ผองเพื่อนได้รวมรวมดราม่า ของ โอลิมปิก (Olympic) 2024 ไว้ ณ.ที่นี้
เรื่องแรก การ ล้อเลียนภาพ "พระกระยาหารมื้อสุดท้าย" ( The Last Supper ) ในพิธีเปิดโอลิมปิกที่ปารีส 2024 the last supper olympic 2024
การแสดงที่ล้อเลียน "พระกระยาหารมื้อสุดท้าย": ในพิธีเปิด มีการแสดงที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าล้อเลียนภาพ "The Last Supper" ของลีโอนาร์โด ดา วินชี ทำให้เกิดกระแสตอบรับในทางลบจากผู้ชมบางส่วน โดยเฉพาะในโลกออนไลน์และโซเชียลมีเดีย บางคนมองว่าการแสดงนี้ไม่เหมาะสมและไม่เคารพต่อศาสนาคริสต์
จนมีเหตุการถอนตัวการสนับสนุน ของ C Spire
เรื่องที่สอง ในโอลิมปิก 2024 ที่ปารีส มีการร้องเรียนจากหลายประเทศเกี่ยวกับปัญหาอาหารในหมู่บ้านนักกีฬา โดยนักกีฬาหลายชาติ เช่น สหราชอาณาจักร ได้ส่งเชฟของตนเองมาเนื่องจากปัญหาเรื่องปริมาณและคุณภาพของอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการและไม่ตรงตามมาตรฐานที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น ทีมสหราชอาณาจักรนำเชฟไปเอง ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ‘ปารีส 2024’ หลังร้องเรียนปริมาณอาหารในหมู่บ้านนักกีฬาไม่เพียงพอและคุณภาพต่ำ ตอนนี้สหราชอาณาจักรได้ส่งเชฟไปปรุงอาหารให้กับคณะนักกีฬาและผู้แทนจากสหราชอาณาจักร ที่กรุงปารีสของฝรั่งเศส ในการแข่งขันโอลิมปิก เนื่องจากถูกร้องเรียนว่าปริมาณอาหารไม่เพียงพอกับความต้องการ และคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน ขณะที่แอนดี แอนสัน ผู้บริหารระดับสูงของ มาคมโอลิมปิกแห่งอังกฤษให้สัมภาษณ์กับ The Times โดยอ้างว่าอาหารในหมู่บ้านนั้นไม่เพียงพอ เช่น ไข่ หรือเนื้อสัตว์ รวมถึงมีเนื้อสัตว์ดิบเสิร์ฟให้นักกีฬา ซึ่งนักกีฬาต้องมาปรุงให้สุกต่อเอง จากเหตุนี้เองทำให้นักกีฬาต้องหันไปบริโภคอาหารที่อร่อยกว่าที่สมาคมโอลิมปิกอังกฤษ (BOA) ที่ตั้งอยู่ในเมืองกลิชีห่างจากหมู่บ้านโอลิมปิก 20 นาที เชฟที่ถูกส่งมา มาทำอาหารให้เหล่านักกีฬาที่นี่ ซึ่งไม่เพียงแต่ทานอาหารกลางวันเท่านั้น แต่พวกเขายังเก็บอาหารเย็นกลับมาด้วย เนื่องจากไม่ต้องการรับประทานอาหารที่หมู่บ้านนักกีฬาแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางผู้จัดงานโอลิมปิกให้ความมั่นใจว่าอาหารในหมู่บ้านนักกีฬามีระดับมิชลินสตาร์ ภายในหมู่บ้านโอลิมปิกมีร้านอาหารขนาด 3,300 ที่นั่งพร้อมห้องอาหารที่มีโซนอาหาร 6 โซนที่ให้บริการอาหารจากทั่วโลก รวมถึงอาหารมังสวิรัติ ด้านผู้จัดการเรื่องอาหารสำหรับนักกีฬาภายในหมู่บ้าน เผยว่า ได้ตำหนิปัญหาอุปทานสำหรับอาหารที่มีมาตรฐานต่ำกับบริษัท Sodexo Live ซึ่งเป็นบริษัทที่รับผิดชอบด้านจัดเลี้ยง โดยยอมรับว่าบริษัทได้เพิ่มคำสั่งซื้อประจำวันของสินค้ายอดนิยมหลายรายการหลังจากถูกร้องเรียน
(Paris 2024 Olympics) (Inside The Games) (Bolavip)
https://www.facebook.com/photo/?fbid=901256142017172 |
เรื่องที่สาม เรื่อง ผู้เข้าชมพิธีเปิดในงาน กลายเป็นหมาเปียก ไม่ได้ชื่นชมความส่วนงาม เหมือนกับคนที่ดู ยูทูปอยู่บ้าน คือถึงเข้าไปชม แต่ก็ต้องดูผ่านจออยู่ดี แล้วจอที่ฉาย ดูบนมือถือ ชัดกว่าซะงั้น?
