Locale Emulator
      • เลือก Locale Emulator > Run in Japanese หรือสร้างโปรไฟล์ภาษาญี่ปุ่นใหม่ โดยเลือก Create a new profile เพื่อปรับการตั้งค่าต่างๆ เช่น Locale เป็น Japanese (Japan)
    4. ใช้งานโปรแกรม:

      • หลังจากตั้งค่าเสร็จ คุณสามารถเรียกใช้งานโปรแกรมได้ทันทีผ่าน Locale Emulator โดยไม่ต้องรีสตาร์ทเครื่อง

    ข้อดีของการใช้ Locale Emulator:

    • ไม่ต้องเปลี่ยนการตั้งค่าภูมิภาคของระบบทั้งหมด
    • สะดวกในการเปิดโปรแกรมที่ต้องการภาษาต่างๆ หลายโปรแกรมพร้อมกัน
    • ง่ายและรวดเร็วในการใช้งาน

     

    ถ้าสองอันหลังใช้ไม่ได้ ให้ใช้วิธีดั้งเดิม คือลง วินญี่ปุ่นตั้งแต่แรกครับ ได้แน่นอน 100%



    วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2567

    ฝากเทรด นำเทรด เทรดตาม เทพ ระวังตัวไว้ อาจถึงตาย

      ฝากเทรด นำเทรด เทรดตาม เทพ ระวังตัวไว้ อาจถึงตาย

    https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1143412
     

    ใช่ครับ ข่าว ฆ่าตัวตาย ของนักลงทุนมีมา เรื่อยๆ ส่วนสาเหตุ ก็ต่างกัน ในเคสนี้คือการ เทรดตาม "โค้ช"  หรือ "อาจารย์" และฝาก คนเหล่านั้นเทรดแทรดแทนโดยแบ่งกำไร (เฉพาะกำไร)


     เราจะเห็นคนพวกนี้ ใน Facebook  X  youtube ซึ่งเราจะไม่พูดถึงเคสที่หลอกนะครับ

     เคสแบบนี้ การฝากเทรด นี้ สำหรับคนรับฝาก คือ ความเสี่ยงเป็น 0 กำไร ไม่จำกัด/2 เลยนะครับ ไม่ต้องมีความเสี่ยงใดๆ หลายคนจะคิดว่าคนเหล่านั้นเก่ง และคิดว่ากำไรแน่นอน และน่าเชื่อถือ เลยเอาเงินไปให้เข้า ในกรณีที่ไม่โกงยังแย่ แล้วถ้าโกงละ? 
    อย่าง ใน กระดานเทรน เขาจะมี Copy trade  เทรด ตาม Master trade หรือเรียกว่า Copy Trading ซึ่ง ค่าธรรมเนียมเล็กน้อย  ไม่ใช่ แบ่งกัน 50-50 นะครับ แล้วยังสามารถ ดูประวัติย้อนหลัง ของ Master trader ได้อีกซึ่งใครเก่งไม่เก่ง ไม่จะเป็นต้องพูดเก่ง แค่ดูผลงานย้อนหลัง ก็รู้แล้ว  แถม ยังสามารถ ตาม Master trader กี่คนก็ได้ การเทรด ก็ ตั้ง พอร์ตไว้ เช่น 10คน คนละ 1หมื่นบาท เวลา Master traderเทรด ซื้อหรือขาย มันก็คิดเป็นเปอร์เซ็นแล้วเอามาเทรดในพอร์ตเรา เช่น Master trader มีเงินในพอร์ท 1ล้าน ใช้เงินเทรดซื้อ ไม้นี้  1หมื่น คือ 1% มันก็เอาเงินเรา ไป 1% ไปเทรด ก็ 100หนึ่ง จากหนึ่งหมื่น เป็นต้น
    ข้อเสียหลักๆ คือ ซื้อหรือขาย มันจะดีเลย์ ตามหลัง Master trader ประมาณ1-3วิ หรือบางทีบางช่วง 15วิ
    ซึ่งจุดสำคัญ คือการเลือก Master trader โดยการดูผลงานย้อนหลัง ระยะเวลา จำนวนคนที่ติดตาม ฯลฯ

    ซึ่ง Master trader ที่ผมกล่าวถึง มันก็ดีกว่า ฝากคนเทรด นะครับ เพราะ Master trader โกงเราไม่ได้ มีแต่ กระดานเทรด ที่จะโกงเรา แบบ FTX นั่นละ

