วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ตำนานกระต่ายป่า

ตำนานกระต่ายป่า เป็นสารคดีฉายทาง ช่อง Tpbs วันที่ 26 พ.ย. 2553
จะได้เห็นว่ามันน่ารักน่าสงสารและมีประโยชน์ต่อห่วงโซ่อาหารอย่างยิ่ง อยากให้ดูกันทุกคน
ตำนานกระต่ายป่า 1/4

ตำนานกระต่ายป่า 2/4

ตำนานกระต่ายป่า 3/4

ตำนานกระต่ายป่า 4/4

วันอังคารที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2553

รวมตอนจบ School day

School Days BAD END


School Days BAD END 1 (SUBBED) 

School Days Bad End 2

School Days ~ Ending

School Days The Best Ending

School Days The Best Ending

วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วิธีทำให้กระต่ายอารมณ์ดี

วิธีทำให้กระต่ายอารมณ์ดี
จากประสบการณ์ตรงนะครับ
1.ใช้อาหารที่เขาชอบ หรืออาหารอร่อย แปลกใหม่  เช่นขนมปังโฮลวีตหอมๆ หรือขนมขนมปังธัญพืช หรือชีวจิตหอมๆ ให้กินนิดหนึ่งพอเป็นกระใส ก็เหมือนกับคนอ้วนได้กินของมันกรอบแหละครับ ถึงไม่ดีต่อสุขภาพคนอ้วนก็ชอบ ดังนั้งอย่าให้น้องต่ายกินมากนะครับ ( ปล.อย่าให้มันกินกัญชานะครับ เดียวมันจะติด )
2.พาไปที่นุ่มๆกว้างๆเช่นเตียงคู่8ฟุต(6ฟุตก็ได้นะครับ) แต่ระวังฉี่นะครับ อันนี้น้องๆเขาจะชอบมากเหมือนเด็กได้กระโดนบนเบาะแนะนำนะครับวางเบาะไว้ข้างล่างตรงพื้นจะชอบมาก เข้าจะวิ่งไปวิ่งมา อย่างสนุกและกระโดดป๊อปคอร์นเลยนะครับ
3.ทำความสะอาดส้วมให้ ถ้าส่วมเป็นหมอนให้ซักตากแดดให้แห้งระหว่างนั้นเอาหมอนสำรองไปก่อน
4.ลูบหัว/สางขนให้ด้วยมือ หรือหวี แปรง แนะนำมือดีที่สุดครับ อันนี้แล้วแต่นิสัยแต่ละตัวด้วยนะครับ บางตัวไม่ชอบเลย เอาหัวดันมือทิ้ง บางตัว เอามือแปะพื้นไว้เฉยๆ ห็เอาหัวมามุดมือ ให้ลูบให้ลูบ
5.เล่นกัน แนะนำว่าอย่ารุนแรง ถ้ามันส่งเสียง ฮึ่ม! แปลว่าไม่ชอบ ให้หยุดซะ และอุปกรณ์ แนะนำ ตุ๊กตาสัตว์ ขนฟูๆ
6.การปล่อยไปเล่นในสนามหญ้า อันนี้อาจยากหน่อยครับ สำหรับคนไม่มีพื้นที่แนะนำเป็นข้อๆนะครับ
6.1ใครที่ต้องนำกระต่ายไปวิ่งเล่นสนามหญ้าที่อื่นนะครับ แนะนำเลยว่าถ้าเป็นไปได้อย่าผูกเชือกนะครับ เขาไม่ชอบ
ให้ใช้วิธีล้อมรั้วแทน เช่น รั่วลวดตาข่าย ตอกหมุด สูงซัก40cmขึ้นไป ล้อม ซัก6มุม  พื้นที่ก็พอให้วิ่งได้ไกลหน่อยก็ดีนะครับ ระวังเรื่องสุนัขด้วยนะครับ และต้องคอยเฝ้าครับ เขามุดรั้วได้ ถ้าเสาหรือมุดห่างกัน
และขุดได้ครับ
6.2ให้มีสวนหลังบ้าน หรือพื้นที่รอบบ้าน ก่อนปล่อยไปเราต้องเช็คว่ามีสุนัขมากวนหรือเปล่าครับ ถ้าไม่มี ก็ลองเปิดประตูออกไปเลยครับ แต่ก่อนหน้านั้นต้องปล่อยให้วิ่งเล่นในบ้านซักหลายๆวันก่อนนะครับ เขาจะได้รักบ้าน พอปล่อยไป พอเหนื่อยหรือหิวเขาจะกลับมาเองครับ ( มีกำแพงหรือรั้วกั้นนะครับ จะดีมาก หรือเฝ้าครับ เตรียมแหไว้ด้วย อาจได้ใช้  )