ในพิธีเปิดโอลิมปิก 2024 ที่ปารีส ผู้เข้าชม ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่มีฝนตก ทำให้ต้องยืนตากฝนขณะชมการแสดง ซึ่งเป็นพิธีเปิดที่จัดขึ้นกลางแจ้งบนแม่น้ำแซน (Seine River) แทนที่จะเป็นในสนามกีฬาตามปกติ ผู้คนได้แสดงความไม่พอใจและวิจารณ์ผู้จัดงานในสื่อสังคมออนไลน์ว่าควรมีการจัดเตรียมสถานที่ให้นั่งหรือที่กำบังที่ดีกว่านี้
https://www.msn.com/en-ca/news/world/olympic-opening-ceremony-live-team-canada-floats-down-the-seine-as-lady-gaga-performs/ar-BB1qGVww?ocid=BingNewsVerp |
เรื่องที่ 4 ดราม่า ชาวเขมร เรียกเรื่องความเท่าเทียม ในการกล่าวแนะนำประเทศเขมร (พิธีกรแค่บอกว่าเป็นอดีตชาติอาณานิคมของฝรังเศส และก็ตัดจบไปประเทศอื่นอย่างไร้เยื่อใย) และเรื่องเรือ ที่น่าน้อยใจ ตามภาพ
https://www.facebook.com/ASEANMONGTHAIV1/photos/โดดเดียวเดียวดายในท้องเล-ลมดัดลมเพไปตามกระแส/1248090626523505/ |
เรื่องที่ 5 การปฏิเสธการเข้าร่วมของนักกีฬารัสเซียและเบลารุส: การรวมนักกีฬาจากรัสเซียและเบลารุสเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงอย่างมากในแง่ของการเมืองและการกีฬา ซึ่งมีผลกระทบต่อการเข้าร่วมของพวกเขาในโอลิมปิก
เรื่องที่ 6 เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการคอร์รัปชั่น: การค้นหาที่สำนักงานจัดงานโอลิมปิกปารีส 2024 ในกรอบการสอบสวนเรื่องการทุจริตและการประพฤติมิชอบในการมอบสัญญาสาธารณะถือเป็นประเด็นดราม่าที่สำคัญอีกประการหนึ่ง
ในโอลิมปิก 2024 ที่ปารีส เกิดประเด็นอื้อฉาวเกี่ยวกับการคอร์รัปชั่น ซึ่งนำไปสู่การตรวจค้นสำนักงานของคณะกรรมการจัดงานโอลิมปิก (COJOP) และ SOLIDEO ซึ่งเป็นองค์กรที่รับผิดชอบการก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับงานโอลิมปิก โดยหน่วยงานต่อต้านการทุจริตของฝรั่งเศส (AFA) ได้เริ่มการสอบสวนในปี 2017 เพื่อตรวจสอบกรณีการทุจริตในการมอบสัญญาจ้างต่างๆ รวมถึงการใช้งบประมาณสาธารณะโดยไม่โปร่งใสและการเล่นพรรคเล่นพวก สำนักงานอัยการการเงินของฝรั่งเศส (PNF) ยังทำการตรวจค้นหลายสถานที่ รวมถึงสำนักงานใหญ่ของคณะกรรมการจัดงานและบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้อง การสอบสวนเน้นไปที่ความไม่โปร่งใสในการจัดการและการให้สัญญาจ้างที่อาจมีการกระทำทุจริต ประเด็นเหล่านี้ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความโปร่งใสในการจัดงานโอลิมปิก และทำให้เกิดความสงสัยว่าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกนี้อาจไม่ปลอดจากปัญหาทุจริต เหมือนกับการจัดงานในครั้งก่อนๆ เช่นที่โตเกียวและริโอเดจาเนโร ซึ่งมีเรื่องอื้อฉาวเช่นกัน (WHYY) (POLITICO) (Sky Sports)