    แล้ว ส่วนแบ่ง หรือ ค่าธรรมเนียม ก็ยังดีกว่า ไอ้แบ่งกัน 50-50 หลายขุมครับ

    ถัดมาคือ ไอ้เทรดตาม โดยที่เทรดตามจะมีสองแบบ แบบแรกคือเทรดสดๆ  ดีเลย์ จากถ่ายทอดสดไม่มากครับ อันนี้พอได้ ถ้า คนนำเก่งจริง ที่เราจะเสีย คือเสียค่าเข้า ค่ารายเดือน

    และไอ้ที่ไม่ได้เรื่อง คือ ห้อง แผนเทรด  หลายครั้ง ที่ โค้ช/อาจารย์/ผู้นำ เทรดไปแล้ว ค่อยมาพิมพ์มาเขียนกราฟ บอก แล้วโพสในกลุ่ม มาดีเลย์ ถ้าจะให้ซื้อคือ ราคา มันอาจจะไปแล้ว  แล้วพวกนี้จะชอบ เทรดสั้น เดือนหนึ่ง มีให้เทรด เกิน30 แน่นอน หรือคือม่ให้เทรดทุกวัน
    ซึ่ง นอกจากจะลุ้นเอาว่า รอบนี้แม่นหรือไม่ แล้ว ยังมีเข้อเสียจุกจิก ที่ตัดกำไรเราไปอีก  แล้วที่สำคัญ ต่อให้ได้เงิน ก็จะเป็นแค่หมาบ้าน ที่รอ อาหาร แต่ถ้าคุณเทรดเอง คุณจะเป็นหมาป่า ที่ล่าเหยื่อเอง ล่าไม่ดี อาจโดนขวิดตาย หรือ โดนหมีตะปบตาย หรือว่า ล่าไม่ได้ อาจจะอดตาย  หมาป่ามันไม่ได้สบายเหมือนหมาบ้านอยู่แล้วครับ อัตรารอดชีวิต ก็ต่ำ ชีวิตก็ยาก

    ซึ่ง ผมจะบอกเลย ว่า คนที่ไม่ยอมเทรดเองนี้ ควรไปซื้อกองทุน ซะยังดีกว่าครับ

    วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2567

    Motion Sickness เล่นเกมส์แล้วปวดหัว เมื่ออายุมากขึ้น

     



    Motion Sickness ในการเล่นเกมเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ: สาเหตุและวิธีการป้องกัน

    Motion Sickness หรืออาการเมารถ ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การเดินทางเท่านั้น แต่ยังสามารถเกิดขึ้นได้ในระหว่างการเล่นเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยสูงอายุที่ความสามารถในการปรับตัวของสมองและระบบการทรงตัวเริ่มเสื่อมสภาพ

    สาเหตุของ Motion Sickness ในการเล่นเกมเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ

    1. การประมวลผลทางสายตาและการทรงตัวที่ลดลง
      เมื่ออายุมากขึ้น การประมวลผลภาพจากสายตาและระบบการทรงตัวในหูชั้นในอาจทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้เกิดความสับสนระหว่างสิ่งที่ตาเห็นและสิ่งที่สมองรับรู้ ส่งผลให้เกิดอาการเวียนหัว คลื่นไส้ และอาการ Motion Sickness ขึ้น

    2. การเคลื่อนไหวที่ไม่ตรงกับความรู้สึก
      ในเกมที่มีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เช่น เกมยิงปืน (FPS) หรือเกมเสมือนจริง (VR) อาจทำให้เกิดการไม่สอดคล้องกันระหว่างสิ่งที่ผู้เล่นเห็นในจอและการเคลื่อนไหวของร่างกายจริง ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการ Motion Sickness โดยเฉพาะในวัยสูงอายุที่ระบบประสาทไวต่อการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมน้อยลง

    3. ความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของแสงและภาพ
      วัยสูงอายุอาจมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของแสงและภาพในเกม เช่น การสลับภาพอย่างรวดเร็ว หรือการเคลื่อนไหวของฉากที่ซับซ้อน สิ่งเหล่านี้สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการ Motion Sickness ได้