ข้อควรระวังครับ กระต่ายผมเคยโดนคนงานไล่ฆ่า เพื่อจะจับกินครับ  เลยหนีหายเข้าป่าไปเลยครับ
ผ่านไป2อาทิตย์ นึำว่าโดนคนงานฆ่าไปกินแล้วนะครับ (คือมีคนมาเล่าให้ฟังว่าคนงานไล่ฆ่ากระต่ายผมอยู่ ตอนผมไม่อยู่ กว่าจะรู้ก็อีกวันนะครับ ) โดยปกติแล้วกระต่ายผม เข้าป่าทีไม่เกิน3วันนะครับ พอเย็นวันนั้น คนงานเลิกงานกันหมด ตอนเย็นๆใกล้ค่ำ มันก็วิ่งกลับเข้าบ้านเลยครับ ดีใจมาก แฟนผมร้องให้เลย ตอนกลับมาตัวมันยาวมาก ผอมมาก จากตัวขาวๆเป็นสีน้ำตาลแดงเลยครับ ก็เลยแบนมันห้ามออกจากบ้านเป็นเดือน
อย่างตอนนี้ผมก็ปล่อยลูกทั้งสามไปเล่นนอกบ้านครับ โดยปกติแล้วผมจะปล่อยตอนกลางคืนครับ พอจะเช้าเขาก็พากันกลับมาเองครับ พร้อมกันด้วยนะครับ
เรื่องปล่อยไปนะครับ ต้องดูแลเป็นพิเศษนะครับ โดนปกติและต้องเปิดประตูไว้ตลอดเวลา เพื่อหนีภัยมา จะได้เข้าบ้านได้
แต่ถ้าปล่อยไปช่วงเช้าๆ แปปเดียวก็กลับมาแล้วครับ ไม่ค่อยสู้แดด
 แต่ปล่อยไป จะป๊อปคอร์นนะครับ พอหลังจะติดใจ พอค่ำนี้ออกันอยู่หน้าประตูกัน

แต่ตั้งระวังอย่างมากนะครับ ทั้งเรื่องความปลอดภัย และเรื่องการที่ชินกับอิสระภาพ ที่มากกว่าเดิม ซึ่งจะทำให้ดื่อกว่ากลุ่มที่เลี้ยงอยู่แต่ในกรงนะครับ และมีความเป็นปัจเจกบุคคลสูง หลัง จะไม่ยอมให้เราอุ้มหรือลูบก็ได้นะครับ

7.จับหงายท้อง แล้วลูบ ให้เคลิ้ม อันนี้ทำไม่ได้กับทุกตัวนะครับแล้วแต่นิสัย พอเคลิ้มแล้วก็ป้อนขนมอร่อยให้กิน มันก็จะหลับตาแล้วเคี้ยวหนุบหนั๊บ

ข้อควาระวัง
ในข้อ1 เรื่องอารหารที่น้องกระต่ายชอบมันอาจจะไม่ดีต่อสุขภาพเสมอไป จะว่าไปผมก็ชอบกินแต่ของทำลายสุขภาพ กินได้แต่อย่ามากครับ และรัวังมันจะติดครับ เช่นมาม่า ตอนนี้เวลาผมจะต้้มกิน ต้องแอบกินแอบต้ม ข้าวสุก ข้าวสวยก็เช่นกันครับ วางจานปุ๊บวิ่งเข้ามากินคาจานผมเลยครับ เผลิอวางห้อมหุ้งข้าวไว้ มันก็เปิดกินเองได้ บางครังหน้า-ปากก็โดนลวกครับ หน้าสงสาร แต่ก็ตลกนะครับ

8.มอบของนุ่มๆให้เขา เช่นหมอบใบใหญ่ ผ้านุ่มให้กัดให้ลาก อันนี้ก็ไม่ค่อยแน่ใจนะครับ แต่ผมดนยึดของเหล่านี้ตลอดครับ T^T

เช่นบนสุดจะเห็นกระต่ายตัวหนึ่งเป็นโลโก้ใช่ไหมครับ ตัวนั้น ชื่อข้าวเกรียบครับ ชอบมานอนข้างเราแบบนิ่งๆไม่ดื่อ แล้วฉี่นิ่งๆเนียนๆ แบบไม่ยกหางหรือขา -*- โหดมาก หลายครั้งแค่เอาตูดมาพิงหรือเอาตัวมาแนบ -*- แต่แล้ว โอ้ว!!!!!!!!!

วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

คณิตกรณ์

ระหว่างที่ผมเถียงกันกับรุนน้องว่า คอมพิวเตอร์ มีคำเฉพาะของมัน ส่วนรุ่นน้องบอกว่า มันแปลไทยว่า เครื่องประมวลผล
ผมก็เลยเซิทหาอยู่พักหนึ่ง แล้วก็ได้เจอบทความนี้ของคุณ จิ๊กกี [14 มี.ค. 52 7:43] ( IP A:194.209.66.41 X: )
จาก http://www.pantown.com/board.php?id=9908&area=4&name=board5&topic=338&amp
;action=view