เรื่องที่ 7 ในโอลิมปิก 2024 ที่ปารีส มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการจัดการผู้ไร้บ้าน โดยมีการย้ายที่พักและการเคลื่อนย้ายผู้ไร้บ้านออกจากพื้นที่เมืองในช่วงการแข่งขัน การกระทำนี้ถูกมองว่าเป็นความพยายามในการทำความสะอาดพื้นที่เมืองเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขัน ส่งผลให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน ผู้ไร้บ้านถูกย้ายไปยังเมืองอื่น ๆ ซึ่งเป็นการบังคับให้พวกเขาต้องออกจากพื้นที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่และคุ้นเคย มีองค์กรกว่า 60 แห่งประณามว่าเป็น "การชำระล้างทางสังคม" โดยไม่สนใจสิทธิของผู้ไร้บ้าน
https://www.euronews.com/2023/12/11/paris-olympics-whats-happening-to-the-citys-homeless-community |
เรื่องที่ 8 ดราม่าของโอลิมปิก 2024 ที่ปารีสเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีการเฝ้าระวังด้วย AI เน้นความกังวลว่าการใช้เทคโนโลยีนี้อาจละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมในอนาคต ซึ่งเป็นข้อถกเถียงเกี่ยวกับความสมดุลระหว่างการรักษาความปลอดภัยและการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของประชาชน
เรื่องที่ 9 ในโอลิมปิก 2024 ที่ปารีส มีการถกเถียงเรื่องนักกีฬาหลายประเทศที่นำเครื่องปรับอากาศของตนเองมาใช้ ซึ่งรวมถึงนักกีฬาจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ สาเหตุหลักมาจากความกังวลเกี่ยวกับอุณหภูมิที่สูงที่อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการแข่งของนักกีฬา ในขณะที่ฝ่ายผู้จัดงานโอลิมปิกพยายามรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการไม่ใช้เครื่องปรับอากาศในหมู่บ้านนักกีฬา แต่นักกีฬาหลายคนและเจ้าหน้าที่มองว่าเครื่องปรับอากาศเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาสมรรถภาพและสุขภาพของนักกีฬา
การตัดสินใจนำเครื่องปรับอากาศของตนเองมาถูกวิจารณ์ในด้านสิ่งแวดล้อม เพราะการใช้เครื่องปรับอากาศอาจเพิ่มปริมาณการปล่อยคาร์บอน ซึ่งขัดกับความพยายามในการทำให้งานโอลิมปิกครั้งนี้เป็นงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด
ทั้งนี้ การจัดการในเรื่องนี้ยังสร้างความไม่เท่าเทียมกันระหว่างประเทศที่มีทรัพยากรเพียงพอในการจัดหาความสะดวกสบายให้กับนักกีฬาและประเทศอยากจน ที่มีทรัพยากรจำกัด ทำให้เกิดคำถามกี่ยวกับความยุติธรรมในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้
เรื่องที่ 10 ดราม่าอิสราเอล อันนี้ไม่พูดละกัน ติ่งเยอะ คนไทยส่วนใหญ่ คิดว่าสหรัฐกับอิสราเอลไม่เคยผิดและเป็นพระเอกเสมอ เล่าข่าวไป ก็โดนเปล่าๆ
เรื่องที่ 11 เกิดประเด็นเกี่ยวกับการใช้ "เตียงต่อต้านเซ็กส์" ในหมู่บ้านนักกีฬา เตียงเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างนักกีฬา โดยใช้วัสดุที่ทำจากกระดาษแข็งซึ่งอาจจะยุบตัวได้เมื่อรับน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนด ถึงแม้ว่าคณะกรรมการจัดงานจะชี้แจงว่าเตียงเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อความยั่งยืนและลดการใช้วัสดุที่ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นักกีฬาบางคนได้ทดสอบและยืนยันว่าเตียงมีความแข็งแรงพอสมควร ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เฉพาะเพื่อป้องกันการมีเพศสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ ยังมีการแจกถุงยางอนามัยจำนวน 300,000 ชิ้นในหมู่บ้านนักกีฬา เพื่อส่งเสริมการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