    วิธีการป้องกันและบรรเทาอาการ Motion Sickness ในการเล่นเกม

    1. เลือกเกมที่เหมาะสม
      ควรเลือกเล่นเกมที่มีการเคลื่อนไหวไม่เร็วเกินไป เช่น เกมแนววางแผนหรือเกมปริศนา ซึ่งไม่ต้องมีการเคลื่อนไหวของกล้องหรือภาพอย่างรวดเร็ว

    2. ปรับการตั้งค่าภาพในเกม
      ลดความไวในการหมุนกล้อง ปรับความละเอียดของภาพ หรือปรับระดับการสั่นของหน้าจอ (Motion Blur) เพื่อลดการกระตุ้นที่อาจทำให้เกิดอาการ Motion Sickness

    3. พักสายตาเป็นระยะ
      การพักสายตาเป็นระยะทุกๆ 20-30 นาที จะช่วยลดความเหนื่อยล้าของสายตาและสมอง และช่วยป้องกันอาการ Motion Sickness ได้

    4. ใช้ยาที่ช่วยลดอาการ Motion Sickness
      หากจำเป็น สามารถใช้ยาที่ช่วยลดอาการ Motion Sickness เช่น ยาต้านฮีสตามีน (Antihistamines) แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยา โดยเฉพาะในวัยสูงอายุ

    5. หลีกเลี่ยงการเล่นเกมในห้องที่มีแสงน้อยหรือจอที่ใหญ่เกินไป
      การเล่นเกมในห้องที่มีแสงสว่างเพียงพอและใช้จอขนาดเหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการ Motion Sickness ได้

    บทสรุป

    Motion Sickness ในการเล่นเกมอาจกลายเป็นปัญหาสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการเพลิดเพลินกับการเล่นเกม การเข้าใจสาเหตุและวิธีการป้องกันอาการเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพและเพิ่มความสนุกสนานในการเล่นเกมอย่างต่อเนื่อง โดยการปรับเปลี่ยนวิธีการเล่นและสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมสามารถช่วยลดอาการ Motion Sickness และทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมในวัยสูงอายุเป็นไปอย่างราบรื่นและสนุกสนาน 



     เอาตรงๆ อาการนี้เกิดขึ้นกับเพื่อนผมหลายคนเวลาชวนเล่นเกม

    ถ้าตอนนี้ ใครปฎิเสธ เล่นเกม โดยอ้างว่า ปวดหัว (Motion Sickness) แปลว่าสมองเจ้าแก่แล้ว

    วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2567

    การทำลายฐานแฟนคลับ เพื่อ เอาใจหวังลูกค้า กลุ่มใหม่ ของ Budweiser (บัดไวเซอร์) สู่ Star Wars (สตาร์วอร์ส)

    การทำลายฐานแฟนคลับ เพื่อ  เอาใจหวังลูกค้า กลุ่มใหม่ ของ Budweiser (บัดไวเซอร์)  สู่  Star Wars (สตาร์วอร์ส)






    เมื่อเราพูดถึงความสำเร็จหรือความล้มเหลวในด้านการตลาด การเปรียบเทียบกับโลกของการเล่าเรื่องในภาพยนตร์ Star Wars สามารถทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมองจากมุมมองของการรักษาภาพลักษณ์และฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่น

    1. การรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์/เรื่องราว

    บัดไวเซอร์: ภาพลักษณ์ของบัดไวเซอร์ในฐานะ “เบียร์ของผู้ชาย/เบียร์แมนๆ” ถูกสร้างขึ้นมาอย่างยาวนาน ซึ่งคล้ายกับการที่ Star Wars สร้างภาพลักษณ์ของตนเองในฐานะภาพยนตร์ที่ดึงดูดเด็กผู้ชายและเด็กเนิร์ด ให้เข้ามาสนุกกับเรื่องราวที่เต็มไปด้วยการผจญภัยในอวกาศและความขัดแย้งระหว่างความดีและความชั่ว อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของบัดไวเซอร์ในการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ไปเป็น “เบียร์ของคนข้ามเพศ” โดยไม่คำนึงถึงฐานลูกค้าหลัก นำไปสู่ความล้มเหลวทางการตลาดอย่างชัดเจน