และ คุณสรจักษ์ ศิริบริรักษ์  จากนิตยสาร แพรว 25 ธันวาคม 2549
วิชาคณิตกรณ์
สัปดาห์ที่ผ่านมาผมถูกรุ่นน้องขอร้องให้ไปบรรยายกะทันหันวันรุ่งขึ้นเรื่อง
>
>
> การใช้คอมพิวเตอร์เบื้องต้นที่ศูนย์ฝึกอบรมของหน่วยราชการ เพราะวิทยากรซึ่งก็คือ
> สามีของเธอป่วยกะทันหัน เธอให้ข้อมูลว่าผู้เข้ารับการอบรมชุดนี้เป็นข้าราชการ
> ที่ถูกบังคับให้มาอบรมเพราะไม่ผ่านการประเมิน ความรู้ด้านสารสนเทศ บางคน ซีแปด
> ซีเก้าแต่มีแนวคิดศักดินา เห็นเอกชนคนไม่มียศเป็นบริวารไปหมด ขอให้ผมอดทนบรรยาย
> ให้จบตามหัวข้อ อย่าโต้ตอบ ผมรับปาก
>
> เมื่อไปถึงห้องบรรยาย
> ผมก็เริ่มเข้าใจคำพูดของรุ่นน้องแต่ละคนคุยกันอื้ออึงขณะผมแนะนำตัว
>
>
> ชายคนหนึ่งพูดเสียงดังให้ผมสอนวิธีแชตหาคู่ การดูคลิปวิดิโอและเว็บไซต์โป๊
>
>
> หลายคนหัวเราะสนับสนุน ผมต้องตะล่อมให้เข้าสู่บทเรียนว่า
>
>
> "ได้ครับ แต่ต้องหัดเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อน จึงจะเข้าไปดูได้"
>
>
> ได้ผล ทุกคนเริ่มหาปุ่มเปิดเครื่อง และความโกลาหลก็เริ่ม
>
>
> เพราะวิธีเปิดปิดของเครื่องแต่ละรุ่นไม่เหมือนกัน
>
>
> และที่น่าเวียนหัวที่สุดคือ ทำทุกอย่างแต่เครื่องไม่ทำงาน
>
>
> หาอยู่นานจึงพบว่าปลั๊กไม่ได้เสียบแค่เปิดครบทุกเครื่องก็ถึงเวลาพักทานกาแฟแล้ว
>
> หลังหมดเวลาพัก
> ผู้เข้าอบรมก็ยังยืนสูบบุหรี่หรือจับกลุ่มคุยกัน
>
>
> ผมต้องประกาศผ่านไมค์เชิญเข้าห้อง บางคนมองด้วยความไม่พอใจ
>
>
> ผมชี้แจงว่าต้องรีบสอน "เพราะยังมีอุปกรณ์ต่อพ่วงอีกมากมายที่ต้องเรียนรู้
>
>
> เช่น มอนิเตอร์ คีย์บอร์ด เมาส์ โมเด็ม ยูพีเอส..."
>
>
> คุณพี่ผู้หญิงคนหนึ่งพูดแทรกขึ้นมาว่า
>
>
> " ขอโทษนะคะ ตามระเบียบสำนักนายกฯ เวลาพิมพ์เอกสารราชการต้องใช้ภาษาไทย
>
>
> ช่วยแปลไอ้เตอร์ๆ เด็มๆ อะไรของคุณให้เป็นคำไทยหน่อยได้ไหมคะ
>
>
> จะได้ก่อประโยชน์กับการทำงานบ้าง..."
>
>
> มีเสียงลอยมาตามลดให้ได้ยินจากท้ายห้องว่า
>
>
> เด็กสมัยนี้ ติดไทยคำฝรั่งคำอยากให้รู้ว่าจบนอก
>
> ผมฉุนกึก สูดหายใจยาว
>
>
> "ได้ครับ งั้นเอาใหม่ เรารู้วิธีเปิดเครื่องคณิตกรณ์แล้ว
>
>
> บางเครื่องอาจเป็นคณิตกรณ์ส่วนบุคคล บางเครื่องเป็นคณิตกรณ์วางตัก
>
>
> แต่ไม่ว่าอย่างไรมันจะทำงานไม่ได้ ถ้าขาดชุดคำสั่งระบบปฏิบัติการและ
>
>
> ชุดคำสั่งประยุกต์อื่นๆ ประการต่อมา คณิตกรณ์จะต้องมีครุภัณฑ์ต่อพ่วง
>
>
> ซึ่งทำหน้าที่หลักสองรูปแบบ คือ นำเข้าข้อมูลไปส่งหน่วยประมวลผลกลาง
>
>
> กับนำข้อมูลที่ประมวลแล้วมาแสดงให้เราดู"
>
> ผมชี้ไปที่จอภาพ
>
>
> "นี่คือเครื่องเฝ้าสังเกตซึ่งอาจหนาเทอะทะแบบจอโทรทัศน์
>
>
> หรือเป็นจอภาพผลึกเหลวที่ให้ความคมชัดกว่า
>
>
> ส่วนครุภัณฑ์ต่อพ่วงที่นำเข้าข้อมูลไปให้หน่วยประมวลผลกลาง
>
>
> อาจอยู่ในรูปหน่วยขับ ก และหน่วยขับ ข ซึ่งสามารถอ่านและบันทึก
> ข้อมูลเก็บไว้ในแผ่นบันทึกชนิดอ่อนปวกเปียก( floopy)
>
>
> หรือในจานบันทึกแบบแข็งที่หน่วยขับ
>
>
> อุปกรณ์นำเข้าและส่งออกข้อมูล ยังมีในรูปแบบอืนๆอีก เช่น
>
>
> เครื่องกราดภาพ ตัวกล้ำและแยกสัญญาณ โทรภาพ
>
>
> แต่ที่ขาดไม่ได้เลย คือสิ่งนี้"
>
> ผมยกคีย์บอร์ดขึ้นมา
> " แผงแป้นอักขระซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญที่สุดที่เราจะป้อนชุด
> คำสั่งเข้าสู่เครื่องคณิตกรณ์ จะเห็นว่าบนแผงแป้นอักขระจะมีกระดุมหรือ
>
>
> ปุ่มอักขระมากมายมีทั้งที่คุ้นเคยกันดี เช่น มหัพภาค อัฒภาค ทวิภาค วิภัชภาค
> ยัติภังค์ ปรัศนี อัศเจรีย์ เสมอภาค สัญประกาศ ทีฆสัญญา กับที่ยังไม่ได้บัญญัติ
> ศัพท์ เช่น กระดุมสอดแทรก กระดุมเข้าไป กระดุมหลบหนี กระดุมอวกาศถอยหลัง
> หรือ backspace..."
>
>
>
>
>
> วันนั้นไม่มีใครได้ดูคลิปวิดีโอ
>
>
>
>
>
> ต่อมาผมได้รับผลการประเมินการสอนว่า
>
>
> "ไม่น่าพอใจ และพูดภาษาไทย แต่ไม่รู้เรื่อง"
โดย: จิ๊กกี [14 มี.ค. 52 7:43] ( IP A:194.209.66.41 X: )
--------------------------------------------------------------------
และ จากhttp://www.suanboard.net/view.php?p=view&kid=38372&in=1
" ศักยภาพของภาษาไทยกับการสอนเท็คโนโลยีสมัยใหม่ "