https://board.postjung.com/1546700 |
เรื่องที่ 12 ถูกกล่าวหาว่า ไม่ได้รักษ์โลกจริงๆ เพราะทำให้เกิดปัญหาเรื่องโลกร้อน ขยะ ฯลฯมากมาย จนโดนกล่าวว่าเป็น Greenwashing ยกตัวอย่างจากในข้อ 11
"เตียงต่อต้านเซ็กส์" ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจเป็นส่วนหนึ่งของการทำ Greenwashing คือการแสดงภาพลักษณ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยไม่มีการปฏิบัติที่จริงจังจริงๆ เตียงเหล่านี้ถูกทำจากกระดาษแข็งที่สามารถรีไซเคิลได้ แต่ในขณะเดียวกันการใช้เตียงดังกล่าวยังถูกวิจารณ์ว่าทำให้เกิดปัญหาด้านขยะและการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิตและขนส่ง
แม้จะมีการแสดงความตั้งใจในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่มีการตั้งข้อสงสัยว่าโครงการเหล่านี้เพียงพอต่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและขยะที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่ นักวิจารณ์บางคนระบุว่าการใช้เตียงที่ทำจากกระดาษแข็งอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมได้จริง และเป็นเพียงการทำให้ดูเหมือนว่าโอลิมปิกใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากกว่าที่เป็นจริง
การกล่าวหาเรื่อง Greenwashing ในกรณีนี้สะท้อนถึงการวิจารณ์ว่าความพยายามในการทำให้โอลิมปิกดูเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั้นอาจเป็นเพียงภาพลักษณ์ที่สร้างขึ้นมาโดยไม่จริงจัง
ซึ่งยังมีอีกหลายเรื่อง ที่ไม่ได้กล่าวถึง
https://www.scientificamerican.com/article/the-paris-olympics-are-a-lesson-in-greenwashing/ |
เรื่องที่ 13 การขุด พระนางมารี อ็องตัวแนต มาใช้ในพิธีเปิด ได้ทั้งเสียงชื่นชม เสียงบอกไม่เหมาะสม หรือเสียในด้านลบ ซึ่ง แบ่งเป็นสองฝ่ายชัดเจน
"Let them eat cake ไม่มีขนมปัง ก็กินเค้กสิ"
ในปี 2024 ประโยคนี้ สำหรับผม และนักประวัติศาสตร์รุ่นใหม่ นี้ สามารถ การตีความถึงการ โกหก โฆษณาชวนเชื่อ เพื่อให้เกลียดชัง ก็เป็นได้ แล้วไม่ได้มีเรื่องนี้เรื่องเดียว แต่ยังมีอีกหลายๆเรื่อง ที่เขียนบน นสพ.ให้ประชาชน อ่าน โดยไม่ได้มีข้อเท็จจริง หรือเรียกง่ายๆว่านั่งเทียนด้วยซ้ำ กันตั้งแต่ พระนาง มาฝรั่งเศส ตอนยังอายุไม่ถึง 15 ด้วยซ้ำ ไม่รู้ ว่า เพียงต้องการหาเรื่องขายข่าวที่ประชาชนอยากอ่าน หรือยังไง อะไร?
เดียวอาจจะนำไปเขียนต่อ บทความใหม่ ว่า เราโดนหลอก ให้เชื่่อหรือเกลียด เรื่องอะไรเกี่ยวกับพระนางบ้าง
----
ประกอบ ในข้อ แรก เพิ่มเติม
หลังจากออกมาขอโทษและแก้ตัวว่าไม่ได้ล้อ The Last Supper
แต่นักแสดง ที่อยู่ตรงกลางโต๊ะ ที่อวบๆหน่อย ได้โพสตอกฝาโลกไปแล้ว
ตามภาพ
อันนี้ไม่ต้องเชื่อ ลองตีความเอง แล้วดูว่า คนส่วนใหญ่ตีความไปทางไหนhttps://www.youtube.com/watch?v=-6oRbGiVQ0o