    Star Wars: ในทำนองเดียวกัน Star Wars เองก็เผชิญกับความท้าทายในการรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์ เมื่อมีการสร้างภาคต่อหรือเนื้อเรื่องที่แตกต่างจากที่แฟนคลับคาดหวัง เช่น การเปลี่ยนทิศทางของเรื่องราวจากสิ่งที่เด็กผู้ชายและเด็กเนิร์ดสนุกไปกับการผจญภัยในอวกาศและฮีโร่ ไปเป็นเรื่องที่ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบ เนื้อเรื่องไม่สมเหตุสมผล เพียงเพื่อจะมาดันตัวละครให้เก่งกาจ ซึ่งสะท้อนในคะแนนรีวิวที่ต่ำของซีรีส์ "Star Wars: The Acolyte" ที่ถูกวิจารณ์ว่าไม่สอดคล้องกับสิ่งที่แฟนคลับคาดหวัง

    2. ฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่น

    บัดไวเซอร์: บัดไวเซอร์มีฐานลูกค้าที่ภักดีมานานหลายทศวรรษ เหมือนกับฐานแฟนคลับของ Star Wars ที่มีมาตั้งแต่ภาคแรกของภาพยนตร์ แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สอดคล้องกับความคาดหวัง บัดไวเซอร์ก็สูญเสียฐานลูกค้าหลักทันที ยอดขายตกลง และถูกเบียร์คู่แข่งแย่งชิงตำแหน่งเบียร์ที่ขายดีที่สุดไป

    Star Wars: เช่นเดียวกัน Star Wars มีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่น แต่การเล่าเรื่องที่ไม่สอดคล้องกับความคาดหวังของแฟนคลับในภาคใหม่ๆ บางครั้งก็ทำให้แฟนคลับรู้สึกไม่พอใจ ถึงแม้ว่าจะยังคงมีฐานแฟนคลับที่กว้างขวาง แต่การต่อต้านบางส่วนก็แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของแฟนๆ อาจส่งผลกระทบต่อการยอมรับของพวกเขา

    3. การปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองกลุ่มใหม่

    บัดไวเซอร์: ความพยายามในการขยายกลุ่มลูกค้าของบัดไวเซอร์ไปยังกลุ่ม LGBTQ+ นั้นเป็นสิ่งที่มีความตั้งใจดี แต่ปัญหาอยู่ที่การขาดความเข้าใจในกลุ่มเป้าหมายใหม่ และการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงเกินไป ทำให้สูญเสียฐานลูกค้าเดิมอย่างรวดเร็ว

    Star Wars: ในทางกลับกัน Star Wars ก็พยายามที่จะขยายฐานแฟนคลับไปยังกลุ่มใหม่ๆ ด้วยการเพิ่มตัวละครที่หลากหลายทางเพศและเชื้อชาติ แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะได้รับการตอบรับดีจากกลุ่มใหม่ แต่ก็ก่อให้เกิดการต่อต้านจากแฟนคลับบางส่วนที่ไม่พอใจกับการเปลี่ยนแปลงที่พวกเขามองว่าไม่สอดคล้องกับเรื่องราวเดิม

    4. บทเรียนที่ได้รับ

    บัดไวเซอร์: บทเรียนที่ได้รับจากกรณีของบัดไวเซอร์คือ ความสำคัญของการเข้าใจในความรู้สึกและความคาดหวังของฐานลูกค้าหลัก และการเปลี่ยนแปลงต้องทำอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้สูญเสียความไว้วางใจจากลูกค้า

    Star Wars: สำหรับ Star Wars การตอบสนองต่อกลุ่มใหม่โดยไม่ละเลยฐานแฟนคลับเดิมเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน การรักษาความสมดุลระหว่างการพัฒนาเรื่องราวใหม่ๆ และการคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ที่แฟนๆ รัก ถือเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความสำเร็จของแบรนด์ในระยะยาว

    สรุป: กรณีของบัดไวเซอร์และ Star Wars สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาภาพลักษณ์และความคาดหวังของฐานลูกค้า การเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้คิดถึงฐานลูกค้าเดิมสามารถนำไปสู่ความล้มเหลวอย่างร้ายแรงในแง่ของการตลาดและการยอมรับของแฟนคลับ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์สินค้า หรือเรื่องราวในภาพยนตร์ การเข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการของฐานลูกค้าหลักเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จที่ยั่งยืน