บทความเรื่อง

“กระดุมอวกาศถอยหลัง”

สรจักษ์ ศิริบริรักษ์

จากนิตยสาร แพรว 25 ธันวาคม 2549



-----------------------------------------------------------------------------------------

สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมถูกรุ่นน้องขอร้องให้ไปบรรยายกะทันหันวันรุ่งขึ้นเรื่องการใช้ คอมพิวเตอร์เบื้องต้นที่ศูนย์ฝึกอบรมของหน่วยราชการ เพราะวิทยากรซึ่งก็คือสามีของเธอ ป่วยกะทันหัน



เธอให้ข้อมูลว่าผู้เข้ารับการอบรมชุดนี้เป็นข้าราชการที่ถูกบังคับให้มาอบรมเพราะไม่ผ่าน การประเมินความรู้ด้านสารสนเทศ บางคนซีแปดซีเก้าแต่มีแนวคิดศักดินา เห็นเอกชนคน ไม่มียศเป็นบริวารไปหมด ขอให้ผมอดทนบรรยายให้จบตามหัวข้อ อย่าโต้ตอบ ผมรับปาก



เมื่อไปถึงห้องบรรยาย ผมก็เริ่มเข้าใจคำพูดของรุ่นน้อง แต่ละคนคุยกันอื้ออึง ขณะผมแนะนำตัว ชายคนหนึ่งพูดเสียงดังให้ผมสอนวิธีแชตหาคู่ การดูคลิปวิดิโอ และเว็บ ไซต์โป๊ หลายคนหัวเราะสนับสนุน ผมต้องตะล่อมให้เข้าสู่บทเรียนว่า "ได้ครับ แต่ต้องหัด เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อน จึงจะเข้าไปดูได้"



ได้ผล ทุกคนเริ่มหาปุ่มเปิดเครื่อง และความโกลาหลก็เริ่ม เพราะวิธีเปิดปิดของเครื่องแต่ ละรุ่นไม่เหมือนกัน และที่น่าเวียนหัวที่สุดคือ ทำทุกอย่าง แต่เครื่องไม่ทำงาน หาอยู่นานจึง พบว่าปลั๊กไม่ได้เสียบ แค่เปิดครบทุกเครื่องก็ถึงเวลาพักทานกาแฟแล้ว



หลังหมดเวลาพัก ผู้เข้าอบรมก็ยังยืนสูบบุหรี่หรือจับกลุ่มคุยกัน ผมต้องประกาศผ่านไมค์เชิญ เข้าห้อง บางคนมองด้วยความไม่พอใจ ผมชี้แจงว่าต้องรีบสอน "เพราะยังมีอุปกรณ์ต่อพ่วงอีกมากมายที่ต้องเรียนรู้ เช่น มอนิเตอร์ คีย์บอร์ด เมาส์ โมเด็ม ยูพีเอส..."



คุณผู้หญิงคนหนึ่งพูดแทรกขึ้นมาว่า "ขอโทษนะคะ ตามระเบียบสำนักนายกฯ เวลาพิมพ์ เอกสารราชการต้องใช้ภาษาไทย ช่วยแปลไอ้เตอร์ๆ เด็มๆ อะไรของคุณให้เป็นคำไทย หน่อยได้ไหมคะ จะได้ก่อประโยชน์กับการทำงานบ้าง..." มีเสียงลอยมาตามลดให้ได้ยินจากท้ายห้องว่า เด็กสมัยนี้ ติดไทยคำฝรั่งคำ อยากให้รู้ว่าจบนอก



ผมฉุนกึก สูดหายใจยาว "ได้ครับ งั้นเอาใหม่ เรารู้วิธีเปิดเครื่องคณิตกรณ์แล้ว บาง เครื่องอาจเป็นคณิตกรณ์ส่วนบุคคล บางเครื่องเป็นคณิตกรณ์วางตัก แต่ไม่ว่าอย่างไร มันจะ ทำงานไม่ได้ ถ้าขาดชุดคำสั่งระบบปฏิบัติการและชุดคำสั่งประยุกต์อื่นๆ"



"ประการต่อมา คณิตกรณ์จะต้องมีครุภัณฑ์ต่อพ่วงซึ่งทำหน้าที่หลัก สองรูปแบบคือ นำเข้าข้อมูลไปส่งหน่วยประมวลผลกลางกับนำข้อมูลที่ประมวลแล้วมาแสดงให้เราดู"ู



ผมชี้ไปที่จอภาพ "นี่คือเครื่องเฝ้าสังเกต ซึ่งอาจหนาเทอะทะแบบจอโทรทัศน์หรือเป็นจอภาพผลึกเหลวที่ให้ความคมชัดกว่า ส่วนครุภัณฑ์ต่อพ่วงที่นำเข้าข้อมูลไปให้หน่วยประมวลผลกลางอาจอยู่ในรูปหน่วยขับ ก และหน่วยขับ ข ซึ่งสามารถอ่านและบันทึกข้อมูลเก็บไว้ใน แผ่นบันทึกชนิดอ่อนปวกเปียก (floopy) หรือในจานบันทึกแบบแข็งที่หน่วยขับ ค"



"อุปกรณ์นำเข้าและส่งออกข้อมูล ยังมีในรูปแบบอื่นๆอีก เช่น เครื่องกราดภาพ ตัวกล้ำและแยกสัญญาณ โทรภาพ แต่ที่ขาดไม่ได้เลย คือสิ่งนี้"



ผมยกคีย์บอร์ดขึ้นมา "แผงแป้นอักขระ ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญที่สุดที่เราจะป้อนชุดคำสั่งเข้าสู่ เครื่องคณิตกรณ์ จะเห็นว่าบนแผงแป้นอักขระจะมีกระดุมหรือปุ่มอักขระมากมาย มีทั้งที่คุ้นเคยกันดี เช่น มหัพภาค อัฒภาค ทวิภาค วิภัชภาค ยัติภังค์ ปรัศนี อัศเจรีย์ เสมอภาค สัญประกาศ ทีฆสัญญา กับที่ยังไม่ได้บัญญัติศัพท์ เช่น กระดุมสอดแทรก กระดุมเข้าไป กระดุมหลบหนี กระดุมอวกาศถอยหลัง หรือ backspace..."



วันนั้นไม่มีใครได้ดูคลิปวิดีโอ ต่อมาผมได้รับผลการประเมินการสอนว่า "ไม่น่าพอใจ และ พูดภาษาไทย แต่ไม่รู้เรื่อง"

วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

poipoi test: อยากดูหนังกระต่ายโหดสุดๆทางนี้ Night of the Lepus ช่วยคุณได้?

poipoi test: อยากดูหนังกระต่ายโหดสุดๆทางนี้ Night of the Lepus ช่วยคุณได้?

 

 


Night Of The Lepus (Trailer)

เนื้อเรื่่อง กระต่ายยักษ์(กลายพันธุ์) บุกเมืองกินคน พระนางต้องเอาตัวรอดจากทีมกุเต่ย มีฉากโหดเหี้ยมมากมาย ( หรือแค่ตั้งใจให้โหด )

แค่นี้ละ 



ฉาก กุเต่ย ควบกรุบๆมากินคน 

คือ กล้าทำ ก็ กล้าดู

คือ ไม่อยากสปอย์นะ เดียวดูไม่หนุก แค่นี้ละกัน


อยากดูหนังกระต่ายโหดสุดๆทางนี้ Night of the Lepus ช่วยคุณได้?


Night of the Lepus (ปี1972) ชื่อไทยประมาณว่า กระต่ายโลหิตถล่มโลก
เป็นหนังที่ดูๆแล้วคนสร้างจะกลัวกระต่ายสุดขีด หรือพยามยามให้กระต่ายดูน่ากลัวมากๆ แต่....
ดูเองครับ ไม่รู้จะวิจารณ์อะไรกับสัตว์ประหลาดยักขนปุกปุยดี

อืม หนังฉลามกินคน จระเข้กินคน สุนัขกินคน กระทิง สิง ไดโนเสาร์ ฯลฯ สงสัยไม่อยากซ้ำ เลยเอา กระต่ายกินคน -0- โอ้ว โหดมากๆ (ผู้สร้างนะที่โหด)




ดูแล้ว โหดร้าย สยองมักๆ 

เดียวบทความต่อไปจะพิสูตรเรื่อง แผนที่ Piri Reis ต่อ และจะพยายามโยงให้ได้ว่ากระต่าย เกี่ยวกับ แผนที่ Piri Reis ( เดียวจะมั่วให้ชม )

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

HAARP

HAARP & Earthquakes

---------------------
HAARP WEATHER CONTROL could be part of NWO DEPOPULATION PLAN, here's the...