    ---
    จริงๆแล้วความเห็นของผองเพื่อน คือพวก woke แค่ต้องการใช้ star war เพื่อส่งข้อความ ตาสว่าง เท่านั้น  ไม่ได้ทำมาเพื่อ แฟน star war ที่ตั้งหน้าตั้งตารอดูตั้งแต่สมัยเด็ก 


    ---

    เพิ่มเติม

    Budweiser และ Bud Light เป็นสองแบรนด์เบียร์ภายใต้บริษัท Anheuser-Busch ที่มีความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่มีความแตกต่างกันทั้งในด้านลักษณะของผลิตภัณฑ์และกลุ่มเป้าหมาย:

    1. Budweiser: เป็นเบียร์ลาเกอร์ที่มีประวัติยาวนานและเป็นที่รู้จักในฐานะ "King of Beers" มีรสชาติที่เข้มข้นและหนักแน่นกว่า ด้วยความพยายามในการรักษาความคลาสสิกและภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่ง Budweiser มุ่งเน้นไปที่การตลาดที่ย้ำถึงความเป็นอเมริกันและมรดกของแบรนด์ โดยมีภาพลักษณ์ที่ผูกพันกับกีฬา ความเป็นชาติ และประสบการณ์การดื่มเบียร์แบบดั้งเดิม

    2. Bud Light: เป็นเวอร์ชันที่เบากว่าและมีแคลอรี่น้อยกว่า Budweiser มีรสชาติที่เบากว่าและเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าที่ต้องการทางเลือกที่เบากว่าในการดื่มเบียร์ Bud Light มักจะถูกเชื่อมโยงกับการตลาดที่สนุกสนาน เข้าถึงง่าย และมีแนวทางที่ทันสมัยกว่า เพื่อดึงดูดผู้บริโภคในกลุ่มคนรุ่นใหม่

    ความแตกต่างสำคัญระหว่าง Budweiser และ Bud Light จึงอยู่ที่รสชาติและการตลาดของพวกเขา โดยที่ Budweiser ยังคงรักษาภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งและดั้งเดิม ขณะที่ Bud Light มุ่งเน้นไปที่ความเบาและเข้าถึงง่ายมากกว่า

    การที่ Bud Light นำกลยุทธ์ที่เรียกว่า "woke" ซึ่งหมายถึงการสนับสนุนและส่งเสริมความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการเคลื่อนไหวทางสังคมเช่น LGBTQ+ อาจกระทบต่อ Budweiser เนื่องจากเหตุผลหลายประการ:

    1. ภาพลักษณ์และแบรนด์ในเครือ: แม้ว่า Bud Light และ Budweiser จะเป็นสองแบรนด์ที่แยกจากกัน แต่ทั้งคู่ยังคงอยู่ภายใต้บริษัทแม่เดียวกันคือ Anheuser-Busch การเคลื่อนไหวใดๆ ของ Bud Light ที่สร้างความขัดแย้งหรือการวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มผู้บริโภคบางส่วน อาจทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ในเครือ เช่น Budweiser ถูกมองในทางลบด้วย เนื่องจากผู้บริโภคอาจเห็นทั้งสองแบรนด์เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดและท่าทีทางการตลาดเดียวกัน

    2. ฐานลูกค้า: Budweiser มีฐานลูกค้าที่กว้างและมักจะเป็นกลุ่มที่มีความอนุรักษ์นิยมมากกว่า การที่ Bud Light สนับสนุนประเด็นทางสังคมบางอย่างที่อาจไม่ถูกใจกลุ่มลูกค้าดังกล่าว อาจส่งผลให้ลูกค้าบางส่วนมอง Budweiser ในทางลบหรือเลิกสนับสนุนผลิตภัณฑ์ทั้งเครือของ Anheuser-Busch

    3. ความคาดหวังของลูกค้า: Budweiser มีภาพลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับความเป็นอเมริกันดั้งเดิม ความแข็งแกร่ง และความคลาสสิก การที่ Bud Light เลือกที่จะสนับสนุนแนวคิด "woke" อาจทำให้บางคนรู้สึกว่าแบรนด์ทั้งเครือกำลังเปลี่ยนไปจากสิ่งที่พวกเขาคาดหวัง ซึ่งอาจทำให้ความเชื่อมั่นและความภักดีต่อแบรนด์ลดลง

    4. ผลกระทบทางธุรกิจ: หากการเคลื่อนไหวของ Bud Light ส่งผลกระทบทางการเงินหรือทำให้ยอดขายลดลง Anheuser-Busch อาจตัดสินใจปรับกลยุทธ์การตลาดของทั้งเครือเพื่อแก้ไขสถานการณ์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ Budweiser ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์หรือแนวทางการสื่อสารเพื่อรักษาฐานลูกค้า

     

    วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2567

    5 แอปพลิเคชันส่งข้อความที่มีความปลอดภัยสูง

     


    ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลส่วนตัวกลายเป็นเรื่องสำคัญมากขึ้น การเลือกใช้แอปพลิเคชันส่งข้อความที่มีความปลอดภัยสูงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการปกป้องข้อมูลของตนเอง ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจแอปพลิเคชันยอดนิยมที่มีชื่อเสียงในด้านความปลอดภัย ได้แก่ Telegram, Signal, Keybase, Threema, และ Status พร้อมทั้งแนะนำเว็บไซต์ทางการของแต่ละแอปพลิเคชัน

     

    1. Telegram

    Telegram เป็นแอปพลิเคชันส่งข้อความยอดนิยมที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 500 ล้านคน Telegram มีชื่อเสียงในการให้บริการส่งข้อความที่รวดเร็วและปลอดภัย โดยมีฟีเจอร์การเข้ารหัสแบบ end-to-end สำหรับการสนทนาแบบลับ (Secret Chats) นอกจากนี้ Telegram ยังรองรับการส่งไฟล์ขนาดใหญ่ และการสร้างกลุ่มที่รองรับผู้เข้าร่วมได้มากถึง 200,000 คน

    2. Signal

    Signal เป็นแอปพลิเคชันที่เน้นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยสูงสุด โดยทุกข้อความที่ส่งผ่าน Signal จะถูกเข้ารหัสแบบ end-to-end ทั้งหมด Signal ยังเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในแอปพลิเคชันที่ได้รับการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว รวมถึง Edward Snowden

    • เว็บไซต์ทางการ: signal.org

    3. Keybase

    Keybase เป็นแอปพลิเคชันส่งข้อความและการจัดการไฟล์ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความโปร่งใสในการใช้งาน Keybase ใช้การเข้ารหัสแบบ end-to-end สำหรับทุกข้อความและไฟล์ที่ถูกส่งผ่านแอป นอกจากนี้ Keybase ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยในการยืนยันตัวตนของผู้ใช้ด้วยระบบ PGP (Pretty Good Privacy) ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยระดับสูง

    • เว็บไซต์ทางการ: keybase.io

    4. Threema

    Threema เป็นแอปพลิเคชันส่งข้อความจากสวิตเซอร์แลนด์ที่เน้นความเป็นส่วนตัวอย่างเคร่งครัด โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องใช้หมายเลขโทรศัพท์หรืออีเมลในการสมัครสมาชิก Threema ใช้การเข้ารหัสแบบ end-to-end สำหรับทุกข้อความ, การโทร, ไฟล์, และข้อมูลอื่น ๆ แอปนี้ยังรองรับการส่งข้อความแบบนิรนามและการตรวจสอบตัวตนแบบคิวอาร์โค้ด (QR Code)

    • เว็บไซต์ทางการ: threema.ch

    5. Status

    Status เป็นแอปพลิเคชันส่งข้อความที่สร้างขึ้นบนบล็อกเชนของ Ethereum ทำให้มันมีความปลอดภัยและกระจายศูนย์ (decentralized) โดยสมบูรณ์ นอกจากการส่งข้อความแล้ว Status ยังรองรับการใช้งานแอปพลิเคชันกระจายศูนย์ (dApps) และการเก็บรักษาคริปโตเคอร์เรนซี ทำให้มันเป็นแอปที่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานคริปโต

    • เว็บไซต์ทางการ: status.im

    สรุป

    การเลือกใช้แอปพลิเคชันส่งข้อความที่มีความปลอดภัยสูงอย่าง Telegram, Signal, Keybase, Threema, และ Status เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและความเป็นส่วนตัวของตนเอง แต่ละแอปมีคุณสมบัติที่โดดเด่นและเหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้เอง

    หากคุณกำลังมองหาแอปพลิเคชันที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ลองสำรวจตัวเลือกเหล่านี้และเลือกสิ่งที่เหมาะกับคุณที่สุด