---------------

H A A R P Project Bluebeam part 1





HAARP & Earthquakes
HAARP คือเครื่องสร้างแผ่นดินไหวจริงหรือ ?
้เกี่ยวกับกลุ่ม อิลลูมิเนติ จริงหรือ?
ขอเวลารวบรวมและกลั่นกรองข้อมูลซักพัก

วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2553

นมสตอเบอรี่ใส่แมลงลงไป จริง/เท็จ

 จริง 
นมสตอเบอรี่ทั่วๆไปใช้รศสังเคราห์ทำรศ สตอเบอรี่ และบางเจ้าใส่ สตอเบอรี่จริงๆเข้าไปด้วย แต่สีมันยังไม่ชมพู แล้วทำยังไงสีถึงจะสวยละ ก็ใส่สีลงไป โดยสีที่ใช้กับอย่างปลอดภัยคือสีผสมอาหาร ซึ่งมีหลายแบบ แบบที่ดีที่สุดคือแบบที่มาจากธรรมชาติ เช่นสีชมพูของนมสตอเบอรี่ ทำจากแมลง Cochineal
Cochineal

แมลง Cochineal
แมลงชนิดนี้จะอาศัยอยู่ในต้นกระบองเพชร (อเมริกา กลาางถึงใต้ )  
ตัวเมียไม่มีปีกเกาะอยู่ตรงกระบองเพชร ตัวผู้มีปีก การทำทำจากสีแมลงตัวเมีย+ไข่ เริ่มจากการแช่ในน้ำร้อน แล้วผึ่งด้วยลมร้อน(อบแห้ง) ให้แห้ประมาณ 30% จากนั้นก็นำมาบด โดยที่ต้องใช้แมลง 

เรื่องความปลอดภัยหายห่วง กินสดยังได้ ปลอดภัยสุดๆ การใช้แพร่หลายมาก อะไรแดงๆ ชมพูๆ เช่น โยเกิร์ต นมสตอเบอรี่ ลิสติก ฯลฯ 










วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2553

[ summit ] ซัมมิท ชุดชั้นในลดหุ่นปรับสรีระ อ่านก่อนตัดสิ้นใจที่จะซื้อ

 ชุดชั้นใน ซัมมิท มีโฆษณาที่มากมายบอกว่ามันดีอย่างไร และคงเป็นที่สงสัยของหลายๆคนว่ามันดีจริงเหมาะสมกับราคา 50,000 บาทหรือไม่
เรามาลองมาดูด้วยเหตุผลกันดีกว่า
อันนี้เป็นการตอบคำถามเกี่ยวกับคำโฆษณา เป็นข้อๆ

1.LYCRA คือเส้นใยยืดสังเคระห์ที่มีคุณสมบัติยืดและกลับคืนสภาพเดิมได้จริง (แต่ยืดมากๆก็เสียทรงได้ ) มีในชุด ว่ายน้ำ ชุดกีฬา และ ชุดชั้นในมี่ยี่ห้อ ทั่วๆไป ในราคาไม่ถึงพันบาท

2.เส้นใยซิลสุพิเดรีย คือ เส้นใยสังเคราะห์ ที่ซับน้ำได้ดี ดีกว่าฝ้าฝ้ายตรงเหงื่อระเหยได้เร็วกว่า

3.ไมเกรนหาย ไซนัสหาย ริดสีดวงหาย ติ่งเนื้อหาย แก้หน้าท้องลาย ยกมดลูกไม่หย่อนยาน ช่องคลอดกระชับ ไม่จริง ไม่เกี่ยวกันเลย และ ไม่มีข้อพิสูจน์ยืนยันทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ยังไม่มีเคยเห็นหรือเคยได้ยินว่ามีข้อมูลยืนยัน

4. ยึดหลังให้ตรง และช่วยเสริมบุคคลิก หน้าอกสวยได้รูป จริง เพราะมันบล็อกหลังและอกให้เข้ารูป เหมือนเสเตรัดหลัง/อก ในยุคกลาง รวมทั้ง ยกก้น ด้วย

5.เอวเล็กลง จริง เพราะ มันรัดจน ไขมัน เนื้อ ใส้ ถูกรัดไปที่อื่น เหมือนรัดเข็มขัด รัดมากๆ จะกินข้าวไม่ได้ จะผอม

6. ออกแบบโดยหมอฝังเข็มชาวจีน จริง? แต่ผู้ขายอีกแหล่งบอกว่า ออกแบบโดยวิศวกรญี่ปุ่น ผ่านมาตรฐาน และการตรวจสอบขั้นสูง อันไหน จริงอันไหนหลอก

7.ยังมีผลต่ออวัยวะภายใน จริง แต่ไม่ใช่เรื่องดี ที่อวัยวะภายในโดนกดรัด

8. ผลิตจากเส้นใยซิลสุพิเรีย และ เส้นใยไลคร่า 100%
     เส้น ใยไลคร่า และซิลสุพิเรีย 100%(เป็นวัสดุที่ใช้กับนักบินอวกาศในการปรับระบบเลือดนอกโลกและช่วยนวด เหมือนออกกำลังกายจากการทำงานของอิออนไฟฟ้าที่ใส่เป็นชุดนาโนเทคโนโลยี)

โอ้แม่เจ้า มันวิเศษขนาดนั้นเชียว มาดูข้อเท็จจริงเป็นข้อๆไป

  8.1) ใยไลคร่า และซิลสุพิเรีย 100% อันนี้ อาจจะดูงง แต่คงจะเป็น เส้นใยไลคร่า+และซิลสุพิเรียช=100%

 ใยไลคร่า และซิลสุพิเรีย ที่มีใช้ ในชุดกีฬาและ ฯลฯ เป็นไปได้ ที่ชุดปฎิบัติการ ในยานจะใช้เส้นใยไลคร่า เป็นส่วนประกอบ เพราะมีความยืดหยุนสูง ส่วน ซิลสุพิเรีย ซับน้ำได้ดี

  8.2)เป็นวัสดุที่ใช้กับนักบินอวกาศในการปรับระบบเลือดนอกโลก เส้นใยไลคร่า และซิลสุพิเรีย ไม่มีคุณสมบัติ ดังกล่าว แต่อาจจะเป็น ส่วนหนึ่งของชุดอวกาศ ชั้นใน ถือว่าโฆษณาเกินจริง

  8.3) ช่วยนวด เหมือนออกกำลังกายจากการทำงานของอิออนไฟฟ้าที่ใส่เป็นชุดนาโนเทคโนโลยี ไม่จริิงเพราะ
        (8.3.1) เส้นใยไลคร่า+และซิลสุพิเรียช=100% (แต่ความจริงมีสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ เส้นใยไลคร่า+และซิลสุพิเรียช อยู่ด้วย แต่ไม่บอก เพราะผู้ขายเขาโฆษณามาอย่างนี้ ) มีคุณสมบัตินำไฟฟ้าต่ำ หรือง่ายๆ เป็นฉนวน อิออนไฟฟ้า ผ่านไม่ได้
        (8.3.2) ไม่มีข้อพิสูจน์ยืนยันทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ยังไม่มีเคยเห็นหรือเคยได้ยินว่ามีข้อมูลยืนยัน
        (8.3.3) เป็นนาโนเทคโนโลยีตรงไหน หรือที่เส้นใย เป็นนาโนเทคโนโลยี ?
9. ปรับร่างกายให้สดใสอ่อนกว่าวัย จริงหรือ?  อย่างมากก็แค่ให้เหงื่อออกเยอะ ช่วยขับของเสียที่ออกมากับเหงื่อ ไปอบซาวหน้าดีกว่าไหม?
10. เรามาดูกำไรของผู้ขายชุดนี้กันดีกว่า
ได้ค่าคอมมิชชั่นชุดละ 4000 บาท ถุงเท้า 1500 บาทถ้าขึ้นระดับเอเย่นต์จะได้ค่าคอมมิชชั่นชุดละ 9000 บาทขายถุงน่องถุงเท้าได้ค่าคอมมิชชั่น 4000 บาท นี้ยังไม่รวมกำไรของบริษัทจัดจำหน่าย+ภาษี+ค่านำเข้า กำไรของผู้ผลิต อีกนะนิ 


สรุปง่ายๆ 1.โฆษณาเกินจริงและ ไม่มีหลักฐาน ข้อพิสูจน์ยืนยันทางวิทยาศาสตร์
             2.ผู้ขายได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ ขายได้เดือน ละชุดก็พอแล้ว
             3.จากผู้ใช้ส่วนใหญ่ บอกมาว่า ใส่ ยากและนาน อึดอัดทรมาณ ใส่สักพักก็เลิกใส่ บางคนที่ได้ผลก็บอกมาว่าใช้คู่กับการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย
             4.ลองคิดง่ายๆ หากคนที่มีรายได้เดือนละ 50,000 บาท ถ้าซื้อ คงไม่ต้องกินอะไรกันเลย ส่วนใครรายได้ต่ำกว่านั้น ถือว่าเกินตัว ส่วนใครที่คิดจะผ่อน กับผู้ขาย รับลองโดนดอกบาน 50,000บาทนี้ซื้อ จักรยานยนต์ที่ลูกขอ หรือ ซื้อคอม แรงๆ ได้เลย หรือ เอาไป เข้าคอสลดความอ้วน ขจัดผิดส้มได้สบายๆ เลย ได้ผล แน่น นอนและเร็วกว่า ที่คุณต้องมาทนอึดอัดกับชุดนี้ 6 เดือน
             5.ใคร รวย เงิน50,000นี้ จิ๊บๆ นี้ ซื้อไปเลย อย่างน้อยที่สุดตอนใส่ก็ดูดี
....................................................................... ....................

วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

สิวในโพรงจมูก สิวในรูจมูก การรักษา

สิวในโพรงจมูก หรือสิวในรูจมูกนั้น หากเป็นแล้ว จะสร้างอาการเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ถึงขนาด จับแล้วร้องให้จ้าเลยทีเดียว
สิวในโพรงจมูก สามารถเกิดได้แบบ แรนดอม ล้วนๆ ที่หมอบอกว่า เพราะสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันนะ มันจริงหรือ?
อาการเิ่ริ่มต้น แค่รู้สึกเจ็บนิดๆ ต่อมามันจะมากขึ้น

วิธีการรักษามีอยู่ด้วยกันหลายวิธี
1. ทำใจ รอมันหายเอง โชคดี 2วัน โชคร้าย 8-15 วัน พอหายแบ้ว อีก 3 วันเป็นใหม่ (โอ้!!)
2.บีบมัน วิธีนี้ทรมานที่สุดและยากที่สุด และเกิดการติดเชื้อ+ผลข้างเคียงมากที่สุด แต่ ทำเสร็จ วันหนึ่งหายเลย ระวังถ้าทำไม่สอาด จะเป็น ฝี ในโพรงจมูกแทน โอกาส 50:50 ( ตัวอย่าง เอาแนบหนีบขน ชุบแอลกอฮอล แล้วให้เพื่อนช่วยเป็นหมอให้เรา 5นาที หรือทำเอง )
3.กินยาเขียว มีสองยี่ห้อ ที่เคยกิน 1.ตราใบโพ 2.ตราใบห่อ
4.ไปหาหมอ งานนี้ หมอสามารถฟันเงินในกระเป๋าเรา ตั้งแต่ ร้องสองร้อย จนถึงหลักพันเลยทีเดียว
5.เอา สามพระยาแดง หรือปลาไหลเผือก (เป็นรากไม้ชนิดหนึ่ง) ทารอบๆ สิวหรือฝีในจมูก ไม่แนะนำสามพระยาแดงอย่างยิ่ง แนะนำปลาไหลเผือก ให้ใช้ทา (ฝนกับฝาหม้อดิน แล้วทา หรือเจือจางก่อน) และต้มน้ำกินด้วย (ฝนใส่น้ำประมาณ 1 กรัม )
6.แกะมัน การแกะมัน มีตอนมันแห้งๆ กับตอน เปียกๆ ตอนแห้งๆ ก็เหมือนแกะสิวนั้นแหละข้ามไป แต่ตอน เป็นห้วสิวใหม่ๆ นี้สิ มันจะเจ็มมาก และถ้ากลั้นใจเอาเล็บแกะมันละก็ มาจะไม่หาย จำไว้
7. ยาทา ไปหาอาแปะร้านขายยา แล้วบอกเขาว่าเป็น เขาจะเอายามาให้เราทา แต่!! มันยาทาภายนอกนิ
8.วิธีสุดท้าย พึ่งศาสนา
8.1 (พุทธ)สวนมนต์ นั่งสมาธิ ทำจิตใจให้ผ่องแผ่ว
8.2 (คริสต์) สวดอ้อนวอนต่อพระเจ้า ให้หายไว้ๆ หรือ เป็นบททดสอบจากพระเจ้า ให้เราเข้มแข็ง
8.3 (อิสลาม) พราะเจ้ากำหนดให้คุณเป็น ก็จงยอมรับมัน
8.4(อื่นๆ) ตามแต่กฏบัญญัติ
สรุปสั้นๆ ใครมีเงินและเวลาควรไปหาหมอ จะดีมาก แต่ใครไม่มี แต่ทนได้ ควรทน และกินยาเขียว ปลอบใจตัวเองไปก่อน
ปล. ถ้าบีบหรือแกะ เกิน 60นาทีแล้วไม่สำเร็จ ควรทำใจ และทำแผลในโพรงจมูกซะ ห้ามให้ยาแดงหรือทิงเจอร์เด็จขาด
ควรใช้ ผ้าก็อตหรือกระดาษเช็ดชู่ หรืออะไรนุ่มๆ ชุบน้ำผึ้ง แล้วยัดจมูก ถ้าไม่มีก็เอาขมินโป๊ะ ถ้าไม่มีอีก สุดท้ายจริงๆ ขุดถึงขยะสดออกมาหาเปลือกมังขุดมาล้างแล้วเคี้ยวๆ แล้วยัดจมูกซะ ( อี๊~ !!!!!!)

การป้องกัน
1.อย่าเอานิ้วสกปรกมาแหย่จมูก หรือสิ่งอื่นๆที่แปลกปลอม
2.หลีกเลี่ยงที่ๆมีฝุ่นละออง
3.ออกกำลังทำให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ
ข้อสุดท้าย ที่ทำมาทั้งหมด มันไม่ได้ผล คนอื่นที่ไม่ทำ เขาก็ไม่เป็น

วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

test-poipoi1

ทดสอบการสร้างบล็อก ฯลฯ
ระหว่างรอการตัดสินใจเรื่องบล็อกและข้อมูลต่างๆ
tasting build